เช้าวันใหม่
วันนี้เป็นวันเสาร์ เด็ก ๆ ไม่ต้องไปโรงเรียน เซลีนเลยปล่อยให้เด็ก ๆ นอนตื่นสายได้ เธอวางแผนคร่าว ๆ ในใจ ว่าวันนี้จะคุยกับเจ้รำไพเรื่องน้ำมันนวดที่เธอจะทำขายให้กับเจ้ และจะขอเจ้เลิกไปทำงานนวดและ งานร้านอาหารอย่างถาวร เพื่อเธอจะได้มาดูแลเด็กด้วยตนเอง เธอมั่นใจว่า แค่รายได้จากการขายสินค้าให้กับเจ้รำไพ ก็เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เธอจะต้องใช้แล้ว
อีกหนึ่งเหตุผล คือเธอกำลังจะหาสินค้าตัวใหม่มาทำขาย ถ้ามัวแต่ไปทำงานนวดหรืองานร้านอาหาร เธอก็ไม่มีเวลามาหาลูกค้าเอง เป้าหมายหลักของเธอคือการทำงานที่บ้าน
ช่วงตอนเที่ยงจะโทรหาแม่พรรณีกับน้องสาว ถามถึงอาการของน้องหลังจากที่ช่อฉัตรได้ทานยาวิเศษไป อาการเป็นอย่างไรบ้าง ช่วงบ่ายจะพาเด็ก ๆ ออกไปเดินเล่นที่ห้างสรรพาสินค้า เธออยากใช้เวลากับลูก ๆ ให้มากที่สุด
“หนุ่มน้อยของหม่ามี้ ตื่นได้แล้วครับ จะเก้าโมงแล้ว ลุกมากิน มื้อเช้าก่อนคร้าบ”
เซลีนขึ้นมาปลุกแอนดี้เป็นคนแรก แต่ลูกชายของเธอก็ยังงอแง ไม่ยอมตื่นเต็มตาชะที เธอเลยใช้วิธีสุดฮิต จิ้มลงไปที่พุงน้อย ๆ ของลูกชาย
“นี่แน่ะ แมงมุมมันจะกินตับแล้ว เด็กขี้เซา ถ้ายังไม่ตื่น แมงมุมก็จะกินตับหมดตัวแน่ ๆ”เซลีนจิ้มพุงน้อย ๆ ของลูกชาย และร้องเพลงไปด้วย
แอนดี้หัวเราะคิกคักตื่นเต็มตา เด็กชายแพ้การจิ้มพุงที่สุด
“ตื่นแล้วฮะ ตื่นแล้ว หม่ามี้หยุดจิ้มพุงผมได้แล้วฮะ ผมปวดฉี่”
แอนดี้มีการประท้วงและบอกให้แม่ของเขาหยุด ไม่งั้นเขาได้ฉี่กลางที่นอนแน่ เพราะเขาโตแล้ว เลยเริ่มอายในหลาย ๆ เรื่อง
“ตื่นแล้วก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน หม่ามี้เตรียมมื้อเช้าไว้แล้ว วันนี้พวกเราจะวิดีโอคอลหาคุณยายกับน้าฉัตรกัน” เซลีนบอกลูกชายก่อนจะอุ้มเด็กชายขึ้นมาแล้วเอาไปวางไว้ในห้องน้ำ
“เดี๋ยวหม่ามี้ไปปลุกอลิสก่อน อย่าช้านะครับ คนเก่ง”
“ฮะ” แอนดี้รับคำ
เซลีนเดินไปที่ห้องนอนตนเอง ที่ตอนนี้ลูกสาวที่น่ารักของตนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ตุ๊กตาต่าง ๆ หล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง ไม่บอกก็รู้ว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอนอนดิ้นขนาดไหน บางครั้งเธอกินศอก กินเข่า ลูกสาวเหมือนกัน อิ่มจนจุกไปเลย
“สาวน้อยสุดสวย ตื่นได้แล้วค่า จะเก้าโมงแล้วนะคะ ลูกสาวคนเก่งของหม่ามี้ ทำไมขี้เซาจังน้า” เซลีนเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงแล้วหอมแก้ม หอมหัวลูกสาวตัวน้อยของตนเอง พร้อมกับเรียกอลิสเสียงไม่เบานัก
“หม่ามี้เหรอค่ะ อลิสกำลังฝันดีเลยค่ะ รักหม่ามี้จังค่ะ”
อลิสลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยับตัวเข้าไปกอดเอวมารดาตนเอง พร้อมกับอ้อนเต็มที่ แบบนี้เซลีนจะไม่หลงได้อย่างไง น่ารักเกินไปแล้ว ลูกสาวเธอ
“ลุกได้แล้วค่ะ จะอ้อนเอาอะไรจ๊ะ วันนี้อลิสน้อยของหม่ามี้จะได้คุยกับคุณยายกับน้าฉัตรด้วย ดีใจไหมคะ”
“คุณยายพรรณีเหรอคะ ว้าว อลิสคิดถึงคุณยายกับคุณน้าฉัตรค่ะ” สาวน้อยรีบเอ่ยปากบอกคุณแม่ของเธอ
“แน่นอนจ้ะ แต่ว่าตอนนี้หม่ามี้ว่าหนูต้องลุกแล้วไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะคะ พอทานมื้อเช้าเสร็จ เราค่อยโทรหากัน ตอนนี้พี่แอนดี้น่าจะลงไปรอที่โต๊ะอาหารแล้ว”
“เย้ ๆ อลิสจะลุกเดี๋ยวนี้ละค่ะ”
อลิสบอกเซลีนก่อนจะลุกขึ้นและวิ่งเข้าห้องน้ำไป เซลีนก็ลงไปเตรียมมื้อเช้าที่ห้องอาหารไว้รอสองแฝด
ผ่านไปไม่นาน แอนดี้ก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่ถึง 5 นาที อลิสก็ตามมานั่งด้วยเช่นกัน เซลีนวางจานมื้อเช้าที่ประกอบไปด้วย ไข่ดาว เบคอน กับเห็ดทอดเนย ลงตรงหน้าของสองแฝด
“วันนี้หม่ามี้ใจดี ทำ cook breakfast ให้ผมด้วย นานแล้วที่ไม่ได้ชิมฝีมือหม่ามี้” แอนดี้เอ่ยออกมา
“หม่ามี้ขอโทษนะคะ ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้แอนดี้กับอลิสเลย ตอนนี้หม่ามี้กำลังพยายามหาเงินอยู่ อีกไม่นานหม่ามี้ก็คงไม่ต้องไปทำงานที่ร้านอาหารแล้ว หม่ามี้จะได้มีเวลาดูแลอลิสกับแอนดี้เยอะ ๆ เลย ดีไหมคะ” เซลีนบอกลูก ๆ ของเธอ
“ดีฮะ / ดีค่ะ” ทั้งสองตอบรับพร้อมกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
กล่าวจบเซลีนก็ถือจาน cook breakfast ของเธอมานั่งทานกับลูกๆ
มันจะดีแค่ไหนที่เธอจะมีเวลาดูแลเด็ก ๆ สองแฝดด้วยตนเอง ได้มองดูพวกเขาเติบโต ได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม เธอไม่อยากพลาดโอกาสในส่วนตรงนี้ เธอก็พยายามจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะหน้าที่ของความเป็นแม่ เป็นลูก หรือเป็นพี่ แต่มันไม่ง่ายเลย แถมยังเหนื่อยสุด ๆ กำลังใจที่ทำให้เธอไปต่อได้ก็คือ การได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา และเธอจะพยายามรักษารอยยิ้มแบบนี้บนใบหน้าพวกเขาให้ได้นานที่สุด ถึงแม้เธอจะต้องเหนื่อยที่สุดก็ตาม
เธอรู้สึกได้ว่าแม้ลึก ๆ เด็ก ๆ ถึงแม้จะกลัวพ่อของพวกเขา แต่ถึงอย่างไรมาร์คก็คือพ่อ เด็ก ๆ ก็รักพ่อของเขามากเช่นกัน เธอจึงต้องพยายามให้มาก ที่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขาสองคน
*****
ขณะที่พวกเราสามคนแม่ลูกกำลังทานมื้อเช้ากันอยู่ เจ้รำไพก็เดินลงมาจากชั้นบน
“อรุณสวัสดิ์ฮะ/ค่ะ” สามแม่ลูกกล่าวทักทายเจ้รำไพ
“มอร์นิ่งจร้าเด็ก ๆ เซลีนด้วย” เจ้รำไพกล่าวทักทายทุกคนด้วย สีหน้าสดใส
“เจ้จ๋า เอา cook breakfast ไหมคะ วันนี้ช่อลงครัวเองเลยนะ ปกติกินแต่ซีเรียล วันนี้เอาแบบฟลูออพชั่นไหมคะ” เซลีนรีบลุกขึ้นเตรียมจะไปทำอาหารทันที
“อืม หอมจัง เอาสิ” เจ้รำไพได้กลิ่นหอมของอาหารก็รีบตอบตกลงทันที เธอเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารกับเด็ก ๆ เพื่อรอทานอาหารเช้าฝีมือของ เซลีน
“เจ้รับกาแฟดำหรือน้ำส้มคั้นสด ๆ ดีคะ นี่ช่อลงมือคั้นเองเลยนะ รับรองหวานอร่อย” เซลีนยังอดอวดไม่ได้
“งั้นเจ้เอาน้ำส้มแก้วหนึ่ง กาแฟดำแก้วหนึ่ง”
“จัดไปจร้าเจ้ เจ้ค่ะ พอมีเวลาว่างให้ช่อหน่อยได้ไหม ช่ออยากปรึกษาเจ้สักหน่อยค่ะ” เซลีนถามเจ้รำไพด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
“ได้สิ คุยตอนทานมื้อเช้านี่เลยก็ได้”
“ขอบคุณค่ะเจ้ อลิส แอนดี้ ทานเสร็จแล้ว ลูกไปนั่งเล่นที่ห้องรับแขกรอหม่ามี้หน่อยนะจ๊ะ หม่ามี้จะคุยธุระกับคุณยาย เสร็จแล้วเราค่อยวิดีโอคอลหาคุณยายพรรณีกับน้าฉัตร แล้วก็อย่าส่งเสียงดังเกินไป ตกลงไหมคะ” เซลีน บอกลูก ๆ ของเธอ
“ได้ค่ะ/ฮะ” เด็กสองคนก็ดื่มน้ำส้ม แล้วลุกเอาจานไปวางไว้ที่อ่างล้างจาน ก่อนเดินไปเล่นกันเงียบ ๆ ที่ห้องรับแขก
*********
“เจ้ ช่ออยากจะดูแลสองแฝดให้เต็มที่นะคะ เลยกะว่าจะขอเจ้ ย้ายออกไปเช่าบ้านใหม่อยู่กันเองสามคนแม่ลูก จะเลิกทำงานร้านนวดกับร้านอาหารด้วย แล้วจะมาหาลู่ทางค้าขายทางออนไลน์ ช่วงแรกอาจจะลำบากหน่อย แต่ช่อว่าในอนาคตมันต้องไปได้ดีแน่ ๆ ช่อก็เลยอยากปรึกษาเจ้ดู” เซลีนเล่าความต้องการของตนเองให้เจ้รำไพฟัง
“จะย้ายออกไปทำไม ก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ ถ้าจะไม่ไปทำงานนวดหรือร้านอาหารแล้วก็ไม่เป็นไร แต่เจ้ว่าอยู่ด้วยกันดีแล้ว ไม่ต้องย้ายออกไปหรอก อยากน้อยอยู่ด้วยกัน มีอะไรก็จะได้ช่วยเหลือกันได้ ถ้าไปอยู่เอง สามคนแม่ลูก เกิดอะไรขึ้นมาจะทำไง” เจ้ให้ความเห็น
“แต่เจ้ ช่อคิดว่ามันจะไม่สะดวกน่ะสิ ช่ออาจจะต้องทำอะไรหลายอย่างมาก อีกอย่าง ช่อก็เกรงใจเจ้มากด้วย มาอยู่กับเจ้เดือนกว่าแล้ว เจ้ ไม่เก็บเงินช่อสักบาท”
“จะคิดอะไรมาก คิดชะว่าวิน-วินทั้งสองฝ่าย เจ้ก็มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน สองแฝดน่ะช่วยให้เจ้รู้สึกสบายใจหลังทำงานมาเหนื่อย ๆ คนแก่แล้ว มีลูกมีหลานมาอยู่ด้วย มันก็จะช่วยได้เยอะ ช่อก็ช่วยเจ้ทำงานบ้าน”
เจ้รำไพบอกออกมา แต่สีหน้าของเซลีนก็ยังกังวล เธอจึงพูดต่อ
“ งั้นเอาอย่างนี้สิ ไม่ต้องย้ายออก อยู่ด้วยกันนี่แหละ ถ้าช่อเกรงใจ เจ้คิดค่าเช่าบ้านก็ได้ เอาเดือนละ 500 ปอนด์ก็พอ ทุกอย่างรวมอยู่ในนั้นแล้ว” เจ้รำไพตัดสินใจเก็บค่าเช่าซะเลย เพื่อความสบายใจของเซลีน
“โห้เจ้ 500 ปอนด์เองเหรอ อะไรมันจะถูกขนาดนั้น แค่ห้องน้ำก็ เช่าไม่ได้แล้วถ้าเป็นที่อื่น”
“เอาน่า เจ้พอใจ เจ้รวยอะ ตั้งแต่ช่อมาอยู่กับเจ้ มันเหมือนเจ้จะทำอะไรก็ดีไปหมด รายได้ก็ดี คิดชะว่าเจ้จ้างช่อมาอยู่เป็นเพื่อนละกัน งานสบาย ๆ แถมเงินดีแบบนี้จะมีที่ไหนอีก”
“เจ้ ช่อขอบคุณเจ้มาก ๆ เลยนะจ๊ะ เจ้อยากให้ช่อทำอะไรก็บอกช่อมาได้เลย ช่อยินดีทำให้อย่างเต็มที่” เซลีนยกมือไหว้ขอบคุณเจ้ไปอย่างซาบซึ้งใจ
“ตกลงตามนี้ แล้วก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะย้ายออกอีก เงินน่ะที่หามาได้ก็เก็บไว้ให้สองแฝด เด็กกำลังโต ยังต้องใช้เงินอีกเยอะ เอ้าแล้วมีอะไรจะปรึกษาเจ้ละ” เจ้รำไพถามออกไปอีกหนึ่งครั้ง
“คืองี้เจ้ มาดามเซรีน่าน่ะสิ โทรมาบ่นให้ช่อฟังถึงเรื่องที่มาดามไปนวดที่ร้านแล้วมันไม่ได้ดั่งใจท่าน จะบอกว่าไงละ จริง ๆ แล้ว วันนั้นที่ช่อนวดให้ท่าน ช่อผสมน้ำมันนวดด้วยสูตรพิเศษของช่อเอง เพราะพี่นางบอกว่ามาดามเป็นโรคนอนไม่หลับ และมาดามต้องการนวดผ่อนคลาย ช่อเลยจัดน้ำมันสูตรพิเศษไป พอรุ่งขึ้นและอีกหลายวันต่อมา มาดามก็กลับไปนวดอีก แต่ปรากฏว่ามันไม่เหมือนเดิม ท่านก็เลยโทรมาบ่นว่าอยากให้ช่อกลับไปนวดให้ท่านอีก แต่ช่อก็ติดที่ร้านอาหาร” เซลีนเล่าชะยืดยาว จนต้องพักเหนื่อยด้วยการดื่มน้ำแก้ขัด
“แล้ว” เจ้รำไพฟังด้วยความตั้งใจ
“ช่อก็เลยคิดว่าช่อจะขายน้ำมันนวดสูตรพิเศษให้กับเจ้ เอาไว้ไปใช้ในร้านนวดน่ะค่ะ แบบว่าขายจากคนใกล้ตัวนี่แหละ แหะ แหะ” เซลีนยิ้มหน้าบานให้เจ้รำไพ
“ก็ว่าแล้ว มาอีหรอบนี้ทุกที แต่ว่าแล้วเจ้จะรู้ได้ไงละว่ามันจะดีหรือได้ผลยังไง” เจ้รำไพถามด้วยความสงสัย
“ไม่ยากเจ้ ช่อจะทำน้ำมันนวดสูตรพิเศษให้พี่นางไปใช้กับมาดาม โดยที่ใครก็นวดได้ ถ้าผลตอบรับจากมาดามดี ถือว่าสินค้าผ่าน เจ้ว่าดีไหม”
“อีม มันก็ดีนะ เพราะมาดามคือที่สุดละ ถ้าท่านพอใจก็ไม่ต้องไปถามคนอื่นแล้ว ตกลง ช่อจัดการได้เลย แล้วจะขายยังไงละ” เจ้รำไพถามข้อเสนอของเซลีน
“ช่อไปถามพี่นางมา เจ้ซื้อน้ำมันนวดมาจากซัพพลายเออร์ 2 ปอนด์ต่อ 10 มล. ช่อจะขายให้เจ้ แค่ 1.5 ปอนด์ต่อ 10 มล. ช่อจะทำเป็นแกลอนขนาด 500 มล เจ้สามารถใช้ออยส์ตรงนี้นวดได้เลย คุณสมบัติคือช่วย ผ่อนคลายและรักษาอาหารปวดเมื่อยเหนื่อยล้าจากการทำงาน ช่อจะใส่กลิ่นให้ด้วย ถ้าเจ้ซื้อมาจากช่อ เจ้ก็จะได้ประหยัดไปอีก 50 พีเลยนะ”เซลีน พยายามเกลี่ยกล่อมเจ้รำไพให้เห็นถึงผลดี
“ได้ งั้นถ้ามาดามเซรีน่าว่าผ่าน เจ้จะรับซื้อน้ำมันนวดจากช่อ ก็ดีนะ ถือว่าช่วยกันเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” เจ้รำไพเห็นด้วย
“เจ้ คิดถูกแล้ว งานนี้ช่อจะไม่ทำให้เจ้ผิดหวังแน่นอน”
“แล้วเจ้จะคอยดู เจ้อยากจะให้ช่ออยู่ช่วยที่ร้านไปจนกว่าจะสิ้นปี จะได้ไหม อะไรมันก็ยังไม่ลงตัว อีกแค่ 3-4 เดือนก็สิ้นปีแล้ว ถือชะว่าเริ่ม ปีใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ เอาเคล็ดก็ดีนะช่อ” เจ้กล่อมให้เซลีนช่วยที่ร้านก่อน
“ได้เจ้ ก็ดีเหมือนกัน ช่อว่าจะไปจดทะเบียนเป็น Self employed ช่ออยากเสียภาษีให้ถูกต้อง เผื่อในอนาคตอยากทำโปรเจคใหญ่ จะได้มีเครดิตไปกู้เงินที่ธนาคาร” เซลีนบอกแผนต่อไปให้เจ้รำไพทราบ
“ดีแล้วละคิดได้แบบนั้น เจ้เชื่อว่าช่อต้องทำได้ ก็ช่อนะเก่งอยู่แล้ว เจ้ว่าจะโทรไปขอบใจเจ้ามาร์คมันนะ เพราะมันทำให้ช่อหัวแตก ช่อถึงได้กลายเป็นคนเข้มแข็ง สู้คน และเก่งแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจ้ยังคิดไม่ออกเลยว่าช่อจะกล้าหย่ากับมัน” เจ้รำไพยิ้มด้วยความภูมิใจในตัวของเซลีน
เธอนึกย้อนไปถึงซินดี้เมื่อก่อนกับตอนนี้มันช่างแตกต่างกัน จนเธอแทบไม่อยากเชื่อ ว่านี่คือซินดี้ที่เธอเคยรู้จัก เพราะเธอแตกต่างจากเมื่อก่อนเหมือนกับเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว
“เจ้ ช่อโตขึ้นแล้ว ช่อยังมีลูก แม่ และน้องอีก หลายชีวิตให้ดูแล ความอดทนมันคงถึงที่สุดแล้ว ถ้าไม่ก้าวออกมา เราก็คงไม่เห็นแสงสว่างหรอก เจ้ว่าไหม”
“อืม เจ้ว่าช่อน่าจะต้องโทรหาแม่แล้วมั้ง กลัวว่าเวลาที่ไทยจะเย็นมากแล้ว งั้นเจ้ขอตัวก่อนนะ ขอบใจสำหรับมื้อเช้า มันอร่อยมาก” เจ้รำไพ เดินเอาจานล้างเศษอาหารที่อ่างล้างหน้า และใส่ในเครื่องล้างจาน
“เรื่องเล็กเลยเจ้”
เซลีนบอกเจ้รำไพพร้อมกับเดินไปหาลูก ๆ ที่อยู่ที่ห้องรับแขกและวิดีโอคอลหาแม่ที่เมืองไทยทันที
“ว่าไงจ๊ะอลิส แอนดี้ คิดถึงยายไหมลูก ยายคิดถึงพวกหนูม๊ากมาก”
ยายพรรณีส่งเสียงทักทายและถามไถ่ออกไป
“แอนดี้ คิดถึงคุณยายฮะ”
“อลิสก็คิดถึงคุณยายค่ะ” เด็กทั้งสองตอบด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา
“แล้วช่อละเป็นไงบ้างลูก สบายดีไหม” ยายพรรณีหันไปถามลูกสาวตนเอง
“ช่อสบายดีจ้ะแม่ ตามสัญญา ช่อพาหลาน ๆ มาสวัสดีคุณยายกับน้าฉัตร ตอนนี้ฉัตรตื่นอยู่ไหมจ๊ะ” เซลีนตอบแม่ตนเองและถามถึงน้องสาวด้วย
“ฉัตรตื่นอยู่ เห็นตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันเสาร์ไว ๆ จะได้คุยกับ เจ้าสองแฝด เดี๋ยวแม่เดินไปในห้องฉัตรก่อนนะ”
“ฮัลโหล พี่ช่อ สวัสดีค่ะ ไหน ๆ ขอฉัตรคุยกับหลาน ๆ หน่อย คิดถึงจังเลย ไม่ได้คุยด้วยตั้งนานแล้ว” ช่อฉัตรกล่าวสวัสดีพี่สาวแล้วรีบถามหาหลาน ๆ ตนเองทันที
“เด็ก ๆ สวัสดีน้าฉัตรก่อนลูก “ เซลีนบอกลูกทั้งสองให้ไหว้คุณอาของพวกเขา
“น้าฉัตร สวัสดีฮะ / น้าฉัตร สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ๊ะเด็ก ๆ โห้ย หลานน้าทำไมน่ารักแบบนี้”
“ฉัตร ดูเหมือนว่าจะอาการดีขึ้นนะ ดูสิ เวลาพูดก็ไม่ค่อยจะเหนื่อยแล้ว” เซลีนทักน้องสาวไปด้วยความดีใจ
“ใช่แล้วพี่ช่อ ตั้งแต่ฉัตรกินยาวิตามินที่พี่ช่อส่งมาให้ ฉัตรรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่ต้องนอนตลอดเวลา นี่ฉัตรยังลุกเดินออกกำลังกายในห้องด้วยนะ คุณหมอโยบอกให้ฉัตรพยายามออกกำลังกายให้มาก ๆ การเดินก็ช่วยได้” ช่อฉัตรเล่าให้พี่สาวฟังด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใส
“หมอโยเหรอ ฮั่นแน่ พอพูดถึงหมอโยงี้ หน้าบานเป็นกระด้งเลยนะ มีอะไรที่พี่ไม่รู้หรือเปล่า” เซลีนเอ่ยแซวน้องสาวออกไป
“ไม่มี๊ ไม่มีอะไรเลย พี่ช่อ” ช่อฉัตรรีบปฏิเสธเสียงสูง
“ก็ถ้าไม่มีแล้วจะเสียงสูงทำไม แม่คะ หมอโยนี่ใครคะ ช่อตกข่าวอะไรหรือเปล่า” เซลีนหันไปถามแม่ตนเอง
“หมอโยธินน่ะลูก เขาเป็นหมอประจำตัวของฉัตร เห็นตอนนี้กำลังทำวิจัยอะไรสักอย่างนี่แหละ แล้วเขาเห็นการพัฒนาของฉัตร หมอเขาเลยสนใจอยากจะขอให้ฉัตรไปเป็นเคสกรณีศึกษาให้กับงานวิจัยของเขา” แม่พรรณีอธิบายให้เซลีนฟัง
“อ๋อ แล้วฉัตรว่าไง ตกลงไหม”
“ตกลงไปแล้ว หมอโยธินเขาจะออกค่าใช้จ่ายยานอกที่แม่เคยเล่าให้ฟังน่ะลูก แลกกับการที่ฉัตรไปช่วยงานวิจัยเขา เวลาไปโรงพยาบาล หมอโยเขาก็มารับมาส่งฉัตรเองนะ แม่ก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จะได้ช่วยช่อเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย ฉัตรก็อาจจะหายป่วย แม่เลยอนุญาตน่ะ” แม่พรรณีกล่าว
“พี่ช่อ หมอโยเขาแค่ทำตามหน้าที่ ทำงานวิจัยของเขานะ” ช่อฉัตรเอ่ยแก้ตัวออกไป
“แล้วน้องสาวพี่แค่ทำตามหน้าที่ แค่รักษาตัว เห็นหมอโยแค่เป็นหมอประจำตัวหรือเปล่าล่ะจ้ะ”
“พี่ช่อ ฉัตรก็คงได้แค่คิดนั่นแหละ อีกอย่าง ฉัตรป่วยแบบนี้ใครจะมาชอบ เรากับเขามันอยู่กันคนละโลกเลยนะ” ช่อฉัตรตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาและเศร้าลงเล็กน้อย
“ฉัตร พี่บอกแล้วไงว่าฉัตรต้องหาย อีกไม่เกินหนึ่งปีหรอก น้องสาวของพี่ต้องเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง และสดใส สวยงามแน่นอน อย่าท้อนะ ถึงตอนนั้นถ้าหมอโยไม่เห็นถึงน้ำใจฉัตร ก็แค่หาคนใหม่ ง่ายจะตาย สวยเลือกได้ชะอย่าง” เซลีนเอ่ยปลอบใจน้องสาวตนเอง
ช่อฉัตรอายุแค่ 20 ปี รักษากับคุณหมอโยมาก็หลายปี การที่ช่อฉัตรจะแอบหลงรักคุณหมอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะโลกของช่อฉัตรก็มีแค่แม่ พี่ หลาน และโรงพยาบาล ช่อฉัตรคงเห็นหมอโยเป็นดังเทพที่จะช่วยให้ตนเองหายดี และคงหวังว่าหมอโยจะสนใจตนเองบ้าง
“น้าฉัตรฮะ ไม่เห็นคุยกับผมเลยฮะ ผมน้อยใจนะเนี๊ยะ” แอนดี้เห็นว่าผู้ใหญ่คุยกันแล้วฟังน้ำเสียงเคร่งเครียด เขาก็เลยเอ่ยทักน้าฉัตรออกไป
“อ๊าห์ น้าฉัตรขอโทษครับ ว่าไงครับ มีอะไรจะเล่าให้น้าฉัตรฟังหรือเปล่า ไปโรงเรียนสนุกไหม” ช่อฉัตรรีบปรับสีหน้าและอารมณ์ให้สดใสขึ้นก่อนเอ่ยถามหลานชายออกไป
“โรงเรียนก็สนุกบ้างไม่สนุกบ้างฮะ เพื่อน ๆ ชอบแกล้งอลิส ผมต้องคอยกันเพื่อนคนอื่นไม่ให้แกล้งอลิสฮะ” แอนดี้ฟ้องคุณน้าสุดที่รักของเขา
“ดีแล้วครับ แอนดี้เป็นพี่ต้องดูแลน้อง อลิสก็ต้องเชื่อฟังพี่ชาย รู้ไหมคะ” ช่อฉัตรเอ่ยสอนหลานตัวน้อย
“ค่ะ” อลิสรับคำ
หลังจากนั้นก็คุยกันอีกไม่นาน เพราะกลัวช่อฉัตรจะเหนื่อย เซลีนเลยบอกให้เด็ก ๆ บอกลาน้าฉัตร คุณยายพรรณี แล้วก็วางสายไป
หลังจากที่วิดีโอคอลหาแม่พรรณีที่ไทยแล้ว เซลีนก็พาสองแฝดไปเดินห้างสรรพสินค้า เด็ก ๆ ชอบใจมากที่ได้เล่นที่บ้านตุ๊กตา จนเวลาผ่านไปถึงเย็น เซลีนจึงพาสองแฝดไปกินไก่ย่างแนนโด้ แอนดี้กับอลิสมีความสุขมากวันนี้
“หม่ามี้ฮะ วันนี้ผมมีความสุขและสนุกมากเลยฮะ ไว้วันหลังเรามาทำแบบนี้อีกได้ไหมฮะ” เด็กชายบอกกับแม่ของเขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด
“อลิสก็สนุกมากเลยค่ะวันนี้ อลิสรักหม่ามี้ที่สุดเลยค่ะ” เจ้าหญิงน้อยอ้อนคุณแม่ด้วยแววตาเปี่ยมความสุข เช่นเดียวกับพี่ชายของเธอ
“อ้าว...แล้วน้องสาวคนสวยของพี่ไม่รักพี่บ้างเหรอ” แอนดี้เอ่ยแซวน้องสาวด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“โอ๊ะโอ้ อลิสก็รักพี่แดนนี้ค่า รักทั้งสองคนเลย” อลิสเริ่มใจเสีย กลัวพี่ชายเสียใจ
“ดีแล้วล่ะจ้ะ ที่ลูก ๆ รักกัน หม่ามี้ก็รักพวกหนูที่สุดในโลกเลยรู้ไหมคะ” เซลีนบอกรักลูก ๆ พร้อมกับหยิบกระดาษไปเช็ดปากที่เปื้อนซอสให้กับอลิส
“ขอบคุณค่ะหม่ามี้”
“รีบทานกันค่ะ เดี๋ยวค่ำจะกลับบ้านลำบาก วันนี้หม่ามี้อนุญาตให้ดูการ์ตูนได้ถึงสองทุ่ม ดีไหมคะ” เซลีนถามลูกออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ดีมากเลยค่ะ”
“สุดยอดไปเลยฮะ”
หลังจากนั้นไม่นาน สามคนแม่ลูกก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วตอนที่เซลีนพาเด็ก ๆ เข้าไปในบ้าน เธอวางกุญแจไว้ในที่เก็บกุญแจ มองดูเด็ก ๆ ที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
“เอาล่ะเด็ก ๆ ไปอาบน้ำแล้วลงมาดูการ์ตูนกันนะคะ” เซลีนย่อตัวบอกลูกทั้งสองของเธอ
“ได้ค่ะ/ครับ”
ทั้งสองรับปากพร้อมกับจูงมือเดินไปอาบน้ำ โดยที่เซลีนไม่ต้องช่วยเลยแม้แต่น้อย เธอยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเรื่องของลูก ๆ ก็ไม่ได้ทำให้เธอเหนื่อยใจหรือกายเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะช่วยเติมเต็มชีวิตเธอให้ยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม
“หม่ามี๊พวกเราดูการ์ตูนนะครับ”
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากสองแฝดอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็มานั่งที่หน้าโทรทัศน์กันอย่างพร้อมเพรียง
“ได้เลยจ้ะ” เซลีนตอบเด็ก ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงโซฟาที่ห้องนั่งเล่นด้วยความผ่อนคลาย
เธอเข้า facebook แล้วกดที่ช่องค้นหา เพิ่มคำว่า Benjamin
เพียงเสี้ยววินาทีภาพโปรไฟล์และเรื่องราวของเบนจามินก็ปรากฏต่อหน้าเธอ เซลีนเลื่อนดูชีวิตของสามีและลูกชายในร่างเก่าของเธอ แม้จะเจ็บปวดกับการที่เธอไม่ได้อยู่ข้าง ๆ พวกเขา
แต่ตอนนี้มันกลายเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้เธอต้องรีบตั้งตัวเพื่อที่ วันหนึ่ง เธอ เบนจามิน และ เดเนียล จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง
โปรดติดตามตอนต่อไปใน เล่ม 2 (จบ)
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?