นิโคลัสหลังจากที่ได้ยินเสียงปิดประตู เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขารู้สึกเสียความมั่นใจในตนเองขึ้นมา เพราะปฏิกิริยาของร่างกายมันดันตอบสนองต่อสัมผัสของเซลีนได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งเวลาผ่านไปนาน มากขึ้น จินตนาการที่มันล่อลวง สัมผัสที่เนิบช้า นุ่มนวลจากมือบางทำให้เขาผ่อนคลาย ยิ่งทำให้เขาจินตนาการไปไกล และไกลมาก มันจะให้ความรู้สึกเช่นไร ถ้ามือบางคู่นั้นลูบไล้ไปตามร่างกายของเขา และเขาก็กระทำเช่นเดียวกันกับร่างบาง
ยิ่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ส่งออกมาจากร่างกายเธอ ยิ่งทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายได้อีกต่อไป เขาจึงต้องตัดสินใจไล่เธอออกไปจากห้อง ไม่เช่นนั้นเขาคงได้ขายหน้าแน่นอน เขาแปลกใจมาก ทำไมหญิงสาว ถึงได้มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเขาขนาดนี้ เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยระดับดารา นางแบบ แล้วเธอมีอะไรที่มันพิเศษกันล่ะ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่าอะไรที่มันพิเศษ แต่ความรู้สึกของเขาบอกว่ามันมี เขาคงต้องค้นหาด้วยตนเองซะแล้ว
นิโคลัสไม่สามารถขจัดความรู้สึกและอารมณ์ให้ออกไปจากหัวตนเองได้ เขาจึงต้องลุกไปเข้าห้องน้ำและทำการปลดปล่อยมันด้วยตนเอง
“อ๊าห์ เซลีน แม่มดน้อยของผม” เขาส่งเสียงครางทุ้มต่ำเปล่งออกมาอย่างพึงพอใจ.....
ตอนนี้เซลีนกำลังนั่งอยู่บนรถยนต์ เจสันเป็นคนขับรถยนต์มาส่งเซลีนที่ลอนดอน
“พี่เจสัน ฉันขอโทษนะ พวกเราคงพลาดคอนแทรคจากคลับแล้วละ เป็นเพราะฉันคนเดียวเลย คุณนิโคลัสคงไม่ให้เราผ่านการเทสต์หรอก เล่นไล่ฉันออกมาซะเสียงดังขนาดนั้น แต่ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีเลยนะจู่ ๆ เขาก็ไล่ฉันออกมาเฉย ตอนนี้ฉันก็ยังคิดไม่ตกว่าทำอะไรผิดอยู่เลย” เซลีนกล่าวขอโทษเจสันพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ
“ไม่เป็นไรหรอกเซลีน พี่ไม่โทษเธอหรอก ใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณนิโคลัสน่ะทั้งดุและเฮี้ยบขนาดไหน เราไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พี่รู้ว่าเธอทำเต็มที่แล้ว ก็ถือว่าไปเอาประสบการณ์ละกัน” เจสันกล่าวปลอบใจน้องสาวคนสวย
“เจ้รำไพคงเสียใจน่าดู พวกพี่ ๆ ที่ร้านอีก ฉันรู้สึกผิดมากเลย”
“เอาน่า อย่าคิดมาก ตราบใดที่ยังไม่ได้รับจดหมายปฏิเสธก็อย่าท้อ ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ไปเทสต์ใหม่ก็ได้”
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงมือถือที่ดังขึ้น เซลีนจึงขออนุญาตเจสันรับสาย
“สวัสดีค่ะอีริค สบายดีไหมคะ”เซลีนรับสายพร้อมเหลือบมองเจสันที่ขับรถอยู่ “สะดวกคุยค่ะ อยู่บนรถยนต์กับพี่เจสัน กำลังเดินทางกลับลอนดอนค่ะ”
เธอรอฟังเสียงจากปลายสายก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา
“จริงเหรอคะ สุดยอด ขอบคุณมากค่ะที่โทรแจ้งข่าว ได้ค่ะ แล้วคุยกันใหม่ค่ะ บาย” เซลีนกดวางสายแล้วสอดมือถือกลับเข้าไปในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเจสันมองมาอย่างสงสัย
“คุณอีริคเจ้าของ เอส เค เทค ค่ะ โทรมาแจ้งเรื่องโปรเจกต์แคนทีนผ่านการอนุมัติจากบอร์ดแล้ว ฉันกับฟ้าอดีตลูกน้องของเจ้ที่ร้านอาหาร จะไปเปิดร้านอาหารที่นั่นค่ะ” เซลีนเล่าให้เจสันฟัง
“เดี๋ยวนี้รวยใหญ่แล้วนะเราน่ะ”เจสันเอ่ยแซวเซลีน
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ อยากทำงานหาเงินไว้ให้สองแฝดเยอะ ๆ ค่ะ ไม่อยากให้เขาลำบากเมื่อโตขึ้นมา พ่อของพวกเขาก็ไม่รู้จะพึ่งพาได้ หรือเปล่า ฉันไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตนเองน่ะค่ะ”
“มีเงินมันก็ดี แต่ก็ต้องรู้ขอบเขตตนเองด้วย เข้าใจไหม พี่กับแม่เป็นห่วงนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ว่าแต่ฉันเถอะพี่เจสันก็เหมือนกัน ทำงานหนักไปแล้วนะคะ กลับไปเยี่ยมเจ้บ่อย ๆ ก็ดี เจ้บ่นถึงพี่ทุกวันเลย” เซลีนแซวกลับ
ตั้งแต่เซลีนมาอยู่บ้านกับเจ้รำไพ นางก็เล่าเรื่องของสามคนแม่ลูกให้ลูกชายฟังเสมอ เจสันจึงรู้สึกว่าเซลีนเหมือนน้องสาวของเขาคนหนึ่ง ยิ่งได้มาเจอตัวเป็น ๆ อีกครั้ง ความสดใสและมองโลกในแง่ดีของเธอก็ทำให้เขารู้สึกชอบสาวแม่ลูกสองคนนี้มากขึ้น
มันเป็นความรัก ความชอบแบบพี่ชายน้องสาว ยิ่งแอนดี้ชอบกีฬาฟุตบอลด้วย เขาก็เลยสนิทกับเด็กชายมากขึ้น เซลีนมาอยู่กับเจ้รำไพ แม่ของเขาก็ไม่เหงา เหมือนจะรู้สึกมีความสุขมาก เพราะเขาก็โทรศัพท์มาคุยบ่อยมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมาเยี่ยมไม่ได้ก็ตาม
“ขอบคุณมากนะคะพี่เจสันที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไร เข้าบ้านเถอะและไม่ต้องคิดมากเรื่องผลเทสต์นะ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติเถอะ ฝากกอดคุณแม่แทนพี่ด้วย” เจสันลาเซลีนก็ขับรถกลับไปที่คลับทันที
เซลีนเดินไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์ไปแจ้งน้องฟ้าว่าโปรเจกต์แคนทีนที่คุยกันไว้ผ่านแล้ว ให้ลงมือทำตามแผนงานได้เลย น้องฟ้าถึงกับร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ เพราะเป็นธุรกิจแรกของน้องฟ้าที่นี่ เซลีนดีใจกับน้องฟ้าและครอบครัวด้วย เพราะเธอมองเห็นว่าธุรกิจสามารถเติบโตไปได้อีกไกล
***************
วันนี้มาร์คมารับสองแฝดไปค้างที่บ้านด้วยเหมือนกับสัปดาห์ที่ผ่านมา อลิสกับแอนดี้ก็เตรียมตัวตั้งแต่เมื่อวาน เพราะพวกเขาสองคนมีความหวังว่าพ่อกับแม่จะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้แด๊ดดี้ของพวกเขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แด๊ดดี้ไม่ได้ตีเขากับน้อง
แด๊ดดี้พาเขากับอลิสไปเล่นที่บ้านเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า พาไปทานอาหารอร่อย ซื้อตุ๊กตาให้อลิส ซื้อหุ่นยนต์ตัวใหม่ให้เขา เขาชอบแด๊ดดี้คนใหม่นี้มาก เซลีนไม่ลืมที่จะวิดีโอคอลไปเซย์ good night กับ สองแฝดก่อนนอนเหมือนเช่นทุกวัน
วันอาทิตย์เวลาบ่ายสามโมงกว่า เซลีนเดินกลับไปมาอย่างกระวนกระวายใจ เพราะปกติแล้วมาร์คจะพาสองแฝดมาส่งเวลานี้ แต่นี่ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว มาร์คก็ยังไม่พาลูกของเธอมาส่ง เซลีนพยายามคิดใน แง่ดีว่ารถอาจจะติด เมื่อครบ 1 ชั่วโมง เซลีนตัดสินใจโทรศัพท์หามาร์คทันที ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ มีแต่เสียงที่บอกให้ฝากข้อความไว้ เซลีนรีบโทรศัพท์หาเจ้รำไพทันที
“เจ้ ช่วยด้วย ช่วยช่อด้วย” เซลีนรีบขอร้องให้เจ้รำไพช่วยทันทีที่ เจ้รำไพรับสาย
“ช่อ ใจเย็นก่อน เกิดอะไรขึ้น”
“มาร์คค่ะ สองแฝดไปนอนค้างที่บ้านมาร์คเมื่อคืน นี่ก็สายมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว มาร์คยังไม่พาสองแฝดมาส่งเลยค่ะ ช่อโทรไปก็ปิดมือถือ ช่อทำไงดีคะ ช่ออยากจะไปหามาร์คที่บ้าน แต่ก็ไม่กล้าไปคนเดียว”
“ทำไงดี เจ้อยู่ไบรตั้นคงไปเป็นเพื่อนช่อไม่ได้ อีริคไง ช่อลองโทรหาคุณอีริคดูสิ ว่าเขาจะไปเป็นเพื่อนได้ไหม” เจ้รำไพหาทางออกให้กลับเซลีน
“ขอบคุณเจ้มาก ช่อลืมไปเลย งั้นช่อวางสายก่อนนะ”
“ได้เรื่องยังไงอย่าลืมโทรบอกเจ้ด้วยนะ”
“ค่ะ” เซลีนวางสายจากเจ้รำไพแล้วก็รีบโทรหาอีริคทันที
“เซลีนสวัสดีครับ พระอาทิตย์ต้องขึ้นทางทิศตะวันตกแน่ที่คุณโทรมาหาผมก่อน” อีริคแซวเซลีน
“อีริคคะ คุณว่างไหม สะดวกมาหาฉันหรือเปล่า” เซลีนถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน
“เกิดอะไรขึ้นเซลีน คุณโอเคไหม” อีริคเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงเข้าสู่โหมดความจริงจังทันทีที่ได้ยินเสียงร้อนรนจากปลายสาย
“อลิสกับแอนดี้ไปนอนค้างที่บ้านมาร์คค่ะ จนป่านนี้เลทมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว มาร์คยังไม่พาสองแฝดมาส่งเลย ฉันโทรไปก็ปิดมือถือ ฉันอยากไปดูที่บ้านของมาร์คแต่ไม่กล้าไปคนเดียว อยากจะรบกวนคุณไปเป็นเพื่อนได้ไหมคะ” เซลีนอธิบาย
“ได้ ผมว่าง งั้นผมไปรับคุณที่บ้านแล้วไปบ้านของมาร์คด้วยกัน”
“ไม่ค่ะ แบบนั้นมันช้าไป ฉันจะส่งโลเคชันไปให้ คุณขับรถไปที่นั่นเลย ส่วนฉันจะขึ้นรถไฟไป ใครไปถึงก่อนก็รออีกคนแบบนี้จะดีที่สุด”
“ได้ งั้นเจอกันนะครับ รักษาตัวด้วย”
เซลีนไปถึงที่บ้านมาร์คก่อน ไม่กี่นาทีต่อมาอีริคก็มาถึง
ระหว่างที่รออีริคและระหว่างเดินทางมา เซลีนก็พยายามโทรหามาร์คตลอดเวลา แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม คือติดต่อไม่ได้ มีแต่เสียงฝากข้อความ ตอนนี้หญิงสาวร้อนรนจนคุมสติไม่อยู่
เขาหายไปไหน? แล้วลูกของเธอจะปลอดภัยมั้ย? มันเกิดอะไรกันแน่? เซลีนคิดวนไปมาตลอดเวลาที่นั่งรถไปที่บ้านของมาร์ค
“อีริค ขอบคุณมากนะคะที่มาเป็นเพื่อน เราไปกันเถอะค่ะ” เซลีนร้อนใจจึงรีบจูงมืออีริคเดินไปกดกริ่ง
อีริคมองตามมือของเซลีนที่จูงมือเขาไว้ก็ได้แต่ยิ้มอ่อน ๆ เขามองหญิงสาวด้วยสายตาที่อ่อนโยน
ติ่งต่อง ติ่งต่อง
กดกริ่งอยู่นานก็ไม่มีใครออกมาเปิด แต่เซลีนมั่นใจว่ามาร์คต้องอยู่ในบ้านแน่ เพราะเธอได้ยินเสียงเพลงที่เปิดไว้ รออยู่กว่าสิบนาทีก็ยังไม่มีใครมาเปิด เซลีนยิ่งร้อนใจขึ้นไปอีก
“ผมว่าเราแจ้งตำรวจเถอะครับ แบบนี้ไม่ปกติแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมพอมีคนรู้จัก” อีริคบอกเสร็จก็หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าสูท จัดการโทรหาใครบางคนทันที
“เขาบอกว่าจะรีบมา ตอนนี้ก็ใจเย็น ๆ ก่อน อาจจะไม่มีอะไรก็ได้”
อีริครีบแจ้งความคืบหน้ากับเซลีนทันที
เซลีนเดินวนไปมาหน้าบ้านมาร์คด้วยความร้อนใจ ผ่านไป 15 นาที ตำรวจก็มาถึงที่หน้าบ้านมาร์ค พวกเขาสอบถามเซลีนกันพอสมควร ก่อนที่ตำรวจจะตัดสินใจพังประตูเข้าไป ตำรวจชายร่างใหญ่ 2 คนช่วยกันงัดประตูเข้าไป
พอเปิดได้เซลีนรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะว่าสิ่งที่เธอเห็นนั่นมันตรงกันข้ามกับที่มาร์คพยายามจะขอคืนดีกับเธอโดยสิ้นเชิง
มาร์คตอนนี้กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างถึงพริกถึงขิง รอบโต๊ะมีแต่ขวดเบียร์ ขวดเหล้าวางเกลื่อนไปหมด เขาไม่สนใจพวกเธอที่มายืนอยู่ตรงหน้าด้วยซ้ำ เหมือนกับเขากำลังอยู่ในโลกของตนเอง ตำรวจบอกว่ามีเศษของยาเสพติดบนโต๊ะ ตำรวจเข้าไปชาร์จมาร์ค แต่แค่เพียงแวบเดียวที่ เซลีนมองอดีตสามี เธอก็รีบบ่ายหน้าออกจากคนที่เธอผิดหวังเป็นครั้งที่สองแล้วมองหาเด็ก ๆ ทันที
เซลีนร้อนใจเรื่องลูก ๆ ของเธอว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ไหน เธอวิ่งขึ้นไปบนห้องนอน ไล่ดูแต่ละห้อง ก็ไม่เห็นว่าลูกของเธอจะอยู่ในบ้าน เซลีนเริ่มสติแตก อีริคก็ตามมาด้วย เขาช่วยเซลีนไล่ดูแต่ละห้อง จนดูครบหมด ทุกห้องแล้วเซลีนก็ไม่เจอสองแฝด เซลีนร้องไห้โฮออกมาทันที อีริคที่เดินตามมาตกใจมาก เขารีบเข้าไปกอดเซลีนไว้เพื่อปลอบขวัญเธอ
“เซลีน คุณจะร้องไห้ตอนนี้ไม่ได้ คุณต้องตั้งสติ คิดสิครับว่าสองแฝดจะอยู่ที่ไหนได้อีก พวกเขากำลังกลัวและต้องการแม่ของเขานะครับ” อีริคเอ่ยให้สติกับเซลีน
เซลีนได้ยินดังนั้นก็ค่อย ๆ สงบและคิดได้ว่าใช่.. ลูก ๆ กำลังต้องการเธออยู่ การร้องไห้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร เธอใช้หลังมือปาดเช็ดน้ำตา บนใบหน้าอย่างลวก ๆ แล้วกลับไปค้นหาทุกห้องอีกครั้ง
รอบนี้เซลีนค้นอย่างใช้สติ เธอทำแม้แต่ยกเตียงขึ้นดู
จนมาคิดได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่มาร์คยังตบตีทำร้ายร่างกายเธอกับลูก แอนดี้จะพาอลิสไปหลบพ่อที่ห้องเก็บแทงก์น้ำร้อน ซึ่งเธอเอาไว้ตากผ้า ถึงแม้ว่าจะเรียกว่าเป็นห้อง แต่ความเป็นจริงมันเป็นส่วนที่ว่างส่วนหนึ่งของบ้าน มีพื้นที่แค่ให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งเดินเข้าไปได้เท่านั้น
คิดได้ดังนั้นเซลีนก็ลงมาที่ชั้นหนึ่ง เธอวิ่งตรงดิ่งไปที่ห้องเก็บเครื่องทำความร้อน แต่ประตูมันมีโต๊ะมาวางขวางไว้ อีริครีบเข้ามายกโต๊ะตัวนั้นออกไป
พอเปิดประตูได้เท่านั้นเอง ใจของเธอแทบแหลกสลาย ลูกของเธอสองคนกอดกันกลมอยู่ในนั้น อลิสยังร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็พยายามไม่ให้ออกเสียง
“แอนดี้ อลิส หม่ามี้อยู่นี่แล้ว หม่ามี้ขอโทษ หม่ามี้ขอโทษที่มาช้า”
เซลีนนั่งลงอ้าแขนออกกว้างรอรับลูกของเธอเข้าสู่อ้อมกอด
แอนดี้ได้ยินเสียงของคนเป็นแม่ หันขวับไปมองแล้วก็รีบบอกน้องสาว “อลิส หม่ามี้มาแล้ว ไปหาหม่ามี้กันเถอะ” แอนดี้บอกก่อนจะจูงน้องสาวลุกเดินมาหาแม่ของตน
“หม่ามี้ อลิสกลัว แด๊ดดี้น่ากลัว”
อลิสกับแอนดี้ร้องไห้ออกมาเสียงดัง เซลีนรวบสองแฝดมากอด มาหอมหัว พร่ำแต่บอกขอโทษลูก ๆ ของเธอ
เซลีนสงสารลูกของเธอมาก เด็กแค่สี่ขวบที่ได้รับการทำร้าย ทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่จำความได้จากพ่อผู้ให้กำเนิด ผ่านไปไม่ถึงปี พ่อของพวกเขากลับมาทำดีด้วย พวกเขาก็หวังว่าพ่อจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก แต่แล้วครั้งนี้มาร์คทำร้ายจิตใจลูกของตนเองได้เลวร้ายที่สุด
เซลีนไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อคืนและวันนี้ ทั้งสองคนผ่านความกลัวมาได้ยังไง
อีริคเข้าไปแตะไหล่เซลีนเบา ๆ “เซลีน รีบพาลูกไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวต้องคุยกับเด็ก ๆ อีก วันนี้อีกยาวกว่าจะเคลียร์เรื่องทั้งหมดจบ”
“อีริค ขอบคุณมากนะคะที่มาเป็นเพื่อนและช่วยฉันในวันนี้ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ” เซลีนหันไปขอบคุณอีริค
ผู้ชายที่อยู่ข้างเธอในวันที่เธอต้องการความช่วยเหลือ เธอรู้ว่าเขาต้องยุ่งมาก ๆ เพราะโปรเจกต์ของอเมริกา ไม่งั้นเขาจะต้องจ้างเธอไปเปิดร้านอาหารเพื่อพนักงานจะได้ทำงาน 24 ชั่วโมงได้อย่างไร
แต่ชายคนนี้ก็ยอมมาช่วยเธอ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?