ตอนที่ 19 เป็นแค่คนรู้จักเหรอครับ

เซลีนยื่นกล่องข้าวสวยให้อีริคใส่ลงไปในเครื่องปั่น แต่ด้วยเพราะ อีริคไม่เคยเข้าครัวมาก่อน เขาเลยทำอะไรเก้งก้างไปหมด เซลีนจึงเดินไปช่วย

“ขอโทษค่ะ”

เซลีนรีบถอนมือออกจากมือของอีริค เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอเผลอจับมือชายหนุ่มให้กดเครื่องปั่นอยู่นาน เพราะเธอมัวแต่เพ่งความสนใจไปที่การปั่น เลยไม่ได้สังเกตอาการตอบสนองของอีริค

อีริคมองที่มือของเซลีนที่กำลังวางไว้บนมือของตนเองแล้วก็ได้แต่ ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าอย่างจริงจัง

เซลีนช่างเป็นหญิงสาวที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าเขาจะได้พูดคุยกับเธอแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ด้วยความที่ชายหนุ่มเป็นถึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้สายตาในการมองคนของเขาคมกริบทีเดียว ถ้ามองคนไม่ขาด เขาก็คงต้องอยากฆ่าตัวตายไปแล้ว ธุรกิจของไม่เจริญรุ่งเรืองมาถึงป่านนี้

เซลีนมีใบหน้ารูปไข่ ผิวสีแทน แถมยังตัวเล็กนิดเดียว ถ้าเทียบกับเขาแล้วเธอสูงไม่ถึงหน้าอกเขาด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นก็ตามที ส่วนไหนที่ผู้หญิงควรมี เซลีนก็มีอย่างล้นเหลือ ส่วนไหนที่เป็นส่วนเกิน ก็ไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย

โดยรวมแล้วเซลีนเป็นหญิงสาวในฝันของชายหลายคนแน่ ๆ ยิ่งได้อยู่ใกล้เธอ เอริคก็ยิ่งไม่เข้าใจอดีตสามีของเธอเลย ว่าทำไมถึงปล่อยเธอไป ถ้าเป็นเขา เขาจะทำทุกอย่างให้เธออยู่กับเขาตลอดไปอย่างแน่นอน

เอริคเหม่อมองหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ จนกระทั่งเขาได้กลิ่นหอม อ่อน ๆ ที่มาจากร่างหญิงสาวที่ทำให้เขาใจเต้นแรง มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม ราคาแพงตามห้างทั่วไป มันเป็นกลิ่นหอมแบบเย็น ๆ ได้กลิ่นแล้วทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ร้อนรุ่มในเวลาเดียวกัน

มันช่าง....เอ้อ ทรมานเหลือเกิน....

แค่เขาได้กลิ่นจากร่างบาง เขาถึงกับร้อนวูบวาบไปหมด เขาแปลกใจตนเองมากเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เขาเกิดมาก็ยังไม่มีใครทำให้เขาคลั่ง ได้ขนาดนี้มาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าสาวเอเชียผมยาว แถมยังมีลูกอีกสองคน กลับทำให้เขาเป็นไปได้ถึงขนาดนี้

“ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากต้องขอโทษ ผมเลยทำให้คุณช้าไปเลย เอาเป็นว่าผมขอแค่เป็นผู้ชมให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ดีกว่านะครับ คุณจะได้ทำอะไรได้สะดวกขึ้น”

อีริครีบเอ่ยบอกเซลีนออกไป ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนวางไว้บนโต๊ะอาหาร และเดินออกไปนั่งดูเซลีนทำอาหารที่เก้าอี้ว่างข้างมุมห้องครัวแทน

“อ้อ เชิญเลยค่ะอีริค ไปพักก่อนก็ได้ค่ะ” เซลีนยิ้มหวานก่อนจะกลับไปทำอาหารต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ

เอริคถอยห่างจากหญิงสาวอย่างรวดเร็ว เพราะบางอย่างในตัว ของเขากำลังตื่นตัวอย่างไม่น่าให้อภัย เขาเกรงว่าหากอยู่ใกล้เธอมากกว่านี้เขาอาจจะห้ามใจไม่ให้สัมผัสเธอไม่ได้ และถ้าเขาพลาดทำตัวรุ่มร่ามกับเธอ เธออาจจะถอยห่างจากเขาไปตลอดกาลก็เป็นได้

อีริคนั่งมองเซลีนทำอาหารด้วยสายตาที่ชื่นชม และไม่ละสายตาไปจากร่างบางเลย เขามองเธอว่าเป็นสิ่งที่สวยงามมาก

มันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าหากเซลีนทำอาหารให้เขาทานแบบนี้ทุกวัน

เธอพูดคุยหัวเราะเสียงใสกับแม่บ้านได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่เธอทำอาหาร เขากลับมองเหมือนว่าเธอกำลังร่ายรำ

อีริคไม่สังเกตตนเองเลยว่าเขากำลังนั่งเอามือเท้าคาง ขาข้างหนึ่งไขว่ห้างไว้อีกข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็เคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ เขายิ้มที่ มุมปากเล็ก ๆ นั้นอยู่ตลอดเวลา หากคนอื่นมองมา ก็คงบอกได้คำเดียวว่า เขากำลังสบายใจและมีความสุข

“อีริคคะ อีริค” เซลีนเรียกอีริคอยู่สองสามครั้ง เธอก็ยังเห็นว่าอีริคไม่ขานรับ เธอจึงได้จับแขนแล้วเขย่าเบา ๆ

“ห๊ะ อะ ว่าไงครับ” อีริคสะดุ้งออกจากภวังค์ ก่อนที่จะเงยหน้าสบตาเข้ากับหญิงสาวที่เขาแอบปลื้ม

“ฉันจะบอกว่าทำอาหารเสร็จแล้ว คุณจะไปเยี่ยมมาดามเจสซิก้าด้วยกันไหมคะ”

เซลีนตอบออกไป ก่อนที่จะถอยหลังออกไปยืนให้ห่างจากชายหนุ่มอีกหนึ่งก้าว อีริคลุกขึ้นยืนก่อนที่จะอุทานออกมา

“ไปครับ แต่ว้าว...กลิ่นหอมมากเลยครับ ทำผมหิวขึ้นมาทันที”

“รบกวนคุณถือโจ๊กปลาถ้วยนี้ไปให้คุณยายคุณหน่อยนะคะ ฉันจะถือน้ำชาไปเองค่ะ”

เซลีนยื่นชามโจ๊กให้กับชายหนุ่ม ส่วนตัวเธอก็หันไปหยิบเหยือกคริสตัลใสที่ใส่น้ำชาสีเหลืองสวยผสมน้ำทิพย์สวรรค์ลงไปมาถือไว้ แล้วเดินออกจากห้องครัวไป ทั้งคู่มาถึงห้องของมาดามเจสชิก้า ก็เห็นมาดามเซรีน่านั่งอยู่ในห้องอยู่แล้ว

“ว้าว วันนี้อาหารของคุณแม่ก็ยังส่งกลิ่นหอมเหมือนเดิม วันนี้เป็นเมนูอะไรจ๊ะ” มาดามเซรีน่าลุกขึ้นยืนเดินมาที่ลูกชาย

เธอเปิดฝาโจ๊กปลาออก ก่อนที่จะเหลียวหลังหันไปบอกเอ็มม่า พยาบาลที่ดูแลมาดามเจสชิก้า ให้เอาโจ๊กปลาป้อนให้คนไข้ที่เธอดูแล

“โจ๊กปลาค่ะ ฉันคิดว่ามาดามเจสชิก้าน่าจะทานอาหารอ่อนๆ ได้แล้ว หลังจากที่ทานอาหารเหลวมาสามวัน ท่านดูแข็งแรงขึ้นเยอะเลยค่ะ สำหรับมาดามกับอีริค ฉันทำผัดไทยไว้เป็นมื้อกลางวันให้แล้วค่ะ มาดามสนใจลองชิมเมนู signature ของทางร้านดูไหมคะ รับรองมาดามต้องกลับไปชิมอีกแน่นอนค่ะ” เซลีนเห็นเป็นโอกาสดี ก็เลยโปรโมตร้านอาหารไปในตัว

“ก็ดีนะ เดี๋ยวให้เอ็มม่าดูแลคุณแม่ไป งั้นเราไปกันเถอะ เอ็มม่าจ๊ะฝากดูแลคุณแม่ด้วยนะ”

มาดามเดินนำทั้งสองคนไปที่ห้องอาหาร ที่ตอนนี้คุณแม่บ้านเอมี่ จัดโต๊ะไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ข้าง ๆ จานผัดไทย ยังมีชาเย็นสีเหลืองสด วางไว้อยู่ด้วย มาดามเซรีน่ามองอย่างแปลกใจ

“เป็นชาเย็นค่ะ ดื่มคู่กับผัดไทยจะทำให้ดึงรสชาติของทั้งคู่ออกมาได้อร่อยยิ่งขึ้น มาดามลองดื่มดูก่อนได้ค่ะ ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนได้ค่ะ”

เซลีนอธิบายให้มาดามเซรีน่าฟังก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะอาหารทางซ้ายมือของมาดามเซรีน่า เธอนั่งตรงข้ามกับอีริค ส่วนเขาก็นั่งฝั่งขวามือของมารดา

“ฉันต้องลองอยู่แล้ว ก็เธอทำอะไรก็ดูน่าอร่อยไปชะหมด ว่าไงอีริค เห็นด้วยกับแม่ไหม”

“เห็นด้วยแน่นอนครับ ทำยังไงผมถึงจะได้ลองชิมฝีมือของคุณ บ่อย ๆ ละครับ” อีริคได้ทีหยอกหญิงสาวไปเต็ม ๆ

“คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วละคะ เพราะว่าฉันสอนการทำอาหาร มอบผงปรุงรส ซอส และตารางอาหาร ให้กับเอมี่ไปแล้ว เอมี่เธอทำได้อยู่แล้วค่ะ รับรองว่ามาดามเจสซิก้าหายทันคริสต์มาสแน่อน ต้องขอโทษมาดามด้วยนะคะ ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพราะเพิ่งคุยกันกับเอมี่วันนี้เองค่ะ แต่ถ้าอยากทานอาหารไทยอร่อย ๆ ก็ขอเชิญได้ที่ร้านนะคะ”

เซลีนเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจ เพราะเธออยากตัดปัญหาตั้งแต่ยัง ไม่ทันได้เริ่ม หลังจากที่เห็นพฤติกรรมการแสดงออกของอีริคที่มีต่อเธอ เธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาที่จะมองไม่ออก ถึงแม้ว่าอาจจะมองว่าหลงตัวเอง ไปหน่อย แต่เธอมีความฝันและความตั้งใจที่จะกลับไปหาเบนจามิน สามี สุดที่รักของเธอ เธอไม่มีที่ว่างในหัวใจสำหรับใครคนอื่นอีกแล้ว

ถ้าเปรียบเทียบกันในทุกด้าน เบนจามินสู้อีริคไม่ได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอายุ ฐานะการเงิน สังคม การศึกษา หน้าที่การงาน แต่มีอย่างหนึ่งที่ อีริคไม่มีวันสู้เบนจามินได้ นั่นคือ หัวใจของเซลีนเป็นของเบนจามิน และ เธอก็จะทำให้หัวใจของเบนจามินเป็นของเธอในร่างใหม่นี้เช่นกัน

“โอ้ ช่างน่าเสียดาย งั้นก็ลงมือทานกันเถอะ”

มาดามเซรีน่าอุทานออกมาด้วยความน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเสียดายเป็นอย่างมาก ก่อนจะเอ่ยปากอนุญาตให้ทุกคนเริ่มทานกันได้

“อืม ชานี้อร่อยจริงเชียว ไม่เหมือนชาของที่นี่ เป็นชาไทยเหรอจ๊ะ”

มาดามเซรียกมือชาเย็นสีส้มขึ้นจิบอีกสองที

“ใช่ค่ะมาดาม เป็นชาไทยรสชาติเน้นหวาน เมืองไทยเป็นเมืองร้อนเลยต้องเติมน้ำแข็งลงไป ดื่มคู่กับอาหารไทยเข้ากันดีมากค่ะ “

*****

หลังจากที่ทานมื้อกลางวันจบลง ทั้งหมดก็ย้ายมาคุยกันที่ห้องรับแขก มาดามก็ยื่นซองเอกสารให้เซลีน

“ฉันต้องขอบใจเธอมากนะเซลีน แค่สามสี่วันนี้ อาการของคุณแม่ก็ดีขึ้นตามลำดับ แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว นี่คือค่าตอบแทนจ้ะ”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะมาดาม เรื่องแค่นี้เอง ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่ทำอาหารเอง” เซลีนปฏิเสธออกไปด้วยความสุภาพ

“ได้ไงล่ะจ๊ะ อย่างน้อยเธอก็เสียเวลาทำอาหาร เสียเวลามาดูแล คุณแม่ถึงที่นี่ แล้วยังผงปรุงรส ซอสต่าง ๆ ที่เธอมอบให้เอมี่อีก รับไว้เถอะจ้ะ เธอสมควรรับมันไว้นะ” มาดามเซรีน่ายังคะยั้นคะยอยัดซองเอกสาร ใส่ลงไปในมือของเซลีน

“นั่นสิครับ เซลีนรับไว้เถอะครับ ถ้าคุณไม่รับนะคุณแม่เสียใจแย่เลย เซลีนไม่ต้องห่วงหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยมากสำหรับคุณแม่ แค่คุณยายดีขึ้นคุณแม่ก็อารมณ์ดี คิดโปรเจกต์แพง ๆ ได้อีกแยะ” อีริคเอ่ยสนับสนุนแม่ของเขา แล้วแอบแซวนิด ๆ

“งั้นฉันไม่เกรงใจนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” เซลีนยกมือไหว้ แล้วรับซองเอกสารมาใส่ไว้ในกระเป๋าถือของเธอ

“ยินดีมากเลยจ้ะ แล้วนี่จะกลับเลยไหม หรือจะไปที่ไหนต่อหรือเปล่า”มาดามเอ่ยปากถาม พร้อมกันยกชาขึ้นดื่ม

“จะไปที่ร้านอาหารเลยค่ะ”

“งั้นผมไปส่งครับ ผมเป็นคนไปรับคุณมาผมก็สมควรไปส่งคุณ” อีริคเสนอตัวทันที

“งั้นรบกวนด้วยค่ะ”

เซลีนตอบกลับอีริค แล้วยกมือไหว้ลามาดามเซรีน่า และเอ่ยบอกให้อีริคเดินไปส่งเธอเพื่อบอกลาเอมี่ มาดามเจสชิก้า และเอ็มม่า ก่อนที่จะเดินทางไปที่ร้านอาหาร

ในการนั่งรถขากลับมา เซลีนไม่ทำเรื่องขายหน้าอีก เธอคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยตนเอง โดยไม่ต้องให้อีริคช่วยเหมือนเมื่อเช้า

“ขอบคุณมากนะคะ ที่มาส่ง” เซลีนเอ่ยขอบคุณก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัย

“ด้วยความยินดีครับ”

“ขับรถกลับดี ๆ นะคะ”

“คุณเป็นห่วงผมเหรอครับ” อีริคถามกลับไปด้วยน้ำเสียงทุ้มน่าฟัง

“ก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วซิคะ อย่างน้อยก็เป็นคนที่รู้จักกันแล้ว”

“แค่คนรู้จักเหรอครับ เป็นมากกว่านั้นได้ไหม”

สีหน้าของอีริคตอนนี้เซลีนอ่านมันออกไปแค่คำเดียว (พลีส..อย่าปฏิเสธผมนะ) แต่ทำไงได้ เธอไม่มีหัวใจเหลือไว้ให้ใครอยู่แล้ว

“ค่ะ เป็นเพื่อนกันก็ได้ค่ะ” เซลีนตอบอีกฝ่ายอย่างถนอมน้ำใจ

เอาน่า ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนก่อนก็ได้ เป็นเพื่อนก็ดีกว่าเป็นคนรู้จักละน่า’ อีริคคิดในใจ

“โอเคครับ เราเป็นเพื่อนกันครับ” อีริคตอบกลับเซลีนไป

“ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่งนะคะ บายค่ะ”

เซลีนขอบคุณแล้วทำท่าจะเปิดประตูรถออกไป ทำให้อีริคไม่สามารถรั้งที่จะคุยกับเซลีนได้อีกต่อไป

“ยินดีครับ” อีริคทำได้เพียงพยักหน้าให้เซลีนและยิ้มให้

เซลีนเปิดประตูออกไปก่อนที่จะไปยืนอยู่บนฟุตบาท รอจนอีริคขับรถออกไป เธอจึงเดินเข้าไปที่ร้านอาหาร

เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ ว่ามีใครบางคนยืนมองภาพเธอที่ออกมาจากรถสปอร์ตสีดำคันหรูมาชั่วครู่หนึ่งแล้ว

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ