วันนี้เป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันแรกที่มาร์คได้มารับสองแฝดไปนอนค้างที่บ้านหนึ่งคืน หลังจากที่มาร์คแสดงให้เซลีนเห็นว่าเขาดีพอที่จะได้เจอกับลูก ๆ ซึ่งหากพรุ่งนี้เด็ก ๆ กลับมาแล้ว เธอตั้งใจจะถามลูก ๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง สมควรที่จะอนุญาตให้ไปนอนที่บ้านกับพ่อของพวกเขาในครั้งต่อไปอีกไหม
คืนนั้นก่อนนอนเซลีนก็ไม่ลืมที่จะวิดีโอคอลไปหาสองแฝด และได้คุยกับมาร์คนิดหน่อย เขายังพยายามชวนเซลีนรื้อฟื้นความหลังระหว่างเขากับซินดี้ แต่ขอโทษเถอะ... เธอไม่มีความทรงจำหรือรู้สึกกับเขาแบบนั้น จึงได้วางสายไป
วันอาทิตย์ ที่บ้านของเซลีน
“แอนดี้ อลิส ไปนอนค้างที่บ้านแด๊ดดี้เป็นไงบ้าง เล่าให้หม่ามี้ฟังหน่อยชิคะ” เซลีนถามลูกทั้งสองคนของเธอ ขณะที่นั่งเล่นอยู่ในห้องรับแขกหลังทานมื้อเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“แด๊ดดี้ใจดีฮะ ไม่ตี ไม่ดุ ผมเหมือนเมื่อก่อน และยังให้ดูการ์ตูนได้ถึงสองทุ่มฮะ” แอนดี้ตอบมารดาของเขา
“แด๊ดดี้ใจดีค่ะ แด๊ดดี้เล่านิทานก่อนนอนให้อลิสกับพี่แอนดี้ฟังด้วย แด๊ดดี้ยังซื้อชุดใหม่ให้พวกเราสองคนด้วยค่ะ” อลิสเล่าให้มารดาฟังพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส
“อลิสกับแอนดี้อยากไปค้างที่บ้านของแด๊ดดี้อีกไหมคะ” เซลีนถาม
“อยากไปอีกฮะ/ค่ะ” ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน
“แล้วถ้าในอนาคตลูกต้องอยู่กับหม่ามี้ จะไปนอนค้างที่บ้านแด๊ดดี้ได้บางครั้งเท่านั้น อาจจะปีละครั้ง ลูก ๆ โอเคไหม หรือว่าลูก ๆ อยากให้ พวกเราอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน” เซลีนกลั้นใจถาม เพราะเธอต้องการ รู้ความต้องการของเด็ก ๆ เธอไม่อาจจะเห็นแก่ตัวได้
“ถ้าแด๊ดดี้เป็นเหมือนตอนนี้ ผมอยากให้พวกเรากลับไปอยู่ด้วยกันฮะ แต่ถ้าแด๊ดดี้ที่ชอบทำร้ายหม่ามี้ ผมเลือกอยู่กับหม่ามี้ฮะ” แดนนี่ตอบออกมาพร้อมกับเข้าไปกอดเซลีนไว้
“โธ่แอนดี้ อลิส หม่ามี้รักหนูสองคนมากนะคะ แต่หม่ามี้คงไม่สามารถกลับไปอยู่ด้วยกันกับแด๊ดดี้ของลูกได้แล้ว หม่ามี้ไม่อยากเป็นคนที่เห็นแก่ตัว แต่หม่ามี้ก็ไม่ได้รักแด๊ดดี้แล้ว หม่ามี้จะทำยังไงดี” เซลีนรู้สึกสับสนมาก
“หม่ามี้อย่าเสียใจเลยฮะ ผมจะอยู่กับหม่ามี้ฮะ” แอนดี้กอดและตอบออกมาอย่างจริงจัง
“อลิสก็จะอยู่กับหม่ามี้ค่ะ” อลิสก็พยักหน้าและเข้ามากอดแม่ด้วย
“ขอบใจมากจ๊ะ” เซลีนยิ้มและกอดลูกทั้งสองคนไว้ในอ้อมอกด้วย สีหน้ามีความสุข
เช้าวันจันทร์
วันนี้เป็นวันที่เซลีนนัดกับน้องฟ้าไว้ ว่าจะมาคุยกันเรื่องรายละเอียดร้านในแคนทีนของ เอช เค เทค
“พี่ช่อ ฟ้าขอบคุณมากนะคะ ที่ให้โอกาสฟ้าร่วมทุนทำร้านด้วยกัน ฟ้าตื่นเต้นมาก ๆ เลย เรามาวางแผนกันเลยดีไหมคะ ฟ้าอดใจไม่ไหวแล้ว”
“พี่คิดว่าจะให้น้องฟ้าเป็นเมนหลักเลย พี่จะร่วมลงทุนเป็นเงิน แต่จะไม่เข้าบริหาร พี่รับแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ น้องฟ้ารับ 80 เปอร์เซ็นต์ คิดจากกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว พี่เป็นคนส่งซอสต่าง ๆ ให้กับน้องฟ้าเหมือนกับที่พี่ทำส่งให้เจ้รำไพ น้องฟ้าคิดว่าไง” เซลีนเสนอแผนการร่วมทุนให้น้องฟ้าฟัง
“อืมไม่น้อยไปเหรอคะพี่ช่อ พี่ช่อได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เอง”
“ไม่หรอก เพราะน้องฟ้าต้องเข้าไปบริหารร้าน พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย น้องฟ้าทำงานหนักกว่าพี่ ไหนน้องฟ้าต้องไปหาคนมาทำงานอีก ถ้าคนขาดน้องฟ้าก็ต้องเข้าทำแทน งานหนักเอาการอยู่นะ สำหรับคนงานที่จะมาทำงานที่ร้าน พี่ให้สิทธิ์น้องฟ้าคัดคนได้เลย”
“ฟ้ามีเพื่อนที่พอทำได้อยู่ ก็จะไปชวนเขามาทำงานด้วย” ฟ้าพูดถึงแผนของเธอให้เซลีนฟัง
“ช่วงแรก ๆ นี้พี่จะเข้าไปดูร้านให้ด้วย ไม่ปล่อยฟ้าทำคนเดียวหรอก สักหนึ่งเดือนอะไรก็คงลงตัวแล้ว”
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราไปทำส้มตำกันดีกว่าค่ะ เปรี้ยวปากมาก”
น้องฟ้าหลังจากคุยกันเรื่องร้านเสร็จก็ถามหาของกินเลย มันเป็นเรื่องปกติสำหรับสาวไทยในต่างแดนที่จะมีปาร์ตี้ส้มตำกัน
**********
แล้ววันที่ร้านสยามสปาต้องไปเทสต์งานให้กับคลับฟุตบอลก็มาถึง เจ้รำไพ พี่นาง เซลีน กับหมอนวดอีก 7 คน ก็เดินทางโดยรถบัสที่เจสันส่งให้มารับที่ลอนดอน เดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่คลับ เจสันออกมารอกลุ่มของร้านสยามสปา เขาโผเข้าไปกอดเจ้รำไพเป็นคนแรก ก่อนที่จะพาทุกคนเข้าไปพักที่ห้องที่จัดเตรียมไว้
“ทำไมช่อถึงได้เป็นคนนวดให้คุณนิโคลัสละ” มะปรางถามออกไปแบบลอย ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“มะปรางอย่าก่อเรื่อง หรือเธอไม่ต้องการได้งานนี้ก็ได้นะ ฉันจะได้เปลี่ยนคนใหม่” เจ้รำไพเตือนเสียงเข้ม
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย แค่สงสัยเองเจ้ ใครจะไปยอมถอนตัว โอกาสมาถึงแล้ว” มะปรางบ่นเสียงอุบอิบเบา ๆ คนเดียว
รอในห้องอยู่ไม่นานก็มีสตาฟมาพาทุกคนไปที่ห้องทรีทเม้นต์ เป็นห้องที่เหมือนห้องออกกำลังกายหรือสปาทั่วไป แต่ว่ามีขนาดที่ใหญ่ว่า ร้านสยามสปามาก รวมถึงมีอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย เจ้รำไพเอ่ยเตือนลูกน้องว่าอย่าได้เพ่นพ่าน เดี๋ยวทำอุปกรณ์เสียหาย
ทุกคนจะได้นวดนักฟุตบอลคนละ 1 ชั่วโมง พักทุก 3 ชั่วโมง โชคดีที่โจทย์ในวันนี้คือนวดผ่อนคลาย ยังไม่มีใครได้นวดแก้อาการบาดเจ็บสักคน เพราะเซลีนเป็นคนรับหน้าที่ตรงนี้
“เซลีนตามพี่มา พี่จะพาไปที่ห้องสำหรับเทสต์คุณนิโคลัส” เจสันเดินเข้ามาบอกเซลีนที่ตอนนี้เหลือตัวคนเดียวในห้องพัก
“อ้าวพี่เจสัน ฉันไม่ได้นวดที่ห้องทรีทเม้นต์เหรอคะ” เซลีนถามออกไปด้วยความแปลกใจ
“ตอนแรกก็ว่าจะได้นวดที่ห้องทรีทเม้นต์นั่นแหละ แต่เผอิญว่า คุณนิโคลัสมีงานด่วนเข้ามา เขาจึงสั่งให้พี่พาเธอไปรอที่ห้องทำงาน เธอแค่รอให้เขาทำงานเสร็จก็ค่อยนวดให้เขา ไม่ต้องกลัวนะ คุณนิโคลัสเขาเป็น เสือยิ้มยาก เขาไม่สนใจผู้หญิงหรอก” เจสันบอกให้เซลีนไม่ต้องกังวล
“ได้ค่ะ” เซลีนรับคำพร้อมกับหยิบอุปกรณ์การนวดทุกอย่างเดินตามไปกับเจสัน
เจสันพาเซลีนไปที่ตึกอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกที่ทันสมัย มีหลายชั้น เจสันพาเซลีนขึ้นไปชั้นบนสุดของตึก เซลีนจึงได้รู้ว่าชั้นบนสุดของตึกเป็นอาณาเขตของคุณนิโคลัส มีห้องทำงาน ห้องสันทนาการ ห้องนอน ห้องรับแขก เหมือนคอนโดหรูขนาดย่อม ๆ ระหว่างทางเซลีนเห็นมี รปภ. ยืนอยู่ตามจุดต่าง ๆ เกิดเป็นคนรวยก็ลำบากอีกแบบ ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย
“สวัสดีครับ ผมพาเซลีนคนที่จะมาเทสต์คุณนิโคลัสเกี่ยวกับการนวดผ่อนคลายมาส่งครับ” เจสันบอกแก่บอดี้การ์ดหน้าห้องชั้นแรก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในอาณาจักรของคุณนิโคลัส
“เชิญครับ บอสแจ้งไว้แล้ว คุณสามารถนั่งรอได้ที่ห้องรับแขกครับ” บอดี้การ์ดเปิดประตูให้เซลีนเดินเข้าไป
“เซลีน พี่ส่งแค่นี้นะ เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้วให้แจ้งบอดี้การ์ดเดี๋ยวพี่ขึ้นมารับ” เจสันบอกเซลีน
“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง ถ้านวดเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันจะโทรหานะคะ”
เซลีนยกมือไหว้เจสัน ก่อนที่จะหิ้วกระเป๋าอุปกรณ์เดินเข้าไป โดยมีบอดี้การ์ดคอยปิดประตูให้เรียบร้อย
เซลีนเดินเข้าไปก็หันซ้ายหันขวา เพราะห้องโถงที่เธอเดินผ่านเข้าไปมันกว้างมาก ดูก็รู้ว่าต้องแพงสุด ๆ การตกแต่งที่ทันสมัย หลังคาเป็น โดมกระจก มีแชนเดอรเลียร์ห้อยระย้าลดหลั่นกันลงมาเหมือนกับสายน้ำตก มองดูก็เพลินไปอีกแบบ
“เอาวะ”
เซลีนบอกตนเอง เขาบอกว่าห้องรับแขกมันก็ต้องอยู่ด้านหน้าสุดนั่นแหละ ถ้าไปรอผิดห้องก็มาโทษไม่ได้หรอก เซลีนเดินไปเรื่อย ๆ ก็มาถึงห้องโทนสีดำ เทา ขาว มีโซฟาตัวใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง เซลีนจึงเหมาเอาว่าคงเป็นห้องนี้ที่เขาให้มารอ
ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ทั้งนั่งเล่นมือถือ ทั้งเช็กอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ทั้งเดินสำรวจห้องนี้แล้ว ก็ยังไร้วี่แววว่าจะมีคนมาตาม
ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง ก็ยังคงไร้วี่แววจะมีคนมาตาม หนังตาที่เริ่มปิดปรือก็ปิดลงอย่างถาวร เซลีนนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว
*********
นิโคลัส ไวท์ หรือ นิค ชายหนุ่มอายุ 48 ปี สูง 192 เซนติเมตร ลูกครึ่งอังกฤษ-อาหรับ ผมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง รับกับริมฝีปากหนา ใบหน้าที่ไร้หนวดเครา ตาที่ดุคมเฉี่ยว รูปร่างที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เมื่อถูกสวมอยู่บนสูทสีน้ำเงินเข้ม ยิ่งใบหน้าที่เฉยชา ไร้ซึ่งรอยยิ้ม ส่งผลให้ชายหนุ่มดูสง่างาม ลึกลับ น่าค้นหา อาจจะด้วยความเป็นลูกครึ่งยุโรปกับอาหรับด้วยละมั้ง
ตอนนี้เขากำลังยืนมองหญิงสาวคนหนึ่งที่ยึดโซฟาในห้องรับแขกของเขาเป็นที่นิทราไปซะได้ ใช่....มันเป็นความผิดของเขาที่ปล่อยให้หล่อนรอนาน ถ้าหล่อนจะหลับไปก็คงไม่แปลก แต่มันใช่ไหม? ทำไมหล่อนไม่ระวังตัว ถ้าคนที่เข้ามาไม่ใช่เขาเป็นคนอื่น แล้วมาเห็นหญิงสาวที่เอ่อ.... รูปร่างเย้ายวนใจขนาดนี้ ใบหน้าที่สวย ผิวสีน้ำผึ้งที่เรียบเนียน หน้าอกหน้าใจก็มีเกินไซซ์ เขาไล่สายตาลงมาที่เอวคอดกิ่วที่รับกับสะโพกผายนั้น ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมต้องรู้สึกโกรธ ทั้งที่หล่อนก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรให้เขาเลย ไม่แม้แต่จะได้สนทนากันด้วยซ้ำ
อาจจะเป็นเพราะเจ้าความคิดที่ว่าคนอื่นที่เข้ามาแล้วมาเห็นภาพแบบนี้มั้ง ที่ทำให้เขารู้สึกโกรธหล่อนมาก จนอยากจะปลุกหล่อนขึ้นมาแล้วฟาดก้นสักที โทษฐานที่ไม่ระวังตัว
นิโคลัสสะบัดศีรษะของตนเองไปมาสองสามที ปรับอารมณ์ตนเองให้เป็นปกติ ‘เขาท่าจะบ้า’ บ่นให้ตนเองในใจแล้วก็สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ จนสามารถกลับมาควบคุมตนเองได้ดีเป็นปกติแล้ว นิโคลัสก็ส่งเสียงเรียกออกไป แต่นอกจากหล่อนจะไม่ตื่น หล่อนยังพลิกตัวไปอีกด้านอีกต่างหาก หล่อนส่งเสียงงึมงำในลำคอเล็กน้อย สาบเสื้อที่หล่อนสวมอยู่มันก็เผยให้เห็นส่วนที่มันไม่สมควรจะเปิดเผย แต่ยิ่งมันเปิดไม่หมด เปิดแค่วับๆแวมๆ เขาซึ่งเห็นภาพนั้นไปแล้วก็จินตนาการไปไกล จนรู้สึกร้อนรุ่มไปหมดทั้งตัว
นิโคลัสบอกตนเองว่าผู้หญิงคนนี้อันตราย หล่อนยังไม่ได้ทำอะไร สักอย่าง ก็สามารถปั่นอารมณ์ของเขาได้แล้ว ปกติเขาสามารถควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี จนเจ้าพวกลูกน้องให้ฉายาเขาว่า เสือยิ้มยาก หรือว่าฉายานี้มันจะถูกลบออกไปเพราะผู้หญิงตรงหน้ากันแน่นะ
“คุณ ๆ”
นิโคลัสเดินเข้าไปใกล้ร่างบางอีกนิด เขาก้มลงใช้มือเขย่าเพื่อปลุกให้ร่างบางรู้สึกตัว แต่เรียกไปก็เท่านั้น หล่อนไม่ตื่น แถมยังคว้าเอามือของเขาไปกอดไว้อีกต่างหาก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ออกมาจากร่างบางยิ่งทำให้นิโคลัสว้าวุ่นใจ มันเป็นกลิ่นเหมือนแป้งเด็ก หอมสดชื่น ไม่ฉุนเหมือนน้ำหอมตามเคาน์เตอร์แบรนด์
นิโคลัสจนปัญญาที่จะแกะมือของเขาออกจากหญิงสาว เขาเลยตัดสินใจนั่งลงข้างเจ้าหล่อน นั่นเอากะหล่อนสิ นอกจากจะไม่ปล่อยมือเขาแล้ว หล่อนยังหันมาแนบแก้มเอาหัวมานอนหนุนตักเขาชะได้
ในฝันเซลีนกำลังฝันถึงพี่สาวเธอ พี่ช่อฟ้า เธอไม่ได้กอดพี่สาวนาน แค่ไหนแล้ว พอเจออีกทีเซลีนเลยทั้งกอดทั้งนอนหนุนตัก พี่ฟ้าจะลูบผมเธอ พร้อมกับเล่าวีรกรรมความรักของพ่อกับแม่ให้ฟัง เหมือนกับที่เธอยังเป็นเด็ก ๆ
“เด็กวัดกับลูกสาวมรรคทายก” นั่นละคือเรื่องราวของพ่อกับแม่ของเธอ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?