ตอนที่ 37 งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์

เซลีนจึงเดินทางกลับลอนดอนด้วยตัวเอง เพราะเจสันต้องอยู่คอยดูแลการแข่งขันในวันนี้ และคิดว่านิโคลัสก็คงต้องไปดูการแข่งขันด้วยตนเอง เพราะเป็นการเตะนัดสำคัญของคลับ

“หม่ามี้ กลับมาแล้ว คิดถึงหม่ามี้ที่สุดค่ะ”

อลิสสาวน้อยของเธอวิ่งมากอดเซลีนทันทีที่เห็นเซลีนเดินเข้ามาที่ห้องรับแขก เซลีนอ้าแขนกว้างรวบลูกสาวสุดที่รักมาไว้ในอ้อมกอด

แอนดี้ไม่น้อยหน้าน้องสาว เขาสวมกอดเซลีนจากทางด้านหลังทันที ซึ่งกว่าสามแม่ลูกจะกอดกันเสร็จ ก็ปาไปเกือบห้านาทีจึงจะแยกย้ายกันได้

“อ้าว ช่อกลับมาแล้ว ทุกอย่างโอเคไหม” เจ้รำไพเดินออกมาจากในห้องครัว พร้อมถือถ้วยชาที่เพิ่งชงไว้เมื่อครู่ออกมาด้วย

“กลับมาแล้วค่ะ เย็นนี้มาลุ้นกันว่าทีมของเราจะชนะแล้วเข้ารอบชิงชนะเลิศหรือเปล่า แข่งเสร็จแล้วพี่เจสันคงโทรมาส่งข่าวค่ะ ขอบคุณเจ้มากนะคะที่ช่วยดูแลสองแฝดให้” เซลีนลุกขึ้นจากเด็ก ๆ แล้วเดินไปหาเจ้รำไพ

“ขอบคงขอบคุณอะไร เจ้ต้องขอบใจช่อต่างหาก ที่ทำเพื่อเจสัน เจ้รู้เรื่องของนิโคลัสแล้วนะ”

“เจ้ เดี๋ยวช่อเอากระเป๋าไปเก็บก่อน เดี๋ยวจะลงมาคุยด้วย เจ้จะไปไหนหรือเปล่าคะ” เซลีนถาม

“ไม่มี ไบรตั้นไม่ต้องไปดูแลแล้ว นากับน้อยเอาอยู่ ส่วนร้านนวด นางกับส้มก็ดูแลได้ เจ้ว่าจะพักผ่อนอยู่บ้านนี่แหละ ช่อมีอะไรหรือเปล่า”เจ้รำไพค่อย ๆ นั่งลงที่โซฟา

“ช่อว่าจะชวนเจ้กับสองแฝดไปกินข้าวนอกบ้านสักวัน จะพาสองแฝดไปเล่นมุมเครื่องเล่นด้วย” เซลีนเสนอความคิดที่ตั้งใจไว้

“ได้สิ อลิสกับแอนดี้คงดีใจมากแน่ ๆ”

เจ้รำไพเห็นดีด้วย เพราะนี่ก็นานมากแล้วที่เด็ก ๆ ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกับแม่ของพวกเขา

ตอนเย็น

ทั้งหมดก็พากันไปทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งเด็ก ๆ ตัดสินใจเลือกทาน KFC เมื่อทั้งสี่คนทานเสร็จแล้ว สองแฝดจึงไปเล่นมุมเครื่องเล่น โดยที่เซลีนเป็นคนเดินไปจ่ายเงินค่าเล่นสำหรับทั้งสองคน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เล่นเครื่องเล่นกันให้เต็มที่ ส่วนเจ้รำไพกับเซลีนก็เลือกมุมสำหรับนั่งรอเด็ก ๆ เล่นกันและสามารถมองเห็นเด็กทั้งสองได้อย่างชัดเจน

“เจ้ หลังจากที่หมดสัญญากับคลับคุณนิโคลัส ช่อจะพาสองแฝดย้ายไปอยู่สกอตแลนด์แล้วนะ ตั้งใจย้ายต้นเดือนมิถุนายนนี้เลย เพื่อไปเข้าเรียนชั้นประถมที่นั่น ช่อทำสัญญาเช่าบ้านเรียบร้อยแล้วด้วย” เซลีนบอกเจ้รำไพ

ใจหนึ่งก็ใจหาย เพราะเธอเองก็อยู่ด้วยกันกับเจ้รำไพมาจะครบปีแล้วจึงเกิดความผูกพันกันเป็นธรรมดา เพราะเจ้รำไพก็ดีกับพวกเธอสามคนแม่ลูกมาก

“เร็วปานนั้นเลยหรือช่อ ก็เดือนหน้านี่แล้วนิ” เจ้รำไพรู้สึกใจหาย ทั้งที่เซลีนก็เปรย ๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว

“ใช่ค่ะ แมทสุดท้ายของการเตะฤดูกาลนี้คือช่วงกลางเดือน ช่อมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 2 วีค หลังจากนัดนี้แล้วก็เหลือแค่รอบชิงชนะเลิศอีกแมทเดียว” เซลีนอธิบายให้เจ้รำไพฟัง

“รู้สึกใจหายมากเลยช่อ แต่ถ้าช่อคิดดีแล้วเจ้ก็ไม่ห้ามหรอก เอายังงี้ละกัน เดี๋ยวเจ้จะนัดพวกกุ้ง ฟ้า น้อยกับนา จัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งช่อกับสองแฝดดีไหม กุ้งท้องคงโตมากแล้วไปไบรตั้นคงไม่สะดวก งั้นก็มากินกันที่บ้านเรา นี่แหละง่ายดี นากับน้อยก็ให้เชฟฝรั่งทำแทนไปก่อนแค่วันเดียวเอง ช่อว่า ดีไหม” เจ้รำไพถามความคิดเห็นกับเซลีน

“ช่อว่าก็ดีจ๊ะ ทำที่บ้านก็สะดวก ไม่ต้องมีคนมาดูแลอลิสกับแอนดี้ด้วย” เซลีนเห็นด้วยกับความคิดของเจ้รำไพ

ก่อนที่เซลีนจะได้คุยอะไรกับเจ้รำไพไปมากกว่านี้ เสียงมือถือของเซลีนก็ดังขึ้นซะก่อน

“พี่เจสันค่ะ” เซลีนหันไปบอกเจ้รำไพ

“ฮัลโหลพี่เจสัน ข่าวดีหรือข่าวร้ายคะ” เซลีนถามออกไปอย่างลุ้น ๆ

“เซลีนนนนนน พวกเราทำสำเร็จแล้ว เราได้ไปต่อรอบชิง” เจสันส่งเสียงมาตามสายด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมาก ๆ

“ว้าว ดีใจด้วยนะคะ มันเป็นข่าวดีสุด ๆ เลยค่ะ” เซลีนดีใจไปกับชายหนุ่มด้วย

“วันนี้พี่ได้เห็นบอสยิ้มด้วยนะ ทุกคนตะลึงไปเลย (เดี๋ยวโอลี่ นายอย่าเพิ่งมาแย่งมือถือฉัน) “

เซลีนได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอีกฟากหนึ่ง

“เซลีน ผมโอลี่นะ ขอบใจมากที่ทำให้ผมมีวันนี้ ผมไม่ลืมที่เราพนันกันไว้ รอปิดฤดูกาลผมจะติดต่อไปนะ แค่นี้แหละ บาย (เอามือถือคุณ คืนไป)” โอลี่มาไวไปไวยิ่งกว่าฟาส 9

“โอลี่เขาดีใจมาก เขาทำให้ทีมชนะ ไม่อยากจะเล่าว่าทีมคู่แข่งนี้ อึ้งไปเลยตอนที่เห็นโอลี่ลงสนาม คงคิดว่าโอลี่บาดเจ็บแล้วจะลงแข่งไม่ได้”

เจสันคุยกับเซลีนไม่นานก็วางสายไป เจสันคงจะยุ่งนั่นแหละ เพราะผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศก็คงจะกดดันน่าดู เซลีนวางสายจากเจสันด้วยรอยยิ้มที่พอใจมาก

ไม่นานสองแฝดก็เล่นเสร็จพอดี ทั้งหมดจึงเดินทางกลับบ้าน

*************

วันที่มีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ นิโคลัสได้ให้เจสันนำตั๋วเข้าชมมาให้กับเซลีน จำนวน 4 ใบ เซลีน เจ้รำไพ กับสองแฝด จึงได้มีโอกาสได้เข้าไปดูการแข่งขันฟุตบอลสดเป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสี่คนได้ที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพี ที่สามารถมองเห็นได้อย่างทั่วถึง

นิโคลัสก็มานั่งดูกับเซลีนด้วย เขาเลยมีโอกาสได้รู้จักกับสองแฝด เขาหลอกล่อแอนดี้ด้วยคำสัญญา ว่าเมื่อแอนดี้โตมากกว่านี้ ถ้าอยากจะมาเข้าเป็นเด็กฝึกของคลับเขาก็ยินดี แอนดี้เลยตื่นเต้นสุด ๆ

การแข่งขันเป็นไปด้วยความตื่นเต้น เพราะต่างฝ่ายต่างบุกและ ช่วงชิงยิงประตูของอีกฝ่ายกันไปมา จนกระทั่งคะแนนเท่ากันจนถึงนาทีสุดท้าย การแข่งจึงต้องต่อออกไป เพื่อให้ทั้งสองทีมได้ยิงจุดโทษแล้วตัดสินแพ้ชนะกันในตอนนี้ แต่น่าเสียดายที่ทีมของคลับแพ้การแข่งขันในการยิงจุดโทษไปแค่หนึ่งประตู ดีที่นิโคลัสบอกว่าเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าทีมจะมาไกลถึงขนาดนี้ การเข้ารอบชิงชนะเลิศ คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้ แต่ถึงแม้ว่าจะได้ที่สองของลีกวัน แต่คลับก็ยังได้เลื่อนไปเล่นระดับแชมเปี้ยนลีกโดยอัตโนมัติอยู่ดี

“เรื่องการโอนหุ้น ผมจะให้ทนายติดต่อคุณไปนะ หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว” นิโคลัสบอกเซลีน

“ได้ค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ” เซลีนบอกลานิโคลัส เพราะเขาต้องไปคุยกับบอร์ดบริหารท่านอื่น ๆ ต่อ เนื่องจากพวกเขาคงมีงานเลี้ยงฉลองกันตามธรรมเนียมนั่นเอง

“แม่ครับ ผมยังติดตรวจร่างกายนักเตะอีกเยอะเลย วันนี้คงส่งได้ แค่นี้นะครับ” เจสันเอ่ยเมื่อเห็นเซลีน เจ้รำไพ และเด็ก ๆ กำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน

“ได้ครับ กลับไปทำงานเถอะ” เจ้รำไพบอกลูกชาย

“เซลีนฝากแม่ด้วยนะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับหลังได้พักร้อน” เจสันเอ่ยก่อนวิ่งกลับเข้าไปทำงานต่อ

“เจ้ กลับบ้านกันเถอะค่ะ” เซลีนหันไปบอกเจ้รำไพ แล้วจูงมือ เด็ก ๆ เพื่อเดินทางกลับบ้าน

**********

ณ บ้านเจ้รำไพ

ปาร์ตี้เลี้ยงส่งเซลีนกับสองแฝดได้เริ่มต้นขึ้น กุ้งอุ้มท้องที่ใหญ่มาก มาร่วมงาน พี่นากับพี่น้อยก็หยุดงานที่ไบรตั้นขึ้นมาที่ลอนดอน เพื่อเลี้ยงส่งเซลีนโดยเฉพาะ น้องฟ้าก็หิ้วอาหารมาด้วย พี่นางกับพี่จันทร์อาสาเป็นคนล้างจานหลังปาร์ตี้เสร็จแล้ว ส่วนมาร์คบอกว่าจะมาสายหน่อย

“นี่รู้เรื่องพี่สักหรือเปล่า แกถูกไล่ออกจากร้านเจ้าพระยาแล้วนะ”

พี่นางถามทุกคนออกมา...การเมาส์มอยก็เริ่มต้น

“เหรอ ไม่รู้เลย ทำไมละพี่นาง” น้องฟ้าถามด้วยความสงสัย

“ก็นิสัยเดิมๆ นั่นแหละ แต่คุณอารยาไม่ใช่เจ้นิ ทำตัวไม่ดี คุณอารยาไม่เอาไว้หรอก สมน้ำหน้าแล้ว ทำงานกับเจ้ดี ๆ ไม่ชอบ ตอนนี้เห็นวุ่นหางานไปทั่ว เห็นยังตกงานอยู่นะ” พี่นางเล่าให้ฟัง

“ว่าไปก็น่าสงสารพี่สักเหมือนกันนะ” กุ้งออกความเห็น

“แต่พี่น่ะต้องขอบใจพี่สักมากกว่า เพราะถ้าพี่สักไม่ก่อเรื่อง พี่ก็คงไม่จับพลัดจับผลู ได้เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ไบรตั้นแน่” พี่นาเล่า

“มาแล้วจ้า มาแล้ว ยำขนมจีนสูตรช่อผกา รับรองงานนี้แซ่บ” เซลีนยกยำขนมจีนจานใหญ่ไปวางไว้กลางโต๊ะอาหาร

“น้ำหวานฮะ” แอนดี้ส่งกระติกชาเย็นที่เขาลงทุนช่วยหม่ามี้หิ้วมาจากในครัวให้กับเซลีน

“ขอบใจมากครับ คนเก่ง” เซลีนลูบหัวลูกชายเบา ๆ

“อลิส ลูกจะกินนักเก็ตไก่หรือปลา เดี๋ยวหม่ามี้จะทำให้ หรือจะกินส้มตำกับป้า ๆ หม่ามี้จะทำแบบไม่เผ็ดให้” เซลีนหันไปถามลูกสาว

“นักเก็ตปลาแล้วก็อลิสขอส้มตำด้วยค่ะ” อลิสตอบ

“มีส้มตำไม่มีไก่ย่าง มันจะไปครบสูตรได้ไง มะมา ใครจะเอาส่วนไหนบอกเจ้” เจ้รำไพยกจานไก่ย่างทั้งตัวที่สับเป็นชิ้น ๆ แล้ววางไว้บนโต๊ะเช่นกัน

“คนท้องต้องกินอก ส่วนน้องฟ้าเอาปีกไป พี่ขอน่องนะ”

พี่จันทร์จัดแจงหยิบชิ้นส่วนไก่ย่างให้แต่ละคน และไม่ลืมที่จะหยิบน่องไก่ย่างมาวางไว้บนจานตนเอง

บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน แต่ละคนก็ขนเอาเรื่องเล่าสมัยที่ยังทำงานที่ครัวสยามมาเผากัน แบบไม่มีใครยอมใคร ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนต่างก็เศร้าที่ต้องแยกจากกันไปตามหน้าที่ของแต่ละคน ความทรงจำเหล่านั้นก็จะเก็บไว้เพื่อย้ำเตือนความเป็นเพื่อนของทุกคน

หลังจากที่ปาร์ตี้จบลง ทุกคนต่างกำลังทยอยกันกลับบ้าน เซลีน อดน้ำตาซึมไม่ได้ เพราะเพื่อน ๆ เหล่านี้ต่างร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอย่างน้อยก็หนึ่งปี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าเธอคือซินดี้ก็ตาม

ตอนนั้นเองที่พี่จันทร์ พี่นา พี่น้อย น้องฟ้า กุ้งต่างก็เดินเข้ามา กอดลาเซลีนกันทีละคน เจ้รำไพดึงเซลีนเข้ามากอดไว้ และตบหลังเธอเบา ๆ หลังจากที่เหลือแต่เธอกับเจ้รำไพ

“ช่อ จะเศร้าไปทำไม สกอตแลนด์ ลอนดอนแค่นี้เอง ว่างก็มาเยี่ยมหากันได้ ถ้าเบื่อ ๆ เจ้อาจจะไปอยู่กับช่อก็ได้ ว่าแต่ช่อเห๊อะ จะให้เจ้ไปอยู่ด้วยหรือเปล่าหรอก” เจ้รำไพพยายามเปลี่ยนบรรยากาศ

“เจ้อะ ไม่ต้องล้อช่อเลย ช่อขอบคุณเจ้มาก ๆ นะ ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีเจ้ ช่อก็คงไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน และช่อยินดีต้อนรับเจ้เสมอ ด้วยหัวใจเลยค่ะ” เซลีนยกมือไหว้เจ้รำไพ

*****

หลังจากแอนดี้เข้านอนไปแล้ว และอลิสก็นอนกรนเบา ๆ อยู่บนเตียง เซลีนเลยใช้เวลานี้นั่งมองเฟชบุ๊กของเบนจามิน ก่อนจะจูบลงไปบนหน้าจอ

“รอหม่ามี้ก่อนนะคะคุณเบน หม่ามี้กำลังจะไปหาคุณแล้ว คิดถึงคุณเบนมาก ๆ ค่ะ”

เซลีนวางมือถือไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอน แต่ไม่วายดึงอลิสเข้ามากอดไว้ เธอนอนหลับไปด้วยใบหน้าอมยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุข

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ