วันนี้เจสันต้องกลับไปที่คลับแล้ว เจ้รำไพกับเจสันจึงออกไปทาน มื้อกลางวันและใช้เวลาร่วมกันข้างนอกบ้าน เซลีนก็เตรียมตัวที่อีริคจะมารับในวันนี้ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง
เซลีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้ากึ่งทางการ เป็นชุดเดรสสีเทาสลับลายที่มีผ้าต่อกันหลายชิ้น แขนยาวเลยศอก ชุดเดรสยาวคลุมสะโพก ปลายเดรสเล่นมุมทำให้พลิ้วไหวเวลาเดินดูมีมิติ แล้วสวมทับด้วยแจ็กเก็ตแบบสูท รองเท้าเป็นบูทเรียบ ๆ สีดำถึงหัวเข่า กระเป๋าสะพายไหล่ใบขนาดกลางที่เข้ากันได้ดีกับชุดที่สวม เซลีนมัดผมเป็นหางม้าสูง ทำให้เห็นถึงคอระหงของเธอได้อย่างชัดเจน เซลีนก้มมองรูปร่าง ชุดของเธออีกครั้งอย่างพึงพอใจ ที่เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อม นั่นก็เพราะเกิดอีริคพาเธอไปทานอาหารที่หรูหน่อยอย่างน้อยเธอก็ไม่ขายหน้า
เซลีนเดินมานั่งรอที่ห้องรับแขกได้ไม่นาน ก็มีเสียงกดกริ่งที่หน้าประตู เซลีนจึงหยิบกระเป๋าไปด้วย
“มอร์นิ่งค่ะ สบายดีไหมคะ”
เซลีนส่งยิ้มและกล่าวทักทายอีริคไปตามมารยาท แต่เธอรออยู่นานแล้วอีริคก็ไม่ตอบกลับสักที เพราะเอริคมัวแต่ตะลึงในความสวยของเซลีนในวันนี้
เนื่องจากปกติเซลีนจะแต่งตัวเรียบ ๆ วันนี้เลยดูสวยแปลกตากว่าทุกวันนั่นเอง
“อีริคคะ อีริค คุณโอเคไหม” เซลีนใช้มือขวาโบกผ่านหน้าอีริคอยู่สองสามครั้ง
“อ๊ะห์ เอ่อ สวัสดีครับ”
อีริคหายจากอาการตกตะลึงก็เอ่ยชวนเซลีนไปขึ้นรถยนต์ อีริคเปิดประตูให้เซลีนขึ้นไปนั่ง เซลีนเธอจำได้ว่าต้องคาดเข็มขัดยังไง เธอไม่อยากขายหน้าอีกรอบ อีริคปิดประตูรถและเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ ก่อนออกรถยนต์เขาก็ไม่วายหันมามองหน้าเซลีนอีกครั้ง ก่อนที่จะยิ้มให้เซลีน
“ผมจองโต๊ะไว้ที่ร้านอาหารฝรั่งเศสใกล้กับที่ทำงาน คุณโอเคไหมครับ” อีริคเอ่ยถามออกมาหลังจากที่ขับรถยนต์มาได้ประมาณหนึ่ง
“ฉันยังไงก็ได้ค่ะ” เซลีนตอบ
ร้านอาหารฝรั่งเศสที่อีริคพาเซลีนมาทานมื้อกลางวันค่อนข้างที่จะมีสไตล์ที่เก่าแก่ เรียบหรู และเซลีนนึกดีใจที่ตนเองไม่ได้แต่งตัวมาแย่มากนัก
มื้อกลางวันผ่านไปด้วยดี เซลีนรู้สึกว่าอีริคจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาชวนเธอคุยด้วยมากมาย เซลีนแค่ตอบไปตามมารยาท ไม่ได้ให้ความสนิทสนมเกินกว่าความเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ถึงกับแล้งน้ำใจเสียทีเดียว
อีริคพาเซลีนมาที่ตึก เอช เค เทค ทันที หลังจากที่ทานมื้อกลางวันแล้ว เขาพาเซลีนไปเดินดูแต่ละชั้นของตึก ว่ามีแผนกอะไรบ้างที่อยู่ในการดูแลของเขา ที่เหลือในแต่ละชั้นเขาก็ปล่อยให้เช่าทำเป็นสำนักงาน ทำให้เซลีนรู้ว่าทำไมครอบครัวอีริคถึงได้ร่ำรวยและมีชื่อเสียงในวงสังคม
พนักงานที่ทำงานที่ตึกนี้คร่าว ๆ ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันคน เซลีนก็ยังไม่รู้ว่าปัญหาของอีริคคืออะไร หลังจากที่เดินดูทั่วบริษัทแล้ว อีริคก็พาเซลีนไปนั่งพักผ่อนที่ห้องทำงานของตนเอง
ห้องทำงานของอีริคเป็นห้องโล่งกว้าง มีโซฟาตัวหรูอยู่กลางห้อง มีต้นไม้ ตู้หนังสือประดับอยู่ไม่มาก สงสัยเขาจะเป็นนักธุรกิจสไตล์มินิมอล มุมซ้ายของห้องมีเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ วางอยู่ ด้านหลังโต๊ะทำงานของเขาเป็นกระจกใส ที่มองเห็นวิวของกรุงลอนดอนได้อย่างทั่วถึง ตอนกลางคืนน่าจะเพราะแสงไฟยามค่ำคืนคงรายล้อมตึกนี้จนเหมือนอยู่ท่ามกลาง หมู่หิ่งห้อยนับพัน
“ขอบคุณค่ะ” เซลีนกล่าวขอบคุณหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเลขาของเขาที่นำน้ำผลไม้มาเสิร์ฟ ตอนนี้เซลีนนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกกลางห้อง โดยมีอีริคนั่งอยู่ตรงข้ามกันกับเธอ
“เป็นไงบ้างครับ สนใจมาทำงานกับผมไหม” อีริคเอ่ยถาม
“อีริค คุณล้อเล่นได้เก่งจัง อย่างฉันนี่จะมาทำอะไรได้ค่ะ ถ้าให้ทำตำแหน่งแม่บ้านก็คงจะพอได้ค่ะ” เซลีนตอบออกไปด้วยคำพูดที่ติดตลก
“แล้วคุณยินดีมาทำตำแหน่งแม่บ้าน ให้ผมไหมล่ะครับ เงินเดือนเท่าไหร่ผมก็สู้ไหว” อีริคตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เขาจ้องมองไปที่เซลีนด้วยดวงตาเป็นประกาย มุมปากของเขาอมยิ้มน้อย ๆ อย่างที่คิดว่าน่าจะมัดใจหญิงสาวที่เขาสนใจได้
“อย่าเลยค่ะ ฉันคงไม่เหมาะกับที่นี่ อีกอย่าง ฉันชอบทำงานในครัวมากกว่าค่ะ” เซลีนตอบเรียบๆ ก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบ
“อีริคค่ะ คุณบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร หรือคะ” เซลีนถามขึ้นมาหลังจากที่วางแก้วน้ำลงไปบนโต๊ะแล้วเรียบร้อย
อีริคยิ้มเย็นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มเข้าเรื่องที่เขาบอกว่าจะปรึกษาเธอ แต่เรื่องที่เป็นปัญหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน เขาจึงปรับสีหน้าเรียบตึง เมื่อเขาเข้าสู่โหมดของการทำงาน
“เป็นเรื่องแคนทีน สวัสดิการของพนักงานน่ะครับ ทางบริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับการให้บริการด้านอาหารครบสามมื้อ ในปีหน้านี้บริษัทของผมได้โปรเจกต์งานมาจากอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว 5 ปี ถ้าผมทำโครงการนี้สำเร็จ ในอนาคตบริษัทจะได้รับโปรเจกต์ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โปรเจกต์นี้จึงถือเป็นโปรเจกต์ตัดสินอนาคตของบริษัทตัวหนึ่ง ทางบอร์ดบริหาร ต้องการให้พนักงานทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ จึงคิดว่าจะให้สวัสดิการพนักงานเป็นอาหารครบสามมื้อพร้อมที่พัก พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้” เอริคหยุดพักครู่หนึ่งก่อนจะเล่าเรื่องต่อ
“ในส่วนของที่พักมีคนอื่นไปจัดการแล้ว แต่ในส่วนของแคนทีน ผมรับผิดชอบเอง ผมเห็นคุณทำร้านอาหารครัวสยาม จึงคิดว่าเราน่าจะร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กันได้ ผมอยากจะทำธุรกิจกับคุณโดยตรง ไม่ต้องทำกับ ครัวสยาม ผลประโยชน์คุณจะได้รับอย่างเต็มที่”
“เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมากค่ะ แล้วคุณมีแผนงานอะไรมากกว่านี้ไหมคะ แล้วฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง” เซลีนเริ่มแสดงท่าทางกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เมื่อเธอเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่
“ทางผมจะสร้างแคนทีนขึ้นมา ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ผมจะไปติดต่อให้ร้านแต่ละประเภทมาเปิดที่แคนทีน ที่คิดไว้ก็จะมีอาหารไทย อินเดีย แม็กซิกัน อเมริกัน จีน และอังกฤษ พวกเขาแค่ซื้อคูปองแล้วนำไปชำระได้ในแต่ละร้านค้า ปัญหาที่ผมยังคิดไม่ตก คือแคนทีนของตึกช่วงเวลาปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงหลังสี่ทุ่มไปจนถึงเจ็ดโมงเช้า ผมคิดว่าร้านค้าพวกนั้นคงไม่มีใครเปิดแน่ แต่พนักงานบริษัทผมอาจจะหิวตอนดึก ๆ ผมจึงอยากจะปรึกษาคุณว่าผมควรทำยังไง”
“ขอฉันคิดดูก่อนนะคะ ปัญหาคืออาหารที่จะขายตอนดึก ๆ ต้องเป็นอาหารที่ไม่หนักมาก แต่ไม่กินก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้พลังงาน ร้านอื่นๆ เปิดถึงแค่สี่ทุ่ม ต้องเป็นอาหารอะไรถึงตอบโจทย์นี้ได้......”
เซลีนตอนนี้อยู่ในโหมดทำงาน เธอจึงดูมีสีหน้าที่จริงจัง เธอขีดเขียนอะไรลงไปในกระดาษ เธอช่างดูสวยงามและเย้ายวนใจมาก
“บิงโก คิดออกแล้ว” เซลีนตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับหันไปยิ้มให้กับอีริคอย่างสดใส
รอยยิ้มที่ส่งไปให้อีริค สำหรับเซลีนมันคืออาการดีใจที่ตนเองคิดได้ แต่สำหรับอีริคมันกับเป็นเหมือนคำเชิญชวนให้เขาได้เข้าไปสัมผัสกับ ริมฝีปากบาง ๆ สีชมพูนั้นว่ามันจะหวานแค่ไหน อีริคจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่รักใคร่และชื่นชม จนเซลีนรับรู้ถึงความผิดปกติ จึงเรียกเขาอีกหลายครั้ง “อีริค อีริคค่ะ”
“ห๊ะ ครับ ๆ ว่าไงนะครับ” อีริคขานตอบและขยับตัวมานั่งตัวตรงและตั้งใจฟังหญิงสาว
“ฉันบอกว่าคิดออกแล้วว่าอาหารควรเป็นอะไร ที่มันตอบโจทย์นี้ เรามีร้านอาหารชนิดหนึ่ง ที่ประเทศไทยเรียกว่าร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ความหมายก็ตามชื่อ เป็นร้านอาหารที่เปิดจนถึงหกโมงเช้า อาหารที่ขาย ก็จะเป็น ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยว ข้าวต้ม โจ๊ก อาหารตามสั่ง มันเป็นอาหาร กึ่งสำเร็จรูป เมื่อมีคนออเดอร์เราถึงทำ ดังนั้นวัตถุดิบจึงไม่เสียหาย ถ้าต้องค้างไว้ 2-3 วัน อาหารพวกนี้มันเป็นอาหารที่ไม่หนัก ทานตอนดึก ๆ ได้ คลายหิว และใช้เวลาไม่นานในการทำ มันตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ที่สำคัญมันมีหลายเมนู พนักงานของคุณไม่น่าจะเบื่อ บางทีในหนึ่งเดือนอาจจะกิน ไม่ครบทุกเมนูก็ได้ แต่คุณอาจจะต้องสู้ราคาที่แพงจากราคาปกติ เพราะพวกเขาต้องคอยสแตนด์บาย ทำอาหารให้พนักงานของคุณ สำหรับร้านค้าที่เปิดก็แค่จ้างพนักงานมา 3 กะ แค่นี้ก็หมดปัญหาทุกอย่างแล้ว”
“ในส่วนตอนกลางวัน ถ้าคุณต้องการให้พนักงานทำงานไปด้วย กินไปด้วย ซึ่งฉันไม่แนะนำให้ทำแบบนี้ พนักงานควรได้พักผ่อนบ้าง แต่ถ้าบางครั้งมันติดพันจริง ๆ คุณก็สามารถสั่งปิ่นโตได้ ปิ่นโตก็คือทางร้านจะมีอาหารคาว 1 อย่าง ข้าว 1 อย่าง อาหารหวาน 1 อย่าง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ลูกค้าสั่ง เอาไปส่งให้ถึงที่โต๊ะทำงาน แบบนี้พนักงานก็ไม่ต้องเสียเวลาลงมาทานข้าวที่แคนทีน เมื่อพนักงานเลิกงานก็แค่หิ้วปิ่นโตมาคืนที่ร้าน แบบนี้ก็ง่าย” เซลีนอธิบายถึงแผนงานต่าง ๆ ที่เธอคิดว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ให้ แก่ชายหนุ่มฟัง
อีริคฟังอย่างตั้งใจและก็มีคำถามบ้างบางครั้ง สุดท้ายแล้วอีริคจะเอาแผนงานนี้ไปเข้าในที่ประชุมผู้บริหารในครั้งถัดไป ถ้าทางบอร์ดเห็นด้วย ก็สามารถเริ่มดำเนินการได้
หลังจากที่คุยกันได้ไม่นาน อีริคก็ขับรถมาส่งเซลีนที่บ้าน เซลีน พักหายเหนื่อยไม่นานก็โทรศัพท์หาน้องฟ้า เพราะเธอคิดว่าน้องฟ้าน่าจะสนใจโปรเจกต์นี้ เซลีนไม่กลัวที่จะต้องทำงานร่วมกันคนใหม่ แต่ถ้าได้ร่วมงานกับคนเก่า คนที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วก็น่าจะสะดวกใจกว่า
“ฮัลโหล พี่ช่อ สวัสดีค่ะ” น้องฟ้าส่งเสียงใสมาตามสาย
“น้องฟ้าสวัสดีค่ะ น้องฟ้าสะดวกคุยไหม ทำงานอยู่หรือเปล่า”
“ว่างค่ะ ช่วงนี้กำลังรองาน งานเก่าฟ้าลาออกแล้ว”
“อ้าวทำไมละ เพิ่งทำงานได้ไม่นานไม่ใช่เหรอ”
“เกลียดพ่อครัวขี้หลีค่ะ แม่งมันเห็นว่าเราเป็นเด็กใหม่ พอไม่เล่นด้วย ก็ใช้งานจนขาลากเลย สามีเลยให้ออกค่ะ อุ้ย ขอโทษค่ะ พูดคำหยาบ”
“ไม่เป็นไร พี่มีโปรเจกต์มาเสนอ คิดว่าน้องฟ้านี่เหมาะสมที่สุด ยิ่งยังไม่มีงานทำด้วย ลองฟังดูก่อนไหม” เซลีนถาม
“โปรเจกต์อะไรเหรอคะ พูดแบบนี้ฟ้ายิ่งอยากรู้เลย” น้องฟ้าถามด้วยเสียงที่ตื่นเต้น
เซลีนจึงเล่าแผนงานเกี่ยวกับร้านที่จะเปิดในแคนทีนบริษัทของอีริคให้น้องฟ้าฟัง
“ว้าว สนใจค่ะพี่ช่อ ฟ้าสนใจ ขอบคุณมากนะคะพี่ช่อที่คิดถึงฟ้าเป็นคนแรก เดี๋ยวฟ้าจะเอาแผนไปลองคุยกับสามีดูนะคะ อุ้ยพูดแล้วก็ตื่นเต้น”
เซลีนจินตนาการออกได้เลยว่าตอนนี้น้องฟ้าจะทำหน้ายังไง
“อย่าเพิ่งดีใจไป ต้องรอให้คุณอีริคตอบกลับมาก่อน ที่พี่โทรหา น้องฟ้าก็เพื่อที่ว่าถ้าเขาเซย์เยสมาแล้ว เราจะได้ดำเนินการได้ทันที แต่พี่คิดว่าโอกาสที่จะเซย์เยสประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ต์เลยละ วันจันทร์หน้า น้องฟ้าก็มาหาพี่ที่บ้านดีไหม เราจะได้มาวางแผนงานกัน มาปาร์ตี้ส้มตำกัน ไม่ได้เจอน้องฟ้านานแล้ว คิดถึง”
“ได้เลยค่ะพี่ช่อ วันจันทร์เจอกันนะคะ”
“จร้า บาย” เซลีน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?