ตอนที่ 17 ออกหน้าช่วยเหลือ

หลี่ถิงถิงเห็นความปรีดาปรากฏขึ้นบนหน้านายท่านพลันเกิดความรู้สึกปลอดภัยขึ้นอย่างประหลาด การมีบุรุษสูงศักดิ์ผู้นี้อยู่เป็นต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงายิ่งทำให้มั่นใจหลายส่วนว่าจะได้รับความเป็นธรรมคืนแก่สกุลหลี่ของตนเอง

ด้านชุนฉินตกตะลึงเห็นท่านอ๋องยิ้มแย้มหัวเราะเบาๆ เขาแทบจะหยุดหายใจ ภูเขาน้ำแข็งละลายเป็นน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่านอ๋องผิงหลิงจิตใจเย็นชา ใบหน้านิ่งขรึม ไม่เคยพูดจาหยอกล้อเหลาะแหละ ทุกอากัปกิริยางามสง่าสะท้อนกลิ่นอายสูงศักดิ์ ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้กระทั่งเชื้อพระวงศ์ราชสกุลก่อตั้งแคว้นยังหลีกทางห่างไกลยกเว้นผู้ใต้บัญชาคนสนิทที่ท่านอ๋องคลุกคลีด้วย

“แต่เรือนของข้า” หลี่ถิงถิงหุบยิ้มพลันนึกถึงปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแล้ว เรือนหลังเล็กนี้พักได้มากสุดแค่สองคน บัดนี้มีชุนฉินกับชายฉกรรจ์อีกนับสิบคนจะไปพักกันที่ไหน

“เรื่องที่พักคุณหนูหลี่มิต้องกังวลขอรับ พวกข้าน้อยเช่าโรงเตี๊ยมในตัวอำเภอหนิงเซี่ยไว้แล้ว การเดินทางมาหมู่บ้านหลี่เชี่ยนมิได้ลำบากอันใด อย่างไรข้าน้อยขอฝากท่าน...อ” ชุนฉินชะงักนิ่งครู่หนึ่งพลางนึกได้ว่าแม่นางน้อยเรียกท่านอ๋องว่า “นายท่านสักระยะขอรับ รบกวนแล้ว” ประสานมือคำนับอย่างนอบน้อม

“เจ้าค่ะ” หลี่ถิงถิงยอบกายลงอย่างอ่อนช้อยถูกต้องตามจรรยามารยาทสตรีชั้นสูง มู่หรงเฉินเยี่ยนเห็นเข้าพลันรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลย ‘นางรู้จรรยาสตรี’ ทดความสงสัยไว้ในใจแล้วส่งสายตาให้ชุนฉิน

“เดี๋ยวข้าจะออกไปส่งเขา” มู่หรงเฉินเยี่ยนบอกหลี่ถิงถิง อีกฝ่ายกำชับกำชาเรื่องระมัดระวังสายตาสาวใช้เสี่ยวถานด้วย นางชอบมาลับๆ ล่อๆ สอดส่องเคยจับได้หลายครั้ง เดินออกมาพ้นเขตเรือนอ๋องผิงหลิงล้วงจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงเจ้าเมืองเทียนสุ่ยยื่นส่งให้ชุนฉินทั้งสั่งการเน้นย้ำ

“ต้องถึงวันพรุ่ง”

สองวันต่อมาหลี่ถิงถิงถูกเสี่ยวถานมาตามถึงเรือนเรียกให้ไปช่วยงานเพราะตอนนี้สกุลเหนียนเตรียมพิธีมอบหนังสือหมั้นหมายแก่จวนนายอำเภอจาง คนไม่พอเป็นคำกล่าวอ้างของเสี่ยวถาน

หลี่ถิงถิงหรี่ตามองท่าทางกระหยิ่มจนลืมตัวของเสี่ยวถานแล้วส่ายหัวด้วยความขบขัน ‘อะไรคือคนงานไม่พอ’ จวนนายอำเภอจางส่งคนมาทำความสะอาดเรือนวันละสิบกว่าคน ก็แค่เรือนหลังเล็กจะใช้กำลังคนเป็นร้อยเลยหรือ อีกทั้งนางไม่ใช่สาวใช้เสี่ยวถานไม่มีสิทธิ์จิกหัวเรียกเช่นนี้ ทว่าแม้นใจคิดโต้แย้งแต่เพราะไม่อยากให้เสี่ยวถานยืนชะเง้อคอมองลอดเข้าด้านในเรือนนางจำต้องยอมเออออ

ไม่ใช่ไม่รู้เท่าทันเสี่ยวถานไม่ได้ตั้งใจมาเรียกหลี่ถิงถิงไปช่วยงานอันใดเลย แต่จงใจให้นางเห็นพิธีหมั้นหมายระหว่างนายหญิงของตนกับเหนียนซูหยวน ‘น่าสมเพช’ หลี่ถิงถิงยิ้มเยาะในใจ

มู่หรงเฉินเยี่ยนมองแผ่นหลังหลี่ถิงถิงเดินตามเสี่ยวถานไปจนพ้นครรลองสายตา จากนั้นพุ่งทะยานออกทางหน้าต่าง กระโดดข้ามกำแพงแล้วหยัดยืนสองมือไพล่หลัง พริบตาต่อมาชุนฉินพร้อมหน่วยกิเลนดำห้าคนปรากฏกาย ทั้งหมดเตรียมทำความเคารพทว่าถูกท่านอ๋องยกมือห้ามปราม

“ที่นี่มิใช่เมืองผิงหลิง”

ชุนฉินกับลูกน้องพยักหน้าเบาๆ เข้าใจ เป็นพวกเขาที่เผลอไผลลืมตัว “ทูลท่านอ๋อง เจ้าเมืองเทียนสุ่ยมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ชุนฉินรายงานเสียงเรียบนิ่ง แม้นในใจจะเกิดความสงสัยมากมายแต่เขาพอคาดเดาได้หลังได้รับบัญชาจากท่านอ๋องให้สืบเสาะหลายเรื่อง

ประวัติความผิดนายอำเภอจาง ขุดลงไปสามชั่วโคตรให้ได้มากที่สุด ประวัติความเป็นมาของนางเย่ซื่อภรรยาบัณฑิตชิ่วไฉสอบตกสกุลเหนียน และครอบครัวสกุลหลี่ของแม่นางน้อย

“ท่านเจ้าเมืองพักอยู่ที่ไหน เจ้าใช่บอกเขาหรือไม่” มู่หรงเฉินเยี่ยนถามเน้นเสียงทีละคำ “ห้ามเขาสวมใส่ชุดขุนนางหรือปรากฏตัวในอำเภอหนิงเซี่ย” ดวงตาท่านอ๋องมีความกังวลใจพาดผ่าน แผนการช่วยเหลือถิงเอ๋อร์ต้องรัดกุมที่สุด ไม่เช่นนั้นท่านตาท่านยายของนางต้องถูกนายอำเภอจางใช้กฎหมายในทางมิชอบกดหัว ไม่แน่ทรัพย์สมบัติทวงคืนไม่ได้หนำซ้ำสูญเสียหลี่ถิงถิงให้กับสองสามีภรรยาสกุลเหนียน

“ท่านเจ้าเมืองทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ชุนฉินเห็นเจ้านายถอนหายใจโล่งอก ตนเองยิ่งรู้สึกว่าแม่นางน้อยเป็นคนสำคัญกับท่านอ๋องผิงหลิงอย่างแท้จริง ปกติท่านอ๋องไม่มาใส่ใจขั้นตอนวิธีการ พระองค์มองแต่ผลลัพธ์อย่างเดียว

“แล้วท่านตาท่านยายสกุลจ้าวเล่า เดินทางถึงไหนแล้ว” มู่หรงเฉินเยี่ยนไม่เพียงวางแผนซ้อนแผนทั้งยังวางแผนครอบคลุมไปถึงท่านตาท่านยายของหลี่ถิงถิงด้วย เขาเกรงว่าสองสามีภรรยาสกุลเหนียนจะไหวตัวทัน ขอความช่วยเหลือจากว่าที่พ่อตานายอำเภอจางให้ช่วยเหลือ นายอำเภอจางมีประวัติสังหารคนปิดปากมาแล้วแต่คดีนั้นไม่พัวพันเกี่ยวข้องกับท่านอ๋องผิงหลิง พระองค์รับรู้แต่ไม่แยแส

หน่วยกิเลนดำเป็นหน่วยงานรวบรวมข่าวกรองเรื่องราวของเหล่าขุนนางทุกสกุลและเชื้อพระวงศ์ทุกราชสกุล ทุกจวนทุกราชวังมีคนของหน่วยกิเลนดำแทรกซึมคอยเป็นหูเป็นตา พวกเขาพึ่งผิดพลาดครั้งแรก...ปล่อยโอวหยางจวิ้นอ๋องส่งนักฆ่าลอบปลงพระชนม์เจ้านายเมื่อยี่สิบกว่าวันก่อน

แต่หาใช่ความผิดของหน่วยกิเลนดำทั้งหมด ในเมื่อคำสั่งท่านอ๋องผิงหลิงจะเสด็จเยือนเรือสำราญพระสหายสนิทสองสามคนเท่านั้น ห้ามพวกตนติดตามเด็ดขาด กว่าหน่วยกิเลนดำจะรู้ท่านอ๋องประสบเหตุก็ล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วยาม อีกทั้งต้องช่วยคุ้มครองบัณฑิตเฝิงจวี่เหรินที่ร่วมเสด็จกับท่านอ๋องครานั้น บัณฑิตเฝิงบาดเจ็บสาหัสแต่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว

“อ้อ! อีกเรื่อง” เสียงท่านอ๋องดึงชุนฉินออกจากห้วงความคิด “เวิ่นเสี่ยเล่า?” มู่หรงเฉินเยี่ยนถามหาราชองครักษ์คนสนิทที่ใช้ร่างกายรับลูกเกาทัณฑ์แทนพระองค์ ส่วนบัณฑิตเฝิงพระองค์ทราบแล้วหน่วยกิเลนดำช่วยเหลือไว้ทันท่วงที ตอนนี้พักอยู่ในจวนเมืองเทียนสุ่ย ท่านอ๋องผิงหลิงรัวคำถาม

ชุนฉินโบกมือให้ลูกน้องที่รับผิดชอบหน้าที่แต่ละคำถามของเจ้านายให้ก้าวขึ้นหน้ามาตอบ คนแรกนามตอบเกี่ยวกับญาติแม่นางน้อย

“ทูลท่านอ๋องครอบครัวสกุลจ้าวสี่ชีวิตเดินทางคาดจะถึงหมู่บ้านหลี่เชี่ยนวันพรุ่งพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงเฉินเยี่ยนพยักหน้ารับรู้

“ข้าจะได้ให้ถิงเอ๋อร์พาพวกเขาไปซ่อนตัวก่อน มิอาจปล่อยให้สกุลเหนียนพบเห็นได้” ท่านอ๋องยกมือขึ้นเชิงสัญญาณให้กิเลนดำคนต่อไปรายงานต่อได้

“ทูลท่านอ๋อง ราชองครักษ์เวิ่นเสี่ยอาการบาดเจ็บดีขึ้น ตอนนี้พำนักอยู่ที่โรงหมอเมืองเทียนสุ่ยพ่ะย่ะค่ะ” ผู้รายงานมีท่าทางลังเลไม่กล้าเอ่ยต่อราวกับกำลังลำบากใจ

มู่หรงเฉินเยี่ยนเห็นท่าทีของเขาแล้วกระจ่างใจ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “มีทหารของจวิ้นอ๋องคอยจับตาดูเวิ่นเสี่ยอยู่ใช่หรือไม่ เวิ่นเสี่ยถูกจับเป็นตัวประกันสินะ” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบ ท่านอ๋องแค่นเสียงเย็นชาหนึ่งครั้ง แสยะยิ้มมุมปากหนึ่งหน “โอวหยางจีเชินสติฟั่นเฟือนหรือไร คิดว่าแม่ทัพอู๋ซั่วจะส่งคนไปช่วยเวิ่นเสี่ยแล้วจะนำเหตุผลนี้มาหาเรื่องยกทัพมาประชิดกำแพงเมืองผิงหลิง” อ๋องหนุ่มถอนหายใจดูแคลน

“หากข้าคิดจะช่วยไยต้องทำลับๆ ล่อๆ” ประโยคของพระองค์แฝงความนัยชัดเจน “รอเขาหายดีกว่านี้อีกหน่อยค่อยจัดการ” หน่วยกิเลนดำทุกคนพยักหน้ารับ

“ข้าจะไปพบเจ้าเมืองเทียนสุ่ย”

หน่วยกิเลนดำสลายตัวปล่อยท่านอ๋องผิงหลิงเดินทางกับชุนฉินเพียงสองคน คนภายนอกจะเห็นเช่นนั้นทว่าแท้จริงสายเงาสีดำกระโดดพึ่บพั่บอารักขาตลอดทาง

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ