ตอนที่ 39 เซียลบีนีย์ เดอ คาเฟย์ Ciel Beni de café

บ่ายวันนั้นหลังเลิกเรียน แอนดี้และอลิสจูงมือกันมารอรถโรงเรียนด้านหน้า อลิสวางกระเป๋าของตัวเองลงบนม้านั่งสีสดใส จากนั้นก็เปิดเอาโหลคุกกี้ออกมา 

“พี่จะไปซื้อนมที่ร้านค้า อลิสรอตรงนี้นะ” แอนดี้บอกก่อนจะวิ่งแผล็วออกไป

อลิสมองตามด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันมามองดูคุกกี้ในโหล เด็กหญิงแกว่งสองเท้าไปมา พอนั่งอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ได้กลิ่นวานิลลาหอม ๆ กับกลิ่นไอซิงหวาน ๆ ลอยมากับลมอ่อน ๆ ด้วย

“เฮ้! เอามากินบ้างสิ!” เด็กชายคนหนึ่งพูดเสียงดังจากด้านหลัง

อลิสหันมองเห็นสตีเฟ่นเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่

“ไม่ นี่เป็นของฉันกับพี่ชาย” อลิสปฏิเสธและดันตัวลงมายืนบังโหลคุกกี้เอาไว้

สตีเฟ่นหน้างอ เด็กชายเดินเข้ามาใกล้และทำท่าจะแย่งโหลคุกกี้ไป อลิสจึงรีบหยิบโหลมากอดเอาไว้แน่น สตีเฟ่นเห็นดังนั้นก็ยิ่งหงุดหงิด เขาได้กลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ จากขนมสีสวย จึงยื่นมือเข้าไปยื้อแย่งโหลคุกกี้กับเด็กหญิง อลิสเบี่ยงตัวหลบ แต่สุดท้ายก็ถูกเด็กชายจับแขนเอาไว้ได้อยู่ดี

เด็กน้อยสองคนยื้อแย่งโหลกันไปมาอยู่พักใหญ่ แต่เป็นสตีเฟ่นที่หมดความอดทนก่อน เขาจับโหลคุกกี้ด้วยมือเดียว แล้วผลักเด็กหญิงออกไป

อลิสล้มลงก้นกระแทกพื้น พร้อม ๆ กับแอนดี้ที่กลับมาจากการ ซื้อนม เด็กชายรีบวางกล่องนมไว้บนเก้าอี้ แล้วพุ่งเข้าไปช่วยน้องสาว อลิสปัดมือเล็กน้อย มองเพื่อนร่วมห้องด้วยสายตาไม่ชอบใจ

แอนดี้หันไปมอง สตีเฟ่นที่ไม่มีท่าทีรู้สึกผิดก็โมโห เด็กชายพุ่งเข้าหา แล้วใช้ไหล่กระแทกกับอีกฝ่าย คราวนี้สตีเฟ่นเป็นฝ่ายล้มลง เด็กชายกอดโหลคุกกี้เอาไว้แน่น แล้วก็หงายหลังล้มลงกับพื้น พอลุกนั่งได้ก็เจ็บจนน้ำตาไหล

“ฉันจะฟ้องคุณพ่อ!!!” เด็กชายตะโกนเสียงดังก่อนจะร้องไห้จ้า

เสียงของสตีเฟ่นดังมากพอที่จะทำให้คุณครูที่อยู่ในอาคารสนใจและเดินออกมาดู

“ว้าย! เกิดอะไรขึ้น” คุณครูร่างท้วมร้องเสียงดัง พลางเข้าไปพยุง สตีเฟ่นให้ลุกยืน

“เขาผลักอลิสก่อน!” แอนดี้รีบฟ้อง

“ใช่ค่ะ นี่ไง” อลิสยืนนิ่ง ๆ แบมือน้อย ๆ ที่ถลอกเป็นปื้นให้ครูดู

“ตายล่ะ อลิสมาหาครู ให้ครูพาไปทำแผลก่อน แล้วครูจะแจ้งเรื่องนี้กับผู้ปกครองพวกเธอ” เธอหันมากล่าวประโยคหลังกับเด็กชายทั้งสองคน

สตีเฟ่นเพิ่งเห็นว่าเผลอทำเพื่อนใหม่บาดเจ็บแล้วก็รู้สึกผิด เด็กชายเดินตามแอนดี้ที่ตัวเล็กกว่าเขาเล็กน้อย แต่กลับสามารถผลักเขาล้มได้อย่างลังเล สุดท้ายก็ยื่นมือไปสะกิดไหล่เล็กเบา ๆ แล้วยื่นโหลคุกกี้คืน

“ขอโทษ” เด็กชายพูดเสียงเบา

“นายต้องขอโทษอลิส”

แอนดี้รับโหลคุกกี้ของน้องสาวมาถือไว้เอง เด็กชายสำรวจร่างกายของอีกฝ่าย จนเห็นว่าหลังมือของสตีเฟ่นเองก็มีรอยถลอกเล็ก ๆ เหมือนกัน จึงพากันไปล้างมือในห้องน้ำ

“ขอโทษนายด้วย” แอนดี้กล่าวหลังจากที่พวกเขากลับมานั่งอยู่หน้าห้องพยาบาล สตีเฟ่นส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร

“เอานี่ไป” แอนดี้หยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่งออกมาจากโหล แล้วยื่นให้เพื่อนใหม่ สตีเฟ่นมองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็รับขนมชิ้นพอดีมือไปอยู่ดี

“มือนายเป็นแผล ให้ครูแปะปลาสเตอร์ให้ไหม” แอนดี้เอ่ยถามแล้วหยิบคุกกี้อีกชิ้นขึ้นมากัด สตีเฟ่นส่ายหน้า เด็กชายค่อย ๆ กินขนมชิ้นกลมช้า ๆ ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงระหว่างพวกเขา

“นายจะยกโทษให้ฉันได้ไหม พวกเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ” สตีเฟ่นถามก่อนยื่นมือออกมา

“อื้อ ได้พวกเราเป็นเพื่อนกัน” แอนดี้ตอบพร้อมกับยื่นมือไปจับ

เย็นวันนั้น

เซลีนและคุณพ่อของสตีเฟ่นต้องเดินทางมาพบคุณครูประจำชั้นของพวกเขา อลิสเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ครูสาวฟังแล้ว ดังนั้นผู้ปกครองทั้งสองคน ก็แค่ต้องรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อตักเตือนบุตรหลานของตนเท่านั้น

พวกเขาใช้เวลาอยู่ในห้องครู่ใหญ่ เมื่อออกมาก็พบว่าเด็ก ๆ นั่งหลับกันไปหมดแล้ว เซลีนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดกับคุณพ่อของสตีเฟ่น

“หวังว่าพวกเขาจะสนิทกันนะคะ” เซลีนเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้พ่อของสตีเฟ่น ซึ่งเขาเองยิ้มรับอย่างเป็นมิตรเช่นกัน

“น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ” พ่อของสตีเฟ่นเห็นด้วย

เซลีนบอกลาบ้านของสตีเฟ่น เช่นเดียวกันเด็ก ๆ ที่โบกมือลากันหลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว เธอพาเด็ก ๆ ขึ้นรถและมุ่งหน้ากลับบ้านนึกขบขันที่แผนการตลาดของเธอทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา

แต่สุดท้ายก็โชคดีที่ได้เป็นเพื่อนกันได้ในที่สุด

**********

เซียลบีนีย์ เดอ คาเฟย์ คือสวรรค์ของคนที่ดื่มชาต่างน้ำ

แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นร้านกาแฟ แต่เครื่องดื่มประเภทชาของที่นี่ก็ ไม่น้อยหน้า เพราะเซลีนใช้น้ำทิพย์สวรรค์เป็นส่วนผสมหลักในชาหรือเครื่องดื่มทุกชนิดที่เสิร์ฟให้กับลูกค้า

บวกกับรสชาติของขนมอบ การตกแต่ง ถ้วยชาที่ใช้ การบริการของพนักงาน หรือแม้แต่บรรยากาศวุ่นวายของร้าน ล้วนถูกถ่ายและโพสต์ออกไปมากมาย จนกลายเป็นเหมือนแลนด์มาร์กหนึ่งที่ควรค่าแก่การเข้ามา สักครั้งถ้าหากว่ามาถึงอะเบอดีน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปเพราะเหมือนกับพวกเขาได้หลงเข้าไปในเทพนิยายที่มีอยู่จริงนั่นเอง

ระหว่างที่เซลีนเข้าคิวรอจ่ายเงินที่ซุเปอร์มาร์เก็ต เธอก็ได้ยิน กลุ่มสาว ๆ วัยรุ่น อายุไม่น่าจะเกิน 16 ปี 3 คนพูดคุยกันถึงร้านของเธอ

สาวคนที่ 1 “เซร่าได้ข่าวว่ามีนัดเจอกับหนุ่มเหรอ”

สาวคนที่ 2 “ใช่ เขาชื่อสตีฟ เรียนอยู่ที่xxx”

สาวคนที่ 1 “แล้วจะไปเจอกันที่ไหนละ”

สาวคนที่ 2 “แม่ฉันอนุญาตให้เจอกันแค่ในหมู่บ้าน ฉันก็ยังคิด ไม่ออกว่าจะไปเจอกันที่ไหนดี”

สาวคนที่ 3 “ทำไมไม่ไปนั่งที่เซียลบีนีย์ เดอ คาเฟย์ ล่ะ แนตตี้เล่าว่า ร้านสวยมาก เหมือนในเทพนิยายเลย ขนมก็อร่อย”

สาวคนที่ 1 “ฉันก็ได้ยินมา แต่ยังไม่เคยได้ลองไปดูเลย”

สาวคนที่ 2 “จริงเหรอ งั้นพรุ่งนี้จะลองไปดู ถ้าถูกใจก็จะนัดสตีฟที่นั่น”

สาวๆ คุยกันอีกไม่นานก็ถึงคิวของพวกเธอ เซลีนก็ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ

ฝั่งแอนดี้และอลิสเองก็มีความสุขดี หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็ยังคงนำขนมไปฝากเพื่อนๆ กับคุณครูอยู่เป็นประจำ สองแฝดเป็นเด็กอัธยาศัยดีดังนั้นจึงเป็นที่รู้จักของใครหลาย ๆ คนในเวลาไม่นาน

ถ้าหากว่าไม่มีกฎหมายสิทธิเด็ก ภาพของทั้งคู่ก็คงมีอยู่ว่อนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว ทั้งคู่เรียนประถมศึกษาปีแรกได้สบาย ๆ

สตีเฟ่นกลายเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของพวกเขา ในตอนนี้ชีวิตของเซลีนนับว่าทุกอย่างลงตัวและพร้อมสำหรับการเดินหน้าต่อ

เดินหน้าที่ไม่ใช่ในทางธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของหัวใจต่างหาก

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ