ตอนที่ 32 มีผลบังคับใช้ทันที

คืนนั้นกว่าจะกลับมาที่บ้านของเจ้รำไพก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม อีริคเป็นคนมาส่งสามคนแม่ลูก

พอมาถึงบ้านเซลีนก็เห็นเจ้รำไพรออยู่ที่บ้านแล้ว เจ้รำไพเดินเข้าไปกอดสามแม่ลูกไว้ แล้วบอกให้เซลีนพาเด็ก ๆ ไปพัก เพราะมันเลยเวลานอนมากว่าชั่วโมงแล้ว

เซลีนให้ทั้งสองคนนอนด้วยกันที่ห้องของเธอ เพราะเธอจะได้ดูแลลูก ๆ ได้ถ้าพวกเขาตื่นมากลางดึก

“ช่อ เด็ก ๆ เป็นไงบ้าง” เจ้รำไพถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็น่าจะแย่หน่อยค่ะ กว่าจะนอนหลับได้ก็นานพอควร คงจะกลัวว่าจะโดนขังแบบนั้นอีก กว่าจะปลอบให้หลับได้ก็นานพอดู”

เซลีนตอบเจ้รำไพ ก่อนที่จะถือแก้วชาที่มีควันลอยกรุ่นออกมานั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเจ้รำไพ

“พอช่อส่งข่าวว่าปลอดภัยแล้ว เจ้ก็รีบนั่งรถไฟกลับมาที่ลอนดอนทันที สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ไหนว่าเจ้ามาร์คมันกลับตัวกลับใจมาขอคืนดีกับช่ออยู่นี่ แล้วทำไมมันกลับไปเป็นแบบเดิมอีกละ สงสารก็แต่สองแฝด คงกลัวและจำฝังใจไปอีกนาน” เจ้รำไพถามออกมาด้วยความสงสัย

“ช่อยังไม่ได้คุยกับมาร์คเลยค่ะ เมื่อคืนตอนที่โทรไปส่งสองแฝด เข้านอน ทุกอย่างยังปกติดีอยู่นะคะ แต่ก็ดีค่ะ เกิดเรื่องแบบนี้จะได้หย่าได้ง่ายขึ้น ต่อให้เขากลับคำให้การ ก็คงไม่ช่วยอะไรได้แล้ว ช่อจะไม่มีการประนีประนอมเด็ดขาดค่ะ เขาไม่มีคุณสมบัติของความเป็นพ่อแม้แต่น้อย” เซลีนพูดด้วยความโมโห

“ช่อก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขึ้นไปพักเถอะ ยังไงพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

“ค่ะ งั้นช่อไปนอนก่อนนะคะ good nightค่ะ”

“จร้า good night”

ก่อนนอนเซลีนได้รับข้อความจากอีริคแสดงถึงความห่วงใยมาให้ เธอยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะวางมือถือ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ลูกทั้งสองของเธอ พลางกอดพวกเขาเอาไว้กับตัว

***********

เซลีนปล่อยให้ลูก ๆ หยุดเรียนหนึ่งวัน เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นทำให้เธอเป็นห่วงทั้งสองคนมาก หลังจากทานมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ” เซลีนรับสาย

“สวัสดีครับผมโทรมาจากสถานีตำรวจ นี่ใช่เบอร์ของมิสซิสมิลเล่อร์หรือเปล่าครับ”

“ใช่ค่ะ”

“ผมจะโทรมาแจ้งว่าสามีของคุณรู้สึกตัวแล้ว ไม่ทราบว่าคุณต้องการเข้ามาพบเขาหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะคุณตำรวจ” เซลีนตอบหนักแน่น แต่สุภาพที่สุดเท่าที่เธอทำได้

เธอไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งนั้นจากชายคนนี้ มาร์คจะไม่มีวันได้เข้ามาในชีวิตเธอและเจอลูกๆ อีกต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่าสองแฝดจะอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ หลังจากนั้นให้เด็ก ๆ ได้เป็นคนตัดสินใจเอง ว่าเขาจะยังอยากพบพ่อผู้ให้กำเนิดหรือไม่ เพราะเด็ก ๆ เป็นผู้ใหญ่และมีความคิดเป็นของตนเองแล้ว

เซลีนไม่ลืมที่จะแจ้งเรื่องทั้งหมดไปยังทนายของเธอ เพื่อดำเนินการเรื่องหย่า และขอคำสั่งศาลห้ามมาร์คเจอเด็กๆ อีก ซึ่งเธอขอให้มีผลบังคับใช้ทันที

“แอนดี้ อลิส ตื่นได้แล้วค่ะ ไปทานมื้อเช้ากัน วันนี้หม่ามี้จะทำของโปรดให้ดีไหมคะ” เซลีนปลุกลูก ๆ ให้ตื่นทานมื้อเช้า

เธอว่าจะให้สองแฝดได้โทรหาคุณยายพรรณีกับน้าฉัตร เผื่อบางทีเด็ก ๆ จะได้ลืมเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาได้ไวขึ้น กว่าจะปลุกสองแฝดให้ตื่นและลุกไปทานมื้อเช้า ก็ใช้เวลาไปกว่าสิบนาที เด็ก ๆ กลับมาสดใสอีกครั้งเมื่อได้วิดีโอคลอคุยกับคุณยายกับน้าของเขา

เซลีนยังแปลกใจว่าทำไมลูกของเธอถึงได้ปรับตัวได้เก่ง แค่เพียงวันเดียวก็กลับมาร่าเริงสดใสได้อีกครั้ง เธอเป็นกังวลไปหมดว่าเด็ก ๆ จะจำ ฝังใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

“อลิส แอนดี้ ลูกไม่กลัวแด๊ดดี้แล้วเหรอคะ” เซลีนถามลูก ๆ

“กลัวฮะ แต่ว่าตอนนี้ไม่กลัวแล้ว” แอนดี้ตอบมารดา

“ทำไมละคะ ลูกยังเล็ก น่าจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวและยังจำฝังใจ แต่หม่ามี้ไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ในตัวลูกเลย”

“เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าแด๊ดดี้ทำอะไรผมกับอลิสไม่ได้แล้วน่ะสิฮะ พวกเราก็แค่ไม่ต้องไปเจอแด๊ดดี้ พวกเราก็ปลอดภัย รอให้พวกเราโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ก็ค่อยว่ากันอีกที อีกอย่าง ผมชินแล้วฮะ แด๊ดดี้เป็นแบบนี้มาตลอด” แอนดี้ตอบคำถาม

เซลีนได้ฟังแบบนี้ก็นึกได้ว่าสงสัยลูกของเธอจะโตเกินวัย และมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิด ต้องยกความดีความชอบให้กับ น้ำทิพย์สวรรค์ที่เธอผสมให้ลูก ๆ กินเป็นประจำ ทำให้พวกเขามีวุฒิภาวะ โตเกินกว่าเด็กปกติทั่วไป

“ดีแล้วครับ ลูกอย่าโกรธแด๊ดดี้ได้ไหม หม่ามี้เชื่อว่าแด๊ดดี้คงมีเหตุผลของเขา พวกหนูเป็นลูก ต้องอย่าทำสิ่งที่ไม่ดีกับบุพการี มันเป็นบาป เข้าใจไหมคะ” เซลีนบอกลูก ๆ

“เข้าใจฮะ/ค่ะ” ทั้งสองคนพยักหน้ารับพร้อมกัน

“ปะ เราไปโทรหาคุณยายกันดีกว่า

เซลีนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอเป็นกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับลูกแฝดของเธอ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกโล่งอกแล้ว

“พี่ช่อ ฟ้าเพิ่งรู้เรื่องน้องแฝด เสียใจด้วยนะ” น้องฟ้าที่โทรเข้ามาคุยกันเรื่องร้านอาหารที่จะเปิดในแคนทีนตึก เอช เค เทค ด้วยกันกล่าวให้กำลังใจเซลีน

“ขอบใจจ้ะน้องฟ้า พี่ว่าจะเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นหน่อยนะ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พี่คงจะไม่ได้ไปทำงานกับน้องฟ้าแล้ว พี่จะขอแค่ออกเงินค่าหุ้นและรับปันผลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ร้านอาหารก็ให้น้องฟ้าเป็นเจ้าของไปเลย ส่วนพี่ก็ทำซอสส่งให้เหมือนกับของเจ้รำไพเหมือนเดิม พี่ว่าจะย้ายออกจากลอนดอน พี่ไม่อยากอยู่ใกล้มาร์คกลัวว่ามันจะเกิดเหตุการณ์เดิมขึ้นอีก”

“ได้ค่ะพี่ช่อ ฟ้าพอมีเพื่อนที่จะมาช่วยทำตรงนี้ เอาที่พี่ช่อสะดวกเลยค่ะ ถ้าฟ้าติดปัญหาอะไรอาจจะขอความเห็นไปนะคะ”

ฟ้าคุยกับเซลีนไม่นานก็วางสายไป เซลีนตอนนี้ก็เหลือแค่ 2 อย่าง คือใบหย่ากับคอนแทรคกับคลับของคุณนิโคลัส เรื่องใบหย่าเซลีนไม่กังวลแล้ว เพราะเธอคิดว่าเธอจะได้ใบหย่ามาไว้ในมือในไม่ช้าแน่นอน ในส่วนของคอนแทรคกับคลับของคุณนิโคลัส เธอคิดว่ามันคงล้มเหลว เพราะเขาไล่ออกมาเสียงดังขนาดนั้น ก็ไม่น่าจะผ่านการเทสต์

จนถึงตอนนี้เซลีนก็ยังไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในวันนั้น

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เซลีนก็ใช้ชีวิตมาตามปกติ เธอทำซอสอาหาร น้ำมันนวด น้ำมันหอม เป็นจำนวนมาก เก็บไว้ในแหวนมิติ เพราะ มีหลายที่ที่เธอต้องส่งสินค้า

ส่วนอีริคก็หายหน้าหายตาไปเลย คงยุ่งกับโปรเจกต์ เจ้รำไพก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้าน เพราะเริ่มเข้าหน้าร้อนที่อังกฤษ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ไบรตั้นเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้ โอเชี่ยนบูลผับ เป็นแลนด์มาร์คของไบรตั้น เมืองติดทะเลไปโดยปริยาย

ลืมเล่าไปว่าหลังจากที่นิโคลัสไล่เซลีนออกไปจากห้อง อาทิตย์ถัดมาเจสันก็โทรศัพท์มาหาเจ้รำไพว่าร้านสยามสปาได้คอนแทรคกับทางคลับ ทำสัญญาสองเดือนสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมปีนี้ หมอนวดทุกคนต้องไปพักและทำงานที่คลับ รวมถึงสแตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของการทำงานนั้น เจ้รำไพให้พี่นางเป็นคนไปคุมงาน ไม่มีใครปฏิเสธงานนี้สักคน เพราะผลตอบแทนที่ได้รับมันปิดปากได้สนิท

เซลีนจะเดินทางไปที่คลับก็ต่อเมื่อต้องนวดแก้อาการบาดเจ็บ ซึ่งยังไม่มีเคสนี้เกิดขึ้น เธอจึงใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ถึงกระนั้นเซลีนก็ยังคงวางแผนที่จะย้ายไปสกอตแลนด์ทันทีที่คอนแทรคกับคลับของนิโคลัสสิ้นสุดลง ซึ่งจะพอดีกับที่สองแฝดจะมีอายุถึงเกณฑ์ 5 ขวบ ที่จะพร้อมเข้าเรียนในระดับประถม

ระหว่างนี้เซลีนก็เตรียมหาบ้านเช่าไว้รอ เพราะเธอรู้ว่าการหาบ้านเช่านั้นยากยิ่งนัก

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ