บรรยากาศบนดาดฟ้าของโรงแรม ไฮเอนด์ รูฟ ไนท์ ในยามค่ำคืนอบอวลไปด้วยมวลแห่งความอบอุ่น ความสุขเสียวซ่านจากริมฝีปากนิ่มของมนต์ลดาค่อย ๆ ไล่ต้อนงับกลีบปากนุ่มของชายหนุ่มอย่างหยอกเย้าสร้างความรัญจวนใจ ราเชนทร์รู้สึกความแปลกใจ แต่เขาก็ให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดี ปลายนิ้วเรียวลูบไล้เข้าไปยังเสื้อเชิ้ตด้านในสัมผัสไออุ่นของราเชนทร์ ปลายจมูกโด่งคลอเคลียซอกคอแกร่งอย่างคะนึงหา กลิ่นกรุ่นจากเรือนกายหนั่นแน่น ขับเคลื่อนให้แรงปรารถนาของมนต์ลดาเพิ่มขึ้นทวีคูณ
“กลับบ้านของเรากันเถอะ” ราเชนทร์กระซิบบอกด้วยเสียงแหบพร่า ฝ่ามือลูบเรือนผมอย่างหลงใหล ลมหายใจร้อนผ่าว นัยน์ตาเต็มไปด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจจะยับยั้ง อย่างไรเสียเขาก็ยังอยากพาหญิงคนรักของเขากลับไปที่บ้าน เพื่อสร้างความทรงจำดี ๆ แก่กัน
มนต์ลดาทำหน้าเง้างอ “คุณไม่อยากจูบหนูแล้วเหรอคะ” แววตาออดอ้อนร่วมกับน้ำเสียงกระเง้ากระงอดของมนต์ลดาทำให้ใจของประธานหนุ่มสั่นระรัว เธอใช้ปลายจมูกคลอเคลียแก้มของราเชนทร์ราวกับลูกแมวตัวน้อย ๆ กำลังอ้อนเจ้าของ ทว่าชายหนุ่มกับคว้าหัวไหล่เธอแล้วผละออกอย่างอดทนอดกลั้น
“ไม่” เขาตอบมนต์ลดาเสียงห้วนพลางใช้อุ้งมืออบอุ่นประคองแก้มนวลของเธออย่างลุ่มหลง เมื่อมนต์ลดาได้ยินที่ราเชนทร์เอ่ยปฏิเสธมานั้น เธอจึงผละเขาออกพลางเลื่อนตัวลงจากหน้าขาของเขา แต่ราเชนทร์กลับรั้งเอวบางของเธอเข้าไว้แนบอกแน่น พร้อมกดจูบที่ไหล่มนอย่างโหยหา ก่อนจะวางคางของเขาลงบนลาดไหล่ของเธออย่างอดกลั้น
“คุณลุงจะใจร้ายกับหนูไปถึงไหนกัน” มนต์ลดาเอ่ยเสียงอ่อนฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกที่มันเอ่อล้นได้อีกต่อไป
“ฟังผมก่อนสิ...” ราเชนทร์หายใจหอบถี่ ในขณะที่มนต์ลดาตั้งใจบดเบียดสะโพกขยับเนิบนาบอย่างยั่วยวนทำให้ตัวตนที่อยู่ใต้ร่มผ้าเริ่มแข็งขืนส่งสัญญาณแห่งความปรารถนาพี่พร้อมประกาศศักดาอยู่ใต้กางเกง
“ผมไม่อยากแค่จูบ แต่ผมอยากจะกินหนูทั้งตัวเลย” เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำข้างหูพลางลูบสะโพกกลมอย่างมันเขี้ยว
“งั้นเรากลับกันดีกว่า” มนต์ลดาอ้อนเสียงกระเส่า นอกจากแอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าแล้ว มันยังทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย กล้าแสดงความต้องการเบื้องลึกในใจให้เขาได้รับรู้ ความปรารถนาของมนต์ลดาที่เก็บงำไว้ตลอดหลายวันที่ผ่านมาพร้อมจะปะทุรอเพียงแต่ราเชนทร์ที่จะสนองความต้องการก็เท่านั้น แม้เด็กสาวจะละอายแก่ใจที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มรุกเขาก่อน แต่เรื่องนั้นมันจะผิดอะไรในเมื่อเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครไปทั่ว และคนที่เธอปล่อยใจด้วยก็มีเพียงคุณราเชนทร์คนเดียวเท่านั้น
“ได้สิ กลับบ้านของเรากัน” เขาฉวยหอมแก้มเนียนดังฟอดอย่างมันเขี้ยวราเชนทร์เรียกพนักงานเพื่อเคลียร์บิลก่อนจะประคองเรือนกายหญิงสาวที่โซซัดโซเซไปยังลานจอดรถอย่างยากลำบาก โชคยังดีที่นี่อยู่ไม่ห่างจากบ้านของประธานหนุ่มมากนัก ราวสิบห้านาทีพวกเขาก็มาถึงยังที่บ้านตระกูลเกริกก้องรัชตะ
ประธานหนุ่มประคองร่างหนูมนต์ลดาเข้าตัวบ้านอย่างทุลักทุเล ยังดีที่บ้านหลังนี้ต่อเติมลิฟต์โดยสารเข้าไว้ด้วย ไม่งั้นมีหวังได้ตกบันไดตั้งแต่ชั้นแรกก่อนที่จะถึงห้องหอรอรักอย่างแน่นอน ราเชนทร์พาเด็กสาวกลับมายังห้องนอนสีชมพูหวานแหววของเธอ เรื่องการจัดตกแต่งห้องเป็นสีชมพูทั้งหมดนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ราเชนทร์ตั้งใจจะปั่นประสาทหนูมนต์ลดา และดูเหมือนว่าเธอจะหัวเสียกับห้องนอนเจ้าหญิงที่เขาตั้งใจเตรียมไว้ให้ไม่น้อย บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใจต้องทำตัวร้ายกาจกับหนูมนต์ลดาด้วย ทั้งที่ปมที่เคยเกิดขึ้นในใจของเขาล้วนแล้วมาจากผู้หญิงคนอื่นทั้งสิ้น ด้วยความหวงอย่างไม่ลืมหูลืมตา ส่งผลให้ประธานหนุ่มต้องพูดจาทำร้ายจิตใจเด็กสาวครั้งแล้ว ครั้งเล่า
ราเชนทร์ส่งหนูมนต์ลดาลงบนที่นอนเจ้าหญิงพร้อมกับช่วยถอดสูทตัวนอกหวังให้เด็กสาวได้นอนหลับอย่างสบายตัว ต้องยอมรับว่าความเย้ายวนใจของเธอเมื่อครู่นี้ ทำเอาสิ่งที่ควรสงบกลับแข็งขืนจนปวดหนึบ เรือนกายเนียนนุ่มขาวเนียน พร้อมกับเนินอกอิ่มเต่งตึงอยู่ตรงหน้า ทำให้ภาพค่ำคืนแสนเร่าร้อนของเราฉายชัดขึ้นมาในห้วงความคิด ราเชนทร์โน้มตัวก้มประทับจุมพิตที่แก้มใสอ่อนโยนแผ่วเบา การที่เขาพูดจาร้าย ๆ ใส่เธอแทนที่จะดึงมนต์ลดาให้เข้าหา กลับกลายเป็นการผลักเธอให้ไกลออกไป หากใครสักคนที่จะเป็นคนยอมอ่อนให้ก็คงต้องเป็นเขาเองก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลวร้ายลงไปกว่าตอนนี้
ขณะที่ราเชนทร์ลอบมองใบหน้าสวยราวกับรูปสลัก มนต์ลดาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นช้า ๆ “คืนนี้เออ...” เด็กสาวหยุดครู่หนึ่งก่อนเม้มปากแน่นจะรวบรวมความกล้า “คืนนี้คุณอยู่กับน้ำมนต์ไหมคะ?”
“ถ้าหนูยังต้องการผม...” ราเชนทร์เอ่ยด้วยเสียงอบอุ่น สายตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ เขาหย่อนตัวนั่งลงบนที่นอนข้างเธอ มือหนาลูบเรือนผมหนูมนต์ลดาด้วยความเสน่หา
“ไม่เคยมีวันไหนที่น้ำมนต์ไม่ต้องการคุณเลยนะคะ” มนต์ลดาดึงมือหนาของเขาเลื่อนมาจับไว้ที่ข้างแก้มของเธอ ทั้งสองสบตากันด้วยใจที่หวั่นไหว หลายวันนี้มีหลายเรื่องเหลือเกินที่ทำให้เราทั้งสองเข้าใจผิดกันจนความสัมพันธ์ของเราแย่ลงไป กระนั้นคำตอบในใจของเธอก็ยังคงเป็นเขาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
“เรื่องที่ผ่านมาผมขอโทษนะครับ”
“คุณลุงหมายถึงเรื่องไหนก่อนดีคะ” น้ำมนต์กระตุกยิ้มร้ายอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า เมื่อรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเด็กสาวปรากฏบนดวงหน้าสวย ราเชนทร์ใช้จังหวะที่เธอเผลอพลิกตัวขึ้นคร่อมเหนือร่างของหนูมนต์ลดา ทั้งสองสายตาสอดประสานกันทั้งสองต่างโหยหาไออุ่นของกันและกัน
ราเชนทร์โน้มหน้าจูบเรือนผมมนต์ลดาอย่างอ่อนโยนเพื่อจะสื่อให้เธอรับรู้ถึงความคิดถึงมากเกินจะคณานับ “ผมขอโทษ ทั้งที่คิดถึงหนูมาก แต่กลับทำเหมือนไม่สนใจ” จากนั้นราเชนทร์ลากจมูกคลอเคลียก่อนจะจูบหน้าผากเด็กสาวราวกับเป็นการบอกมนต์ลดาโดยนัยให้เธอรับรู้ถึงความรักและทะนุถนอมที่ตั้งใจสื่อออกมา “ขอโทษที่พูดจาแรง ๆ ทำร้ายจิตใจหนู”
เมื่อมนต์ลดาคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาใบหน้าสวยก็เริ่มบึ้งตึง จมูกรั้นหายใจฟึดฟัด คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันเนื่องจากความไม่พอใจทั้งเรื่องที่เขาพูดจาร้าย ๆ ใส่เธอ ยังไม่รวมถึงห้องเจ้าหญิงสีชมพูนั่นอีก เด็กสาวรู้ดีว่านี่คือแผนการที่เขาตั้งใจจะเล่นสงครามประสาทกับเธอ ราเชนทร์ประคองดวงหน้าสวยให้สบตาเขาก่อนจะโน้มลงจูบแผ่วเบาที่ปลายจมูกแสดงถึงความซื่อสัตย์ที่เขามีต่อเธอ แม้ระหว่างเราเกิดเรื่องมากมาย แต่ไม่เคยมีแม้สักครั้งที่ราเชนทร์จะมองผู้หญิงคนอื่น ทว่านับวันหนูมนต์ลดากลับยิ่งทำให้เขารู้สึกหลงรักมากขึ้นทุกวัน “ถึงผมร้ายกาจแค่ไหนแต่ก็มีหนูแค่เพียงคนเดียวและจะเป็นแบบนั้นตลอดไป”
“จริงนะคะ” เด็กสาวเอ่ยย้ำทั้งที่หัวคิ้วยังคงขมวดเป็นปม มนต์ลดาต้องยอมรับความจริงที่ว่าหลังจากที่ราเชนทร์ทำตัวเหินห่างเย็นชาใส่ เธอก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าสุดท้ายหากเขาเบื่อเธอจะทำอย่างไรต่อไป? เขาอาจมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทนที่เธอ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วเธอจะทำอย่างไรได้เล่า
“หนูต่างหาก อย่าทิ้งลุงคนนี้นะ” ราเชนทร์อ้อนเสียอ่อน ปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มใสอย่างหยอกเย้า
“เรื่องนั้น หนูขอดูพฤติกรรมคุณก่อนได้ไหมคะ” เธอพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มหวานอย่างนึกสนุก
ราเชนทร์ยกยิ้มอบอุ่นตอบรับพลางใช้หัวแม่มือเกลี่ยแก้มเนียนแล้วจุมพิตแผ่วเบา แสดงถึงความอ้อนวอนให้เธอรับรู้ถึงความจริงใจที่เขามีให้เธอ ก่อนหน้านี้จะทำให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจไปบ้างแต่ทั้งหมดก็มาจากความรักทั้งสิ้น “หนูรู้ไหมทุกครั้งที่หนูบอกอยากหนีผมไป มันเจ็บปวดแค่ไหน” ราเชนทร์ใช้ปลายจมูกคลอเคลียอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นซึมซับความหอมหวานของสาวแรกรุ่น
“ก็คุณทำตัวไม่น่ารักนี่คะ”
ราเชนทร์ฉวยจังหวะที่เด็กสาวกำลังแสดงกริยากระเง้ากระงอด เขาตอบกลับเด็กสาวด้วยการประกบปากจูบอย่างอ่อนโยน ทว่ามีความร้อนแรงอยู่ในที กลีบปากนุ่มบดเบียดดูดดุนอย่างชำนาญ “ผมรักหนูมากนะ ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ”
เขาซุกไซ้ซอกคอขาวอย่างลุมหลง กดจูบหัวไหล่ราวกับตั้งใจตีตราความเป็นเจ้าของ “ไม่ว่ายังไงผมจะไม่ปล่อยหนูไปไม่ใช่เพราะหนูเป็นลูกหนี้ของผมเหมือนที่เข้าใจ แต่เพราะ...ผมรักหนูมาก ขาดหนูไปไม่ได้”
ราเชนทร์ยังเอ่ยคำหวานอย่างไม่ประหยัดคำพูด มือหนาค่อย ๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์พร้อมกับจูบบริเวณต้นคอสื่อถึงความต้องการที่ยากจะหยุดลงโดยง่าย “หนูพร้อมจะเป็นของผมตลอดไปไหม”
เขาไม่พูดปากเปล่า มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนกายแทบทุกตารางนิ้ว ทรวงอกอิ่มถูกชายหนุ่มครอบครองอย่างหื่นกระหาย ในขณะที่ก้านนิ้วยาวปรนเปรอความเสียวซ่านรัญจวนใจให้แก่เธออย่างนุ่มนวล ทว่าเน้นย้ำทุกครั้งที่สัมผัส
“อื้อ…ค่ะ หนูเป็นของคุณ” เด็กสาวตอบเสียงกระเซ่า ดวงตาเลื่อนลอยจากความเสียวซ่าน เรียวนิ้วจิกเกร็งแขนแกร่ง สะโพกบดเบียดร่อนส่ายอย่างลืมตัว
ราเชนทร์กระตุกยิ้มร้าย ลากลิ้นสากไปทั่วซอกคอก่อนจะขบเม้มติ่งหูเบา ๆ อย่างหยอกเย้า แล้วจูบใบหูด้วยความลุ่มหลง “หนูคงไม่รู้ว่าเสียงครางหวาน ๆ ของหนูทำเอาผมสติแตก จนแทบจะทนไม่ไหว”
มนต์ลดาประคองใบหน้าหล่อเข้ม สบตาเขาอย่างยั่วยวน สะโพกร่อนส่าย นัยน์ตาฉ่ำปรือ “แล้วใครบอกให้คุณทนละค่ะ”
เมื่อราเชนทร์ได้ยินดังนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายบนดวงหน้า แววตาพราวระยับด้วยความดีใจ เขาหลุบตามองเด็กสาวด้วยความรักระคนลุ่มหลง ก่อนจะเปลื้องชุดตนเองออกอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มคร่อมเหนือเรือนร่างนุ่มน่าสัมผัส เรียวขาขาวถูกชายหนุ่มจับแยกออกมาจนเห็นดอกไม้งามเย้ายวนใจ ราเชนทร์ไม่รอช้า เขาก้มลงไปปรนเปรออย่างหิวกระหาย เรียวลิ้นร้ายเกี่ยวตวัดอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลงโดยง่าย
มนต์ลดาบิดเร้าสะโพกอย่างลืมตัว ทว่าการที่เธอเด้งเร้าสะโพกก็ยิ่งทำให้ดอกไม้งามบดขยี้กับลิ้นสากเขาอย่างจัง ยิ่งราเชนทร์เชยชมดอกไม้งามมากเท่าไรเขาก็ยิ่งเห็นเกสรชัดเจนยิ่งขึ้น หยาดน้ำหวานฉ่ำแฉะจนสามารถใช้ก้านนิ้วยาวเข้าไปสำรวจได้โดยง่าย ระหว่างที่มนต์ลดาเสียวซ่านรัญจวนใจจากที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ เธอครางเสียงหวานออกมาอย่างไม่อดกลั้น สร้างความพึงพอใจให้ราเชนทร์มาก เขาเลื่อนตัวขึ้นมา ลากลิ้นผ่านท้องน้อย จูบแผ่วเบาที่แอ่งสะดือ ก่อนจะซุกไซ้ทรวงอกอิ่มที่ถวินหา ครอบครองเม็ดทับทิมสีสวยในขณะที่ก้านนิ้วยาวยังคงปรนเปรอความเสียวซ่านให้เธออย่างไม่ลดละ
“คุณลุงขา…” เธอเรียกราเชนทร์เสียงกระเซ่า ดวงตาฉ่ำหวานด้วยราคะที่ครอบงำ ชายหนุ่มขานรับในลำคอพร้อมกับบดจูบอย่างเร่าร้อนราวกับจะดูดกลืนวิญญาณเธอเสียให้จงได้
“หนูต้องการคุณ…ได้โปรด เข้ามาในตัวหนูสิ อ่า” หนูมนต์ลดาอ้อนวอนเสียงหวาน มือลูบไล้ไปทั่วกล้ามอกแกร่ง ปลายนิ้วข้างหนึ่งเขี่ยตุ่มไตสีเข้มของราเชนทร์หวังจะยั่วเย้าให้ชายหนุ่มเสียวสยิว
“ผมขอไม่ใส่ถุงได้ไหม” ราเชนทร์เอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำ พลางซุกไซ้อกอิ่มอย่างออดอ้อน “มะ ไม่ได้สิคะ” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“นะ นะครับ ผมอยากใกล้ชิดหนูให้มากกว่าเดิม” ราเชนทร์ไม่พูดเปล่าเขายังตั้งใจใช้สิ่งนั้นถูไถบดเบียดให้เธอสัมผัสถึงความแข็งขืนจากด้านนอก
“อื้อ…น้ำมนต์กลัว”
“หึ กลัวอะไร” ราเชนทร์พูดเสียงแหบพร่ามือข้างหนึ่งเขี่ยตวัดเม็ดทับทิม มืออีกข้างจับตัวตนของเขาถูไถดอกไม้งามจนชุ่มไปด้วยหยาดน้ำหวานจนวาววับ
มนต์ลดาหลับตาปี๋ก่อนจะพูดสิ่งที่เธอรู้สึกกังวลออกมา “กลัวท้องค่ะ”
“โธ่เด็กน้อย เรื่องแค่นี้เอง ท้องก็ดีสิ” ราเชนทร์กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคนที่มีแผนการ ‘มีลูกงั้นหรือ’ การมีเด็กน้อย ๆ สักคนก็คงจะดีไม่น้อยในเมื่อตอนนี้เขาพร้อม และเขาก็มั่นใจว่าหนูมนต์ลดาคือคนที่ใช่แล้วเขาจะต้องรออะไรอีกล่ะ
“คุณไม่ใช่น้ำมนต์ก็พูดได้สิ” เธอเอ่ยน้ำเสียงอ่อน
“มีลูกให้ผมสักคนนะครับ ไม่สิ ผมขอสักสามคนเลย” ราเชนทร์พูดอ้อนพลางพรมจูบตรงนั้นทีตรงโน้นที แม้เขาจะเอ่ยน้ำเสียงอ่อนแต่เด็กสาวรู้ดีว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
ครั้งหนึ่งราเชนทร์เคยเปรยกับเธอว่าเพื่อนเขาแต่ละคนต่างมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีลูกน้อยน่ารักกันเกือบหมดแล้ว หากแต่เขายังไม่มีแม้ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกด้วยซ้ำ เมื่อเด็กสาวย้อนนึกถึงเรื่องนี้ดวงหน้าสวยระบายยิ้มออกมาอย่างลืมตัว “คุณลุงไม่เอานะทำมาเป็นพูดไป”
“ผมพูดจริงนะ” เขาพูดพร้อมกับสบตาเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ได้ค่ะ หนูยังเรียนไม่จบเลย”
“เดือนหน้าก็ฝึกงานจบแล้ว” นิ้วเรียวลูบไล้ผิวแก้มนุ่มของเธออย่างเอาใจ ริมฝีปากบางชิงฉวยจูบก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะทันได้ตั้งตัว
“ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพร้อมจะมีลูกนะคะ”
“งั้นเรียนจบแล้วแต่งงานกับผมนะ” ราเชนทร์ไม่พูดปากเปล่า ปลายจมูกซุกเนินอกอิ่มทั้งที่ยังสบตาเธอ มือข้างหนึ่งจับส่วนที่แข็งขืนครูดถูไถเกสรงามราวกับเป็นตัวประกัน “นี่คุณ...” เด็กสาวกัดริมฝีปากแน่น ยิ่งมนต์ลดาเงียบเขาก็ยิ่งบดขยี้ส่วนนั้นเข้ากับใจกลางความสาวอย่างเนิบนาบทว่าแนบแน่นจนสัมผัสได้ถึงความร้อนที่พร้อมหลอมละลาย
“หนูจะแต่งงานกับผมได้ไหม” น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับรอยจูบหวาน ทว่าขัดกับด้านล่างที่กำลังล่อหลอกให้เธอจิตใจเตลิดด้วยไฟราคะ ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่านมาที่ผิวแก้มของเธอ พร้อมกดรอยประทับอย่างแผ่วเบา
“คุณลุงนี่ไม่มีความโรแมนติกเลยนะ” เด็กสาวระบายรอยยิ้มอ่อนเมื่อเห็นชายคนรักขอแต่งงานแต่ไม่มีความโรแมนติกเอาเสียเลย ทว่าการกระทำของเขากลับทำให้หัวใจของเธอสั่นระรัว มนต์ลดาสังเกตเห็นลมหายใจถี่กระชั้นสะท้อนให้เห็นว่าเขาพยายามระงับความต้องการอย่างเต็มที่
“หนูไม่อยากแต่งงานกับผมเหรอ”
“มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ” มนต์ลดาเม้มปากแน่น ความเสียวซ่านรัญจวนผสานกับความรู้สึกที่หลากหลายยิ่งทำให้เธอรู้สึกสับสน “ทำไมหนูทำหน้าแบบนั้น”
“คุณลุงจะให้หนูรู้สึกยังไงก่อนดีล่ะคะ ก็คุณเล่นเอา...เออไอ้นั่นมาถู ๆ ไถ ๆ ทั้งที่ขอหนูแต่งงานเนี่ยนะ คุณนี่มันจริง ๆ เลย”
ราเชนทร์มองท่าทางฮึดฮัด ขัดเขินของเธอแล้วยกยิ้มกว้าง “แล้วไม่ชอบเหรอ” นัยน์ตาสีนิลเปี่ยมล้นไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
“ถ้าคุณลุงยังมัวแต่คุยอยู่แบบนี้ น้ำมนต์จะไม่ให้เอาแล้วนะ” เด็กสาวใบหน้าร้องผ่าว จิตใจเริ่มว้าวุ่นยากเกินจะควบคุม
“แล้วคำตอบล่ะ ว่ายังไง” ราเชนทร์ยังคงเค้นถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำเจือด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจข่มกลั้น ในขณะที่เขายังคงใช้ส่วนที่แข็งขืนร้อนผ่าวถูไถไปยังกลีบดอกไม้งาม หยาดน้ำหวานแห่งความเสียวซ่านส่งสัญญาณความพร้อมร่ำร้องหา ทว่าชายหนุ่มยังคงรอคำตอบจากเธอ สร้างความหงุดหงิดใจให้แก่เด็กสาวจนเธอเผลอสวนสะโพกร่อนส่ายขึ้นมารับไออุ่นหลายต่อหลายครั้งอย่างลืมตัว
“เดี๋ยวขอดูก่อนนะคะ…ว่าคืนนี้แซ่บพอให้ตอบตกลงไหม” มนต์ลดาตอบรับเสียงสั่นเครือ ท่ามกลางจุมพิตอันนุ่มนวลและร้อนแรงของเขา สติเธอค่อย ๆ หลุดลอยไปอย่างช้า ๆ สัมผัสจากราเชนทร์จุดไฟปรารถนาในกายเธอให้ร้อนรุ่มจนยากที่จะอดกลั้นได้อีกต่อไป
“หนูกำลังท้าทายผมอยู่นะ” พูดจบเขาประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากล่าง แววตาที่เคยเย็นชามาตลอดหลายวันกลับมีประกายอันเร่าร้อนดิบเถื่อนเปล่งออกมาแทนที่ เขาหลุบตามองร่างเปลือยอันงดงามตรงหน้าก่อนจะจุมพิตแทรกเรียวลิ้นร้ายเข้ามาพัวพัน แรงปรารถนาที่กรุ่นในกายสาวเมื่อได้เชื้อไฟจากเขาก็ปะทุ นัยน์ตาทั้งสองข้างหวานฉ่ำ ดูหยาดเยิ้มเย้ายวนยั่วยุอารมณ์จนเขาแทบควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ เขาตั้งท่าขยับความปรารถนายิ่งใหญ่โถมเข้าสู่เรือนร่างเธอเต็มแรง
อึ่ก...
มนต์ลดาสะดุ้งเฮือกพร้อมกับการล่วงล้ำมาด้วยอารมณ์เร่าร้อน คราวนี้แตกต่างจากครั้งแรก ความหื่นกระหายของราเชนทร์ทำเอาเด็กสาวหายใจไม่ทั่วท้อง ฝ่ามือน้อย ๆ โอบกระชับร่างของราเชนทร์แน่นขึ้น จังหวะเคลื่อนไหวที่ร่างกายท่อนล่างกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เธอครางเสียงหวานกระเส่า ปล่อยตนเองให้เตลิดไปกับห้วงอารมณ์เสน่หาที่เขาปลุกเร้าขึ้น วงแขนทั้งสองข้างโอบรอบคอแกร่งตาสัญชาตญาณ
เรือนกายเปลือยเปล่าของราเชนทร์แนบชิดสนิทกับผิวเนื้ออ่อนนุ่มนวลเนียน ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอารมณ์ปรารถนา ราเชนทร์กระหน่ำสะโพกสอบจนเรือนกายไหวสะท้าน เขาฟอนเฟ้นทรวงอกอิ่มหมายมาดโหมไฟปรารถนาให้ลุกโชน เสียงหอบหายใจสอดประสาน เกลียวอารมณ์ปั่นป่วนทะยายขึ้นเรื่อยๆ
“อ่า...คุณลุงขา อื้อ หนูเสียว” เด็กสาวครางเสียงสั่นเครือแอ่นอกรับความเสียวซ่านที่เขาปรนเปรอให้อย่างสุขสม มือสากหนาจับขาเรียวทั้งสองข้างรวบเข้าด้วยกันแล้วพาดขึ้นบ่า ก่อนจะขยับสะโพกหาความคับแน่นจนเขาต้องครางเสียงทุ้มต่ำในลำคอ “อื้อ ท่านี้ แน่นชิบ” ความเสียวซ่านที่มนต์ลดาได้รับยากเกินเธอจะทานทน เด็กสาวพยายามบิดตัวหนี กลับทำให้เขากระทุ้งเสยแรงยิ่งขึ้น เขาประคองเธอให้ลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งหน้าประชิดกัน ทำให้เห็นใบหน้าสวยกำลังเคลิบเคลิ้ม เขาจ่อแท่งร้อนพยุงให้เธอขยับเนิบนาบตามแรงอารมณ์
“คนเก่ง อื้ม ขย่มแบบนั้นล่ะ”
มนต์ลดากระสับกระส่ายปั่นป่วนไปทั่วทุกอณู ไออุ่นอวลซ่านอยู่ในอก พยายามดิ้นรนหาทางระบาย คำเอ่ยชมของเขาราวกับเชื้อเพลิงโหมไฟราคะให้ยิ่งพวยพุ่งถึงขีดสุด เธอขยับตัวไปตามสัญชาตญาณถี่บ้าง เนิบนาบบ้าง การที่เด็กสาวไม่ประสาเรื่องนี้กลับยิ่งทำให้ราเชนทร์หลงใหลเธอยิ่งกว่าที่เธอคิด
ราเชนทร์พยุงให้เธอเอนหลังเท้ากับที่นอนก่อนที่เขาจะยึดเอวบางของเธอเอาไว้มั่นแล้วเสยสะโพกขึ้นอัดถี่แรง ๆ จนเด็กสาวร้องหวีดไม่เป็นภาษา ส่ายหน้าไปมาจนเส้นผมแพกระจายกล้ามทุกมัดของเขาเริ่มเกร็งแน่น ในขณะที่สมองเบลอของมนต์ลดาเริ่มว่างเปล่า หญิงสาวทำได้เพียงปล่อยไปตามที่ร่างกายและใจร่ำร้อง ท้ายที่สุดก็หวีดร้องเสียงหวานตัวกระตุกเกร็งอย่างไม่อาจต้านทาน เสี้ยวนาทีนั้นเกิดความรู้สึกว่างโหวงสุขสมจนต้องผ่อนลมหายใจออกมา เขากอดร่างเปลือยเปล่าของเธอแนบแน่นอย่างพออกพอใจ
“คุณลุงขา...หนูรักคุณลุงนะคะ” เด็กสาวพึมพำทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม ในขณะที่ราเชนทร์ยังคงแช่กายค้างเอาไว้อย่านั้น พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่นจดจำความรู้สึกนั้นให้ตราตรึงลงในความทรงจำ
“เรามีลูกกันนะครับ” ราเชนทร์กระซิบข้างหูพร้อมกับกระทุ้งเสยในจังหวะสุดท้าย ในเวลาเดียวกับที่เธอกระตุกเกร็งโอบรัดตัวตนของเขาแล้วล่องลอยสู่ความสุขสมไปพร้อมกัน มนต์ลดารับรู้ได้ถึงไออุ่นจากด้านในที่ฉีดเข้ามายังกายเธอ “นะ นี่คุณ...” เธอพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา ทว่าราเชนทร์กลับรั้งกายเอาไว้แน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบเรือนผมอย่างผะแผ่วอย่างที่เขาชอบทำมาตลอด
“แต่...”
“หรือหนูยังอยากหนีผมอยู่อีก”
“ถ้าหนูคิดจะหนีคุณลุง จะยอมให้จับกินแบบนี้หรือคะ” เด็กสาวพูดพลางเบือนหน้าหนีอย่างเคอะเขิน
“ผมกินจุนะ งั้นรอบต่อไปผมลุยต่อเอง”
เธอยังไม่ทันหายได้หายขวยเขินก็รับรู้ได้ถึงความแข็งขืนที่ประท้วงอยู่ชูชันสั่นกระตุกร่ำร้องด้านในใจกลางความสาว ราเชนทร์ลูบหลังเนียน กดจูบที่หัวไหล่มน พร้อมกับกระทุ้งเสยขึ้นมาจนเด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น เธอเบิกตาโตมองเขาอย่างตกอกตกใจ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าเขาจะชักธงรบขึ้นอีกแล้ว
ราเชนทร์ประทับจุมพิตเบา ๆ บนริมฝีปากเธอก่อนจะจับให้พลิกคว่ำ โดยที่เขารั้งเอวบางให้สะโพกยกขึ้นได้ระดับ
“ดะ เดี๋ยวสิคะ ไหนคุณบอกว่าง่วงนอน”
ร่างใหญ่โน้มตัวลงมาทาบทับแผ่นหลังเนียนพร้อมกระซิบเสียงสั่นเครือข้างหู “กินก่อนอีกรอบ…เดี๋ยวค่อยนอน คิดถึงหนูจะแย่อยู่แล้ว” สะโพกหนั่นแน่นค่อย ๆ หมุนวนเอื่อยเฉื่อย บางจังหวะกระแทกเข้ามาตามแรงอารมณ์ บางครั้งดึงออกเนิบช้าและสวนกลับเข้าไปจนสุดลำมนต์ลดากรีดร้องครางไม่เป็นภาษา
มนต์ลดารู้ดีว่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกลขอเพียงมีไออุ่นจากฝ่ามืออ่อนโยนของเขาที่ส่งผ่านถึงกัน แม้หลังจากนี้อาจต้องปรับจูนกันเพิ่มอีกสักนิด เรียนรู้ความต่างกันสักหน่อย แต่สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อใจ และเธอรู้ดีว่าหากเราทั้งเปิดใจให้กันเราจะข้ามผ่านทุกอุปสรรคทุกอย่างไปได้...
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?