ตอนที่ 2หนทางที่ต้องเลือก

เมื่อครั้งที่ฉันยังเป็นเด็ก เคยได้ยินผู้ใหญ่หลายคนพร่ำบอกว่าชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ตอนนั้นฉันยังคงไม่เข้าใจ หนำซ้ำยังคิดไปว่า…

ชีวิตจริงกับนิยายมันคนละเรื่องกันเลย จะเอาไปเปรียบเทียบกันได้ยังไง? อย่าว่าแต่เหมือนกันเลย นิยายก็คือนิยาย ใครมันจะดวงซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนั้น แม้แต่พระเอกแสนดีอย่างในละครหลังข่าวน่ะเหรอ!? ชาตินี้ฉันคงไม่มีทางเจอหรอก เพราะว่านั่นมันคือเรื่องที่คนเขาปรุงแต่งขึ้นมายังไงล่ะ จนกระทั่งฉันได้เจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นกับตัวเอง…

“พี่บัวคะ น้ำมนต์ขอร้องล่ะ ให้หนูขึ้นเดินงานนี้เถอะนะ” มนต์ลดาเอ่ยด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ พลางเดินตามพี่บัว เจ้าของโมเดลลิงที่เธอสังกัดอยู่หวังจะให้หล่อนใจอ่อนยอมให้รับงานนี้ และอีกหลาย ๆ งาน เพราะเธอมีจำเป็นต้องใช้เงิน และหากไม่ได้งานกะทันหันเช่นนี้ส่งผลให้เธอไม่มีเงินไปจ่ายหนี้สินที่รุมเร้า

“น้ำมนต์ พี่ว่าเราคุยเรื่องนี้กันเข้าใจแล้วนี่” พี่บัวโต้ด้วยน้ำเสียงกระแทกต่ำ พลางเดินสะบัดหนีไปอย่างไม่สนใจเด็กสาว ทั้งที่ก่อนหน้านี้หล่อนแทบจะจับมนต์ลดาใส่พานขึ้นหิ้งเสียด้วยซ้ำ

แม้มนต์ลดาจะเป็นเด็กคนหนึ่งในสังกัดที่เคยทำเงินให้หล่อนได้มากโข ทว่าช่วงหลัง ๆ มักมีพวกคนใหญ่คนโตนิยมควงเด็กสาวสวยออกงานกินเลี้ยงบ้างก็ชอบควงพริตตี้นางแบบเพื่อให้ปรนนิบัติตนเอง บางคนชอบเลือกดาราหน้าใหม่ งานกินข้าวกับคนใหญ่คนโต หรือที่เรารู้จักกันงานเอนเตอร์เทรน ซึ่งงานพวกนี้มักแฝงมากับงานอีเวนต์ต่าง ๆ บ่อยครั้งที่มนต์ลดาไม่รับงานแนวนี้ ทำให้พี่บัวต้องเสียคำพูดกับผู้ใหญ่อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากหล่อนตกปากรับคำไปเองตามอำเภอใจโดยที่ไม่ได้ปรึกษาเด็กสาว หลายครั้งที่มนต์ลดาทำกิริยาไม่นอบน้อมกับผู้ว่าจ้าง และนั่นก็ส่งผลกระทบต่องานที่เธอได้รับ

ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลหลายคนก็เป็นคนที่รู้จักในวงการบันเทิง แม้มนต์ลดาจะมีความสามารถเพียงใด แต่คนที่มีความสามารถและมีหน้าตาสะสวยพอ ๆ กันที่ยินยอมพร้อมพลีกายให้ก็มักจะได้รับโอกาสมากกว่า

โลกมันก็ไม่ยุติธรรมแบบนี้ล่ะนะ!

“ไม่ค่ะ น้ำมนต์ไม่เข้าใจ”

“แล้วไม่เข้าใจตรงไหนล่ะจ๊ะ” พี่บัวถอนหายใจยาวอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ

“พี่บัวแคนเซิลตารางงานของน้ำมนต์ทั้งหมดได้ยังไงคะ แล้วเอาคนอื่นไปแทนหนูเนี่ยนะ น้ำมนต์เคยทำเงินให้พี่บัวมาตั้งเท่าไร” มนต์ลดาพูดอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง เธอร้อนใจจำเป็นต้องใช้เงินเนื่องจากที่บ้านติดหนี้ก้อนโตจากหนี้นอกระบบ และหากไม่รีบหาไปคืน ครั้งนี้พ่อกับแม่อาจโดนทำร้ายได้

“นี่ นังน้ำมนต์ แกคิดจะลำเลิกบุญคุณงั้นเหรอ”

พี่บัวตะคอกย้ำด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว อารมณ์หล่อนขุ่นมัวขึ้นมาในทันที ดวงตาคล้ายมีเปลวไฟลุกโชนเมื่อมนต์ลดาเผลอพูดเรื่องรายได้ที่เป็นเรื่องสะกิดใจของหล่อน

“เอ่อ…ไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่บัว พี่บอกหนูมาสิ...ว่าหนูผิดอะไร” มนต์ลดาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามต่อรองพี่บัวอย่างเต็มความสามารถ จู่ ๆ งานทั้งหมดก็ถูกยกเลิกเช่นนี้ยากที่จะหางานอื่นได้ทัน ที่สำคัญงานแต่ละงานนั้นยังเป็นเหมือนสะพานต่อยอดในการทำงานในวงการได้ด้วย ทั้งออกรายการ ทั้งมอเตอร์โชว์รถยนต์แบรนด์ดัง รวมถึงงานมิวสิกเพลงใหม่ของมิเล่ นักร้องหน้าใหม่ที่ดังทั่วเอเชียนั่นอีก

“แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าผิดอะไร?” ดวงตาลุ่มลึกของหล่อนมองเด็กสาวอย่างซับซ้อนเข้าใจยาก พี่บัวกอดอก ถอนหายใจยาวอย่างเอือมระอา

ในขณะมนต์ลดาที่ก้มหน้านิ่งเงียบแทนคำตอบ ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบของทั้งคู่เกิดสภาวะตึงเครียด ลึก ๆ พี่บัวเอ็นดูเธอกว่าเด็กคนไหนในสังกัด มนต์ลดาเป็นเด็กดวงหน้าสละสลวย ขยันทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ เธอก็ไม่เคยปริปากบ่น แต่ให้ทำอย่างไรได้ หล่อนเอ็นดูหนูมนต์ลดาก็จริง แต่ปากท้องและบริษัทของหล่อนเองก็สำคัญ เมื่อผู้ใหญ่หมายหัวหนูมนต์ลดาแล้ว เจ้าของโมเดลลิงอย่างบัวไม่อยากเสี่ยงเลือกเธอมาทำงานให้ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจต้องมีปัญหา

หนึ่งวันก่อนหน้านั้น ภายในโรงแรมใจกลางเมืองสุดหรูที่ดาดฟ้าชั้นหกสิบห้า ได้จัดงานเปิดตัวไวน์ยี่ห้อใหม่ โดยมีเจ้าสัววิฑูร นักธุรกิจอันดับแนวหน้าของเมืองไทยเป็นเจ้าของธุรกิจ และงานนี้เจ้าสัวได้เลือกน้องน้ำมนต์ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์เนื่องจากบุคลิกดูดี อ่อนหวานน่ารักแฝงไปด้วยเสน่ห์ยากจะอธิบาย บรรดาหนุ่มใหญ่หลายคนชื่นชอบกิริยาและความงดงามของมนต์ลดา ภายในงานต่างมีนักข่าวมากมายหลายสำนัก ‘ไวน์เลอสวอน’ ของเจ้าสัวจึงได้รับความสนใจอย่างมาก

“หนูน้ำมนต์ มาคุยกับเฮียที่ห้องแต่งตัวสักแป๊บสิ” เจ้าสัววิฑูรเอ่ยเสียงเจ้าเล่ห์ แววตาของเขาปรากฏรังสีอำมหิตฉายออกมาอย่างชัดเจนสายตาบ่งบอกความปรารถนาอย่างไม่ซ่อนเร้น ราวกับจะจับเธอฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วจับกลืนกิน

มนต์ลดายิ้มเจื่อน แต่ก็ไม่อาจขัดเจ้าสัวได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วงขาลงของเธอจึงไม่อยากให้งานครั้งนี้มีปัญหา ถึงจะรู้สึกว่าเจ้าสัวคนนี้มองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายก็ตาม เมื่อออกมาจากบริเวณงาน เด็กสาวกลั้นใจเดินไปหาผู้ว่าจ้างด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม เอ่ยทักเจ้าสัววิฑูรอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

“งานช่วงแรกวันนี้แขกสนใจกันเยอะเลยนะคะ ส่วนช่วงหน้าเจ้าสัวอยากให้น้ำมนต์เน้นเรื่องไหนแจ้งได้เลยนะคะ”

'เจ้าสัววิฑูรมองฉันแปลก ๆ ตั้งแต่อยู่บนเวทีแล้ว แถมตอนถ่ายภาพอย่างกับตั้งใจจะมาจับก้นฉันอย่างไรอย่างนั้น อีน้ำมนต์ เงิน ท่องไว้ ๆ อดทน ๆ รู้สึกไม่ปลอดภัยจริง ๆ พี่บัวหายไปไหนกันนะ' น้ำมนต์พยายามเหลือบตามองหาพี่บัว ในขณะที่เธอพยายามรักษาระยะห่างให้ได้มากที่สุด

เจ้าสัววิฑูรยิ้มกริ่ม ไล่สายตาจับจ้องเธอซึ่งหน้า ตั้งแต่ศีรษะจรดเรียวขาขาว “เดี๋ยวหนูไปคุยกับเฮียด้านโน้นดีกว่า” ชายวัยกลางคนถือวิสาสะคว้าข้อมือของเด็กสาวและหมายมาดจะฉุดกระชากเธอไปยังสถานที่ที่ต้องการ เด็กสาวรีบสะบัดข้อมือออกโดยแรงพร้อมกับปัดป้องด้วยท่าทางตกใจ “เออ น้ำมนต์ว่าเราคุยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ” มนต์ลดายังพยายามที่จะฝืนฉีกยิ้ม แม้รอยยิ้มที่ออกมานั้นจะซีดเจื่อนแต่เด็กสาวก็พยายามอย่างเต็มความสามารถ “เฮียว่าเราไปคุยที่ห้องแต่งตัวหนูดีกว่า”

เจ้าสัววิฑูรฉุดข้อมือบางของหญิงสาวเข้าไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่ไม่ห่างจากตรงนั้น ด้วยแรงของผู้ชายบวกกับความปรารถนาอันแรงกล้าที่ไร้สามัญสำนึกทำให้เจ้าสัวหื่นลากมนต์ลดามายังสถานที่ที่ต้องการได้สำเร็จ ก่อนจะรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว มนต์ลดาพยายามดิ้นรนสะบัดหนีอย่างสุดชีวิต ทว่าก็ไม่สามารถรอดพ้นจากตรงนี้ได้ ในใจเธอหวาดกลัวตัวสั่นระริก กระนั้นเด็กสาวยังพยายามดึงสติและคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ได้ มันมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย ราวกับหมาป่าที่จ้องจะฉีกเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ มนต์ลดาพยายามตั้งสติ นิ่งเฉยให้ได้มากที่สุด แม้จะรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้เริ่มไม่ปลอดภัยแล้วก็ตาม…

“เฮียรอเวลานี้มานานแล้ว มาคุยเรื่องของเรากันเถอะ” เจ้าสัวโผตัวเข้ามากอดมนต์ลดา เดินต้อนไปยังโซฟาที่อยู่ใกล้ ๆ ทำให้เธอต้องเดินถดถอยหลังหนีไปเรื่อย ๆ ขณะที่เธอไม่ทันระวังตัว ไรหนวดน่าขยะแขยงของเจ้าสัวรุกล้ำเข้ามาซุกไซ้ซอกคอเรียวขาวอย่างหื่นกระหาย ในขณะที่มืออีกข้างลูบไล้สะโพกกลมสลับกับนวดเฟ้นอย่างถือวิสาสะ

“นะ นี่เจ้าสัวจะทำอะไร” มนต์ลดาตะโกนด้วยเสียงตกใจระคนหวาดกลัว

'ไอ้ชั่ว น่าสะอิดสะเอียนที่สุด ฉันจะทำยังไงดีนะ' น้ำมนต์พยายามใช้ความคิดสลับกับผลักเจ้าสัวชั่วออกให้ไกลที่สุด แต่ก็ทำได้เพียงแค่หลบจูบที่น่าขยะแขยงเท่านั้น "ช่วยด้วย ๆ ใครก็ได้ช่วยที กรี๊ด…" มนต์ลดาเริ่มดิ้นแรงขึ้น ความหวาดกลัวเริ่มเข้ามาแทนที่

“ดิ้นอีกสิจ๊ะ แบบนี้เร้าใจดี เฮียชอบ” เจ้าสัวยังคงซุกไซ้ไปทั่วซอกคอ พยายามโถมทับร่างกำยำเข้ามา กระทั่งเด็กสาวพลาดท่า เขาผลักเธอลงนอนราบไปกับโซฟาได้สำเร็จ มันทาบทับตัวคร่อมเหนือเรือนร่างบอบบาง เรียวลิ้นสากลากซุกไซ้ทั่วเนินอกอิ่ม มนต์ลดาพยายามผลักสุดกำลัง หวีดร้องสุดเสียง คว้าสิ่งของขว้างปาไปยังประตูหวังจะให้คนภายนอกได้ยิน อย่างไรเสียที่นี่ก็คือห้องแต่งตัว และที่นี่ยังเป็นโรงแรมชื่อดัง น่าจะมีใครผ่านมาได้ยินเสียงของเธอบ้าง เด็กสาวพยายามปัดป้องตัวเองจากคนชั่วฉวยโอกาส ทว่าก็ไม่สามารถสู้แรงคนป่าเถื่อนนี้ได้ ยิ่งนางแบบสาวดิ้นหวีดร้องเท่าไรดูเหมือนจะยิ่งชอบ ริมฝีปากเจ้าสัวกระตุกยิ้มอย่างพออกพอใจ แววตาแสดงออกอย่างคนหื่นกระหาย

“ไอ้เจ้าสัวบ้า หยุดเดี๋ยวนะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไง ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย โอ๊ย เจ็บนะ" มนต์ลดาพยายามกรีดร้องดิ้นรนอย่างสุดแรง ทำให้ถูกเงื้อมมือใหญ่ตบหน้าเธอเข้าอย่างจัง เสียงดังฉาด พร้อมกับความเจ็บชาทั่วพ่วงแก้มนวล แต่นั่นยังไม่เทียบเท่าความเจ็บใจที่เป็นผู้ถูกกระทำโดยไม่สามารถหาทางหลีกหนีได้ เด็กสาวได้แต่เก็บความหวาดกลัวไว้ใจแล้วภาวนาในใจให้มีใครสักคนเข้ามาช่วยเธอได้ทันเวลาก่อนที่มันจะทำอะไรเธอไปมากกว่านี้

“บัวบอกว่าเฮียว่า ตอนนี้หนูกำลังงานน้อย ช่วงขาลงใช่ไหมล่ะ? หนูคิดว่าการที่เฮียรับหนูเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยเรตราคาสูงขนาดนั้น คิดจริง ๆ เหรอว่าจะต้องทำแค่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เฮีย” เจ้าสัวมองดวงหน้าสวยที่ตื่นตระหนก นัยน์ตาคมกริบมองเธออย่างหมายมาด มือข้างหนึ่งรวบแขนทั้งสองข้างของมนต์ลดาไว้เหนือศีรษะ ส่วนมืออีกข้างบีบคางเธออย่างแรง มนต์ลดาฟังที่มันพูดตัวสั่นระริกด้วยความกลัว ทั้งการกระทำที่แสนระยำจากไอ้เจ้าสัวหน้าม่อ ทั้งหนี้มหาศาลที่แม่กับพ่อก่อเอาไว้ และยังพี่บัวที่เป็นนางนกต่อหลอกเธอให้กับผู้ชาย นางแบบสาวฟังทุกอย่างที่เจ้าสัววิฑูรเล่าทั้งน้ำตา พลางสะอื้นออกมาอย่างไม่เก็บอาการ เด็กสาวไม่คาดคิดมาก่อนว่าพี่บัวจะทำกับเธออย่างนี้ หากเธอรู้ก่อนว่ารับงานนี้จะต้องมากลายเป็นนางบำเรอให้ไอ้เสี่ยชั่ว มนต์ลดาจะไม่รับงานพรีเซ็นเตอร์นี้โดยเด็ดขาด

“เฮียรู้มาว่าหนูจำเป็นต้องใช้เงินหลายแสนเลยใช่ไหม?” เจ้าสัวก้มลงสูดกลิ่นกายสาวแรกรุ่นจากนางแบบสาว ปลายจมูกลากไปทั่วแก้มเนียนอย่างฉวยโอกาส มือสากใหญ่หนึ่งลูบไล้เรียวขาเนียนด้วยสายตาที่เป็นต่อ

มนต์ลดาเบือนหน้าหนี เรือนกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว กัดฟันแน่นอย่างอึดอัดกดดัน ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่อยากขายศักดิ์ศรีให้ไอ้เจ้าสัวเลวคนนี้แน่นอน ใคร ๆ ก็พูดกันหนาหูว่าเจ้าสัววิฑูรเจ้าเล่ห์ เปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้า ถ้าใครไม่ยอมนอนด้วยมันก็จะบีบให้ไม่มีที่ยืนในวงการ เพราะนอกจากเจ้าสัวจะทำธุรกิจของมึนเมา เขายังเป็นเจ้าพ่อวงการบันเทิงที่รับจัดงานออแกไนซ์ ล่าสุดดาราสาว โมเม ดารุกา ถูกถอนออกจากละครฟอร์มยักษ์เพียงเพราะไม่ยอมนอนกับมัน

‘ฉันจะยอมหมดอนาคต หรือจะยอมกล้ำกลืนขายศักดิ์ศรีตัวเองดีล่ะ'

เจ้าสัววิฑูรใช้เรียวลิ้นหยาบกระด้างลากเลียไปที่ติ่งหูขบเม้มเบา ๆ พร้อมกับมือสากฟอนเฟ้นสะโพกกลม ขณะที่มนต์ลดาดิ้นประท้วงขัดขืนอย่างสุดแรง ร่างล่ำกำยำถาโถมคร่อมทับสะโพกสอบเหนือเรือนกาย พยายามถูส่วนนั้นเข้ากับต้นขาของนางแบบสาวอย่างย่ามใจ

“ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้ชั่ว มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้” เธอกรีดร้องด้วยความขยะแขยงระคนหวาดผวา พยายามดิ้นสุดแรงแต่ไม่เป็นผล

“ดิ้นเลย เฮียชอบ เร้าใจจริงเว้ย” ยิ่งนางแบบสาวดิ้นหวีดร้องจนเรือนกายสั่นระริก ดูเหมือนมันก็ยิ่งถูกใจ เสียงหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้มกดลึกที่มุมปากแสดงถึงความพึงพอใจ มือหนากร้านลูบไล้ทั่วร่าง กอบกุมทรวงอกอิ่มอย่างกระหาย เด็กสาวร่างสั่นเทากระถดหนี เขยิบเลี่ยงรสจูบน่ารังเกียจอย่างตะกละตะกลาม

“มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะไอ้เหี้ย!”

“ชูว์…เฮียจ้ะ ไม่ใช่เหี้ย ทำไมหนูพูดไม่เพราะเลย” เจ้าสัวแสยะยิ้มร้ายพลางตบหน้ามนต์ลดาดังฉาด ความเจ็บแสบผสมกับความตกใจทำให้เธอพยายามดิ้นรน กรีดตะโกนอย่างสุดชีวิต ทว่าเจ้าสัวกลับยิ่งชอบใจ ท่าทางตื่นกลัวของมนต์ลดายิ่งเป็นการปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนในตัวมันให้ไฟราคะยิ่งโหมกระหน่ำ

มนต์ลดาด่าเกรี้ยวกราดด้วยความโมโหระคนเกลียดชัง ในเวลาเดียวกันเจ้าสัวใช้มือหนากำรอบคอเรียวไว้แน่น กระทั่งเด็กสาวเหมือนขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดอึดอัดผสานกับตกใจถึงขีดสุด เธอแดดิ้นตะเกียกตะกายมือคว้าสะเปะสะปะ หยาดน้ำตาเอ่อรื้นด้วยความหวาดกลัว นัยน์ตาแข็งกร้าวสติเจียนจะดับวูบลง เจ้าสัววิฑูรใช้มืออีกข้างบีบขย้ำหน้าอกอิ่ม ดวงหน้าเด็กสาวแดงจัดเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ครั้นจะเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือแต่กลับไม่เป็นผล อากาศจะหายใจที่จะกอบโกยเข้าปอดยังแทบไม่เหลือ ‘ฉันเจ็บเหลือเกิน นี่ฉันจะต้องตายตรงนี้เลยไหม?’

มนต์ลดาเริ่มแน่นิ่ง หยาดน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มเนียน เจ้าสัวเห็นเช่นนั้นกลับหัวเราะชอบใจก่อนจะคลายมือหนาออกจากลำคอ เธอกลับมาหายใจสะดวกอีกครั้งพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อร้องเรียกให้คนช่วยอีกครั้ง

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย มึงเอามือสกปรกของมึงออกไปเลยนะ ไอ้เหี้ย” สิ้นสุดคำด่า เธอโดนเจ้าสัวบีบคอเรียวเล็กจนเธอน้ำตาไหลพรั่งพรูกระทั่งหายใจแทบไม่ออกอีกครั้ง และครั้งนี้มันไม่ยอมปล่อยให้มนต์ลดาได้โอกาสด่ามันอีก เธอทำได้เพียงจิกตามแขนและทุบแผ่นอกมันเท่านั้น

“ฮ่า…หนู เฮียชอบหนูจริง ๆ ดิ้นอีกสิ ร้องออกมา ฮ่า…แหม แกมันเด็ดกว่าที่เฮียคิดนะเนี่ย เดี๋ยวจะให้ทิปอย่างงามเลย แต่...หลังจากได้สนุกกันนะคนสวย” เจ้าสัวหื่นประกาศกร้าวด้วยสายตาบ่งบอกถึงความสุขสม มือหยาบกระชากชุดเดรสเกาะออกจนเผยให้เห็นเสื้อในสีเนื้อลายลูกไม้ เขาหลุบตามองเนินอกอิ่มขาวเนียนตรงหน้าแล้วบดเบียดรีมฝีปากของเธออย่างบ้าคลั่ง การแดดิ้นของเด็กสาวยิ่งโหมไฟราคะของเจ้าสัวให้ทวีคูณมากขึ้น

‘นี่เราต้องโดนไอ้เหี้ยนี้ทั้งตบทั้งตี และทำระยำแบบนั้นจริง ๆ ใช่ไหม เงินทองอะไรก็ไม่เอา ตอนนี้ขอแค่หลุดพ้นจากตรงนี้ เจียนจะทนไม่ไหวแล้ว…หากน้ำมนต์ยังพอมีบุญเหลืออยู่ขอให้รอดพ้นไปได้ด้วยเทอญ’ มนต์ลดาได้แต่คิดภาวนาในใจ หยาดน้ำตาแห่งความคับแค้นใจไหลรินอาบสองแก้ม แต่นั่นไม่ได้ทำให้มันสงสารนางแบบสาวแม้แต่น้อย กลับยิ่งทำให้มันดูชอบใจมากขึ้น

“เฮียชอบหนูมากเลย ตัวสั่นแบบนี้ ดื้อ ๆ แบบนี้ หนูมาเป็นคนโปรดเฮียเถอะ” เจ้าสัวพยายามล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสใจกลางความสาวของหญิงสาว มนต์ลดาใช้แรงเฮือกสุดท้ายดิ้นรนสุดชีวิต หนีบขาแน่นเพื่อไม่ให้มันได้สมดั่งปรารถนา “ช่วยด้วย ใครก็ได้ ได้โปรดช่วย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ หยุด กูบอกให้ปล่อยไง โอ๊ย...ช่วยฉันที ได้โปรด ฮือ” มนต์ลดาดิ้นสุดแรง ตะโกนร้องเรียกแม้จะรู้ว่าคงไม่มีทางที่ใครจะมาช่วยได้ แต่เธอก็ไม่อยากยอมแพ้ เธอบิดสะโพกไปมาหนีมือสกปรกที่กำลังรุกล้ำเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

"ฮือ ใครก็ได้ช่วย...ที" เสี้ยวนาทีที่มนต์ลดาแทบจะหมดหวังจากความเชื่อทุกอย่างในชีวิตว่าจะได้หลุดรอดไปได้ เสียงนุ่มทุ้มตะโกนท้วงถามด้านนอกประตูราวกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แม้จะเป็นลำแสงเพียงนิด ทว่ากลับเติมความหวังให้มนต์ลดามีแรงฮึดต่อ

“นี่มึงทำอะไรน้องเขาน่ะ” เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มวัยกลางคนโถมตัวกระชากเจ้าสัววิฑูรออกไปแล้วกระทึบมันอย่างไม่ยั้ง มนต์ลดารีบดึงชุดเดรสขึ้นมาเข้าที่แล้วค่อย ๆ ประคองสติลุกขึ้นนั่ง ทว่าสิ่งที่เจ้าสัวทำกับเธอทั้งตบและต่อยซ้ำเข้าที่ท้องน้อยทำให้นางแบบสาวยังลุกไม่ขึ้น

“มึงกระทืบกูไม่ได้นะ มึงไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร”

เจ้าสัววิฑูรล้มลงไปกองกับพื้น พร่ำตะโกนด่าคนที่เข้ามาขัดจังหวะความสุข

“รู้ แต่มึงมาทำระยำแบบนี้ที่โรงแรมกูไม่ได้” เขาดีเปล่งเสียงด่าอย่างโมโห

เจ้าสัววิฑูรเงยหน้าขึ้นมาปะทะสายตาราเชนทร์ ชายหนุ่มวัยกลางคน รูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐาน นัยน์ตาสีนิล โครงหน้าคมเข้มในวงการธุรกิจจต่างรู้จัก ‘ราเชนทร์ เกริกก้องรัชตะ’ เป็นอย่างดี เขาทั้งเก่ง รวย และเลือดเย็น ยังควบรวมธุรกิจมากมาย ทั้งธุรกิจโรงแรมของตระกูล ธุรกิจจิลเวลรีของฝั่งทางแม่ ธุรกิจส่งออกน้ำมันก็เป็นอีกธุรกิจของตระกูลเกริกก้องรัชตะ ล่าสุดเขายังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญในสินค้าไวน์ของเจ้าสัววิฑูรอีก แน่นอนว่าเจ้าสัวคงไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานใหญ่เสีย แม้การรวมหุ้นจะเป็นเพียงงานไม่ใหญ่มากนัก ทว่าในวงการธุรกิจต่างรู้ดีว่าราเชนทร์เป็น CEO ใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเป็นพันธมิตรด้วยกันทั้งนั้น เพราะบริษัทในเครือเยอะ ผูกขาดกันไปยาว ๆ ธุรกิจของเจ้าสัววิฑูรในขณะนี้กำลังไปได้สวยจากโปรเจกต์ของแคมเปญที่บริษัทในเครือของคุณราเชนทร์มอบให้อีกด้วย ไม่ว่าจะมองมุมไหน ราเชนทร์ก็ถือไพ่เหนือกว่าเจ้าสัววิฑูรแทบทุกด้าน

“คะ...คุณราเชนทร์” เจ้าสัวเปล่งเสียงออกมาอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าเจื่อนพยายามแย้มยิ้มอย่างไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ

“ใช่ นี่เจ้าสัวกำลังจะทำอะไรน้องเขา” ราเชนทร์เอ่ยถามเสียงขรึมจ้องเจ้าสัวที่ลงไปนอนกองกับพื้นด้วยสายตาสมเพช การกระทำที่ไม่รู้สึกรู้สาของเจ้าสัววิฑูรยิ่งทำให้ราเชนทร์มองเขาราวกับแผ่รังสีอำมหิตในตัวให้ทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

“เออ…” เจ้าสัวสลับไปมองหน้ามนต์ลดาแล้วจิ๊ปากอย่างเสียดาย

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ...”

เจ้าสัววิฑูรลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ก้มหัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทางหงุดหงิด ชายหนุ่มใจดีเดินตรงมาที่เรือนกายสั่นระริกของเด็กสาวพร้อมกับถอดสูทตัวนอกคลุมเธอไว้ แววตาของเขาที่มองเธอแฝงไปด้วยความเป็นห่วงและอยากปกป้อง เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วหลุบตาหนีพร้อมกับหยาดน้ำตาอาบแก้ม “คุณ...ลุกไหวไหม?” ราเชนทร์ก้มไปพยุงหญิงสาวผู้โชคร้ายอย่างละมุน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย ทว่าสีหน้าท่าทางของเขากลับดูนิ่งขรึม เยือกเย็นดั่งเหล็กกล้า

มนต์ลดาไม่เอ่ยตอบเขา เด็กสาวเพียงแต่นั่งกำเสื้อสูทแน่น เรือนกายระริกอย่างหวาดผวา พยายามจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พร้อมกับมองชายแปลกหน้าอย่างสับสน

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ