ตอนที่ 9 คืนชีพ

หมอหลวงยืนตัวสั่น จ้องมองดรุณีน้อยตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา นางตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาจะตรวจกี่ครั้ง นางก็ไม่มีโอกาสรอด แล้วเหตุใดตอนนี้นางจึงจ้องเขาได้ล่ะ

"ข้าถามว่าเจ้าเป็นคนหรือผี เหตุใดจึงจ้องข้าเช่นนั้น"

หมอหลวงจ้องตากับเจียงลี่มี่ แต่นางก็ไม่กล่าวสิ่งใด นอกจากจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเหลียวมองโดยรอบ หมอหลวงที่ยามนี้ตั้งสติได้แล้วจึงค่อยๆ เอ่ยออกมา

"เอาเถอะ หากเจ้าเป็นผี ตอนนี้คงสำแดงฤทธิ์ให้ข้าประจักษ์แล้ว ดูท่าแล้ว เจ้าน่าจะฟื้นจากความตาย นอนนิ่ง ๆ ให้ข้าตรวจเสียก่อน"

เด็กสาวตรงหน้ายังคงนิ่งเงียบ หมอหลวงที่ก้าวเข้ามาหาก็ยื่นมือแตะตรวจชีพจรนาง

"แปลก แปลกยิ่งนัก ชีพจรของเจ้าเต้นปกติ ราวกับคนละคนกับเมื่อครู่" หมอหลวงกล่าวออกมา เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ และตรวจชีพจรอย่างละเอียดอีกครั้ง หากยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม

เจียงลี่มี่ยังคงจ้องมองเขา สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย

"นี่ข้าฝัน? เหตุใดจึงประหลาดเช่นนี้ ร่างกายแม้อ่อนแอเช่นเดิม แต่ชีพจรกลับเป็นปกติ ยามที่เจ้ายังเยาว์กว่านี้ ชีพจรยังไม่ปกติเท่านี้" หมอหลวงเอ่ยอย่างสงสัยขึ้นทุกที

เจียงลี่มี่ยังคงนอนอยู่และมองมาอย่างเงียบ ๆ

"ดวงตาเจ้าสดใส เมื่อก่อนที่ข้ามาตรวจ บ่อยครั้งที่ข้าสบตากับเจ้าแล้วเหมือนข้าสบตากับคนตาย และปกติร่างกายของเจ้าจะเย็นชืด แต่ยามนี้กลับอุ่นเช่นเดียวกับคนทั่วไป" หมอหลวงได้แต่งงงัน

หรือว่าหลังจากตายไปแล้ว หากฟื้นขึ้นมา ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น เขาเป็นหมอมาเกินครึ่งชีวิตยังไม่เคยพบเจอเรื่องประหลาดเช่นนี้

"บุคคลที่สิ้นวาสนา หวนกลับมามีชีวิต ช่างน่าแปลกนัก เจ้าตอบข้าได้หรือไม่ ตายแล้วเจ้าไปที่ใด เหตุใดจึงหวนคืน" หมอหลวงถามอย่างไม่เข้าใจ

ทว่าเจียงลี่มี่ยังคงเงียบงัน นางเอาแต่จ้องมองเขา

"เจ้าจะจ้องข้าด้วยสายตาเช่นนี้ไม่ได้ ยามนี้เจ้าจ้องข้าราวกับจะสูบวิญญาณ เจ้ากำลังทำให้ข้ากลัว"

หมอหลวงถอยออกห่าง เมื่อเด็กสาวผู้นี้จ้องเขาไม่วางตา ไม่ว่าเขาจะขยับไปทางใด นางก็มองตาม ยามนี้เขาเริ่มขนลุกชัน เขากลัวนางจริงๆ แล้ว

"ท่านหมอหลวงเจ้าคะ เหตุใดท่าน...เอ่อ...ท่านหมอหลวงไยท่านจึงนอนที่พื้นเช่นนี้ มันสกปรกนะเจ้าคะ" เสี่ยวจูถามขึ้น นางกลับจากต้มยาและนำยามาให้ ทราบแล้วว่าคุณหนูใหญ่ของตนสิ้นชีวิตแล้ว และตอนนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายเจียงหมิ่นให้นางมาตามหมอหลวงไปดูอาการของฮูหยินเอก

แต่เมื่อนางเปิดประตูห้อง ร่างของหมอหลวงที่ยืนชิดประตูก็หงายหลังลงไปนอนที่พื้นทันที และเมื่อเสี่ยวจูมองไปที่เตียงของเจียงลี่มี่ นางก็ต้องเบิ่งตากว้าง

"คุณหนูใหญ่ ! !"

นางอุทานออกมาและก้าวเข้าไปหาทันที นางจึงชนเข้ากับหมอหลวงที่กำลังลุกขึ้น ทำให้หมอหลวงล้มลงไปอีกครั้ง

“ขออภัยเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูกล่าวออกมาแล้วก็ไม่สนใจอีกต่อไป เพราะตอนนี้นางสนใจเพียงคุณหนูใหญ่ของนางเท่านั้น

“คุณหนูใหญ่” นางเรียกอีกครั้ง และยกมือคุณหนูของนางมาแนบแก้มก่อนจะร้องไห้ออกมา

"คุณหนูใหญ่ ท่านทราบหรือไม่ ข้าเกือบกลั้นใจตายตามท่านไปแล้ว แต่ฮูหยินเอกมารดาท่านเป็นลมเสียก่อน ข้าจึงคิดว่าหลังฮูหยินเอกฟื้นแล้ว ข้าจะกลั้นใจตายตามท่านไป ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อหากไม่มีท่าน”

“แต่ข้าก็กังวลยิ่ง หากตายตามท่านช้าไป ข้าอาจหาท่านไม่พบ ข้าคิดจนปวดหัวเจ้าค่ะ คุณหนูตายด้วยโรค แต่ข้านั้นต่างกัน หากข้ากลั้นใจตาย ยมทูตอาจไม่ยอมให้ข้าได้เจอท่าน คงจับข้าลงนรก”

“เช่นนั้นข้าควรตายตามท่านด้วยการเป็นโรคร้ายแรง แต่ข้าก็แข็งแรง ข้าจะตายตามท่านได้อย่างไร คุณหนูตายแล้ว ข้าก็ไม่อยากอยู่ต่อ ข้าควรทำเช่นไรดีเจ้าคะที่จะได้พบท่าน"

เสี่ยวจูกล่าวด้วยความสับสน นางอยากตายตามคุณหนูใหญ่ของนาง แต่กลับไม่ทราบว่าจะต้องตายอย่างไรจึงจะได้พบกันอีกครั้ง

คำพูดของเสี่ยวจูทำให้คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายต้องขมวดคิ้วพร้อมสีหน้าสับสนและงุนงง เสี่ยวจูที่ร้องไห้จนพอใจค่อยได้สติ นางเงยหน้ามาสบตากับคนบนเตียง ก่อนจะผวาถอยหลังจนล้มลงก้นจ้ำเบ้า

"กรี๊ดดดดด...ผีหลอก คุณหนูใหญ่จ้องตากับข้า!"

เสียงเสี่ยวจูดังลั่นจวน บ่าวไพร่ในเรือนพากันวิ่งมาดู ว่านลู่เหมยที่เพิ่งคืนสติได้ยินคำพูดของเสี่ยวจู นางลุกจากเตียง วิ่งมาที่ห้องของบุตรสาว เมื่อเข้ามาถึง นัยน์ตานางจึงสบเข้ากับดวงตาใสแจ๋ว ว่านลู่เหมยอ้าปากค้างอย่างตกใจ

บ่าวไพร่ที่ติดตามมาดูต่างสบตากับคุณหนูใหญ่ ทั้งหมดตกตะลึง ถอยหลังวิ่งออกไปด้วยความหวาดกลัว

เจียงหมิ่นค่อย ๆ เดินมาหยุดตรงหน้าบุตรสาวที่ตายไปก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กำลังสบตากับตนเอง เขาหันไปหาหมอหลวงด้วยสายตาตื่นตะลึง

"ท่านหมอหลวง ท่านทำได้อย่างไร ท่านรักษาบุตรสาวข้าได้ ! ท่านต้องการสิ่งใดตอบแทน เชิญบอก ข้าจะหามาให้แน่นอน” เจียงหมิ่นกล่าวด้วยความตื่นเต้น หมอหลวงต้องมีท่าทีลำบากใจ ตัวเขายังไม่ได้ทำสิ่งใด นางฟื้นมาได้อย่างไรก็สุดรู้

"เอาเถอะ ในเมื่อสวรรค์เมตตา ต่อไปก็ดูแลนางให้ดี ส่วนเรื่องของตอบแทน ข้าไม่รับ" คำตอบของหมอหลวงยิ่งสร้างความเลื่อมใสให้กับทุกคน

"บุตรสาวข้าฟื้นแล้ว นางเป็น...เอ่อ...คนใช่หรือไม่" ว่านลู่เหมยใช้นิ้วจิ้มไปตามตัวของบุตรสาว สายตาตกตะลึงไม่หาย

"เป็นคนสิ" หมอหลวงยืนยัน เท่านั้นฮูหยินใหญ่ผู้นี้ก็หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ

"สวรรค์เมตตาแล้ว พรุ่งนี้ท่านพี่ไปศาลเจ้ากับข้านะเจ้าคะ" ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยหันมาบอกสามี

เจียงหมิ่นเลิกคิ้วมองนางอย่างไม่เข้าใจ

"เหตุใดจึงต้องรีบร้อนไปนัก ให้มี่เอ๋อร์หายดีก่อน ค่อยไปไม่ดีกว่า?"

"ไม่ดีเจ้าค่ะ ต้องไปพรุ่งนี้ วันก่อนข้าใจคอไม่ดี จึงไปขอพรให้มี่เอ๋อร์แข็งแรง ข้าบนที่ศาลเจ้าไว้ว่าหากมี่เอ๋อร์รอดพ้นความตาย วันต่อไปท่านพี่ต้องวิ่งรอบศาลเจ้าสิบรอบเจ้าค่ะ"

เจียงหมิ่นนิ่งอึ้ง กล่าวอะไรไม่ออกทั้งสิ้น นี่เขาต้องวิ่งรอบศาลเจ้าสิบรอบ !?

ฮูหยิน เจ้าถามข้าสักคำหรือยัง ! !

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ