วันนี้เป็นวันที่ตำรวจจะพาเซลีนกับเจ้าหน้าที่ women aid ไปเก็บของที่บ้านมาร์ค เพราะเซลีนรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงขอให้ตำรวจกับเจ้าหน้าที่ไปด้วย
หลังจากที่ส่งเด็กแฝดไปโรงเรียนแล้ว เซลีนจึงขอให้นันทิกาไปช่วยเก็บของออกมา เซลีนได้จ้างรถรับจ้างทั่วไปในการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เจ้าของร่างนี้เป็นคนซื้อเอง ส่วนมากเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่ชิ้นใหญ่อะไร นอกจากนั้นก็จะเป็นเอกสารต่าง ๆ ของเธอและลูก ๆ รวมถึงเสื้อผ้าและของเล่นสำหรับสองแฝด
“ติ่งหน่อง”
เซลีนกดกริ่งที่หน้าบ้านของมาร์ค รอเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
“...” มาร์คมองหน้าของซินดี้ แล้วเห็นนันทิกา ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ จึงหันไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ขอเวลาผมคุยกับซินดี้สักสิบนาทีได้มั้ย” มาร์คเอ่ย
“คุณอยากทำยังไง?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหันมาถามเซลีน
“ไม่มีปัญหาค่ะ” เซลีนยิ้มพลางคิดในใจ ว่าการได้คุยกับหมอนี่คงทำให้เธอเข้าใจอะไรได้มากขึ้น
มาร์คจึงพาเซลีนเดินไปที่ห้องครัว ส่วนคนที่เหลืออยู่ที่ห้องรับแขก
“ซินดี้ ผมขอโทษ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม ผมสัญญาว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ” มาร์คยื่นมือไปกุมมือของเซลีนไว้ก่อนที่จะพยายามกอดเธอ
“มาร์คค่ะ ฉันคิดว่าเราคงไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ กี่ครั้งแล้วที่คุณขอโอกาสแก้ตัว ฉันอดทนมาตลอด แต่ครั้งนี้ฉันให้อภัยคุณไม่ได้จริง ๆ ฉันจะทำอย่างไง ถ้าอลิสเป็นอะไรไป ได้โปรดเถอะค่ะมาร์ค อย่าพยายามยื้ออีกเลย ฉันขอร้อง อย่าให้ถึงกับความเป็นพ่อ เป็นเพื่อน ก็ไม่เหลือเลย” เซลีนถอยหลังออกมานิดหนึ่งและบอกปฏิเสธ
“ซินดี้ คุณไม่ลองเอากลับไปคิดหน่อยเหรอ ผมขอร้อง พลีส พลีส”
มาร์คยังไม่เลิกพยายามที่จะขอคืนดีกับซินดี้
“ฉันคิดมาดีแล้วค่ะ มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เราหย่ากันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันจะอนุญาตให้คุณไปเจอเด็ก ๆ ได้ แต่ถ้าคุณยังไม่ยอม ฉันคงต้องขออำนาจศาลเข้ามาจัดการ” เซลีนบอกปฏิเสธอย่างหนักแน่น เพราะระหว่างเซลีนกับมาร์ค ไม่มีเยื่อใยอะไรที่ทำให้เซลีนใจอ่อนได้
“คุณมีคนใหม่ใช่ไหม มันเป็นใคร ผมจะไปจัดการกับมัน” มาร์คเริ่มออกอาการโมโหและพาลพาโลไปทั่ว เขาเข้าไปเขย่าตัวเซลีนจนเธอเจ็บไปหมด
เซลีนได้แต่ถอนหายใจ นึกสงสารเจ้าของร่างเก่าที่ต้องมาทนใช้ชีวิตกับคนแบบนี้เป็นที่สุด
“มาร์คหยุดนะ ฉันเจ็บ ฉันบอกให้หยุด ฉันไม่มีใครทั้งนั้น ลำพังแค่กับคุณ ฉันก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะลูก ๆ แม่ และน้องที่ไทยอีก ฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปมีคนใหม่” เซลีนเริ่มโมโห และคิดว่าคุยกันต่อไปคงไม่รู้เรื่องแล้ว “อย่าให้ฉันต้องเรียกตำรวจ คุณไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ฉันจะเก็บของ รับรองว่าฉันไม่เอาอะไรที่ไม่ใช่ของฉันไปแน่นอน คุณตรวจดูได้ก่อนฉันออกไป” เซลีนสะบัดตัวออกจากมือของมาร์คอย่างแรง ก่อนผละออกไปที่ห้องรับแขก แล้วบอกนันทิกาให้ตามไปช่วยเก็บของ
เวลาผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง เซลีนกับนันทิกาก็เก็บของเสร็จเรียบร้อย
“จะตรวจของก่อนมั้ยคะ” เซลีนบอกให้มาร์คมาตรวจดู
“ไม่ล่ะ”มาร์คปฏิเสธ
ก่อนออกจากบ้านของมาร์ค เธอก็บอกว่าบอกมาร์คเรื่องการหย่า อีกครั้ง เพื่อให้เขาเตรียมตัวไว้
“รอจดหมายจากทนายด้วยนะคะมาร์ค ฉันจะทำเรื่องให้เร็วที่สุด”
เธอบอกกับมาร์คด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ เพราะอยากออกห่างจากเขาให้เร็วที่สุด ก่อนจะหันมาหาเจ้าหน้าที่ แล้วกล่าวขอบคุณตำรวจกับเจ้าหน้าที่ women aid ที่มาด้วยกันวันนี้
“เดี๋ยวนะคะเซลีน” เจ้าหน้าที่ woman aid หันมาหาเซลีน
“คะ?”
“เดี๋ยวฉันจะติดต่อกลับมาหาอีกที หลังจากได้ทนายเรียบร้อยแล้วนะคะ และอีกอย่าง ในระยะนี้คุณไม่สามารถเดินทางออกนอกะประเทศได้ เพราะพาสปอร์ตของคุณยังอยู่ที่ Home Office ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือโชคร้ายอาจจะนานกว่านั้นค่ะ” เจ้าหน้าที่อธิบายให้เซลีนฟังอย่างละเอียด
(Home office เป็นหน่วยงานของประเทศอังกฤษ ทำหน้าที่พิจารณาวีซ่าทุกประเภทให้กับผู้ยื่นขอวีซ่า)
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” เซลีนกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้ช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี
“ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ ฉันเข้าใจดี ขบวนการทำงานต้องใช้เวลา ขอแค่ให้เคสสำเร็จเท่านั้น เวลาแค่หนึ่งปีก็ไม่นานเกินไปหรอกค่ะ” เซลีนยิ้ม
เซลีนและนันทิกาช่วยกันขนของเข้าไปเก็บไว้ที่บ้านเจ้รำไพ หลังจากเสร็จเรียบร้อย นันทิกาก็กลับไปทำงานที่ร้านนวดต่อ เซลีนได้จ้างพี่เลี้ยงสำหรับดูแลสองแฝด หลังจากกลับมาจากโรงเรียนแล้วจนกว่าเซลีนกับ เจ้รำไพจะกลับบ้าน
พี่เลี้ยงสองแฝด ชื่อว่าน้ำหวาน เป็นนักศึกษาคนไทยที่มาเรียนต่อที่นี่ แล้วต้องการหารายได้เสริม เพื่อนเจ้รำไพเป็นคนแนะนำน้ำหวานมา อีกทีหนึ่ง
เซลีนในร่างของซินดี้ หลังจากได้โทรศัพท์มือถือของตนเองมาแล้ว ก็ทำการโทรหาแม่พรรณี ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบตามปกติ หลังจากที่คุยสายไปได้สักพัก เซลีนก็ตัดสินใจบอกแม่พรรณีถึงเรื่องของเธอกับมาร์ค
“แม่จ๋า ช่อมีเรื่องจะบอกแม่ แม่ฟังแล้วอย่าตกใจนะจ๊ะ ช่อกำลังจะหย่ากับมาร์คค่ะแม่” เซลีนบอกกับแม่เธอ
“อ้าว ทำไมละลูก เกิดอะไรขึ้น” แม่พรรณีถามกลับเซลีนมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“มันก็หลายเรื่องน่ะจ้ะ มันสะสมมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมันคงไม่ไหวแล้ว อีกอย่างเขาทำร้ายอลิสนะแม่ ช่อทนไม่ได้หรอก ทำช่อได้ แต่ถ้าทำร้ายลูก ช่อไม่ยอม แต่แม่ไม่ต้องตกใจไปนะจ๊ะ ช่อย้ายมาอยู่กับเจ้รำไพแล้ว ตอนนี้ก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐด้วย อาจจะนานหน่อย แต่ก็คุ้ม ถ้าช่อสามารถอยู่ที่นี่ได้ ช่อเป็นห่วงอลิสกับแอนดี้นะคะ” เซลีนอธิบายให้แม่ของเธอฟัง
“คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง ดีแล้วละที่ลูกไม่เป็นอะไร แล้วอลิสเจ็บมากไหม ถ้าลูกหย่ากับมาร์คแล้ว เรื่องเงินช่อไหวไหมลูก ค่าใช้จ่ายคงเยอะน่าดู ไหนจะลูกแล้วไหนจะแม่กับฉัตรอีก แม่ก็ไม่รู้จะช่วยช่อยังไง”
แม่พรรณีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงติดกังวล
เซลีนคิดว่าแม่พรรณีคงจะกังวลมาก เพราะเจ้าของร่างนี้ไม่เคยเล่าอะไรให้แม่ของเธอฟังเลย แม่พรรณีเลยคิดว่ามาร์คลูกเขยเป็นคนส่งเงินไปให้นางกับช่อฉัตรที่ไทย ถ้าเซลีนหย่ากับมาร์ค ลูกสาวเธอคงเหนื่อยมากขึ้น
“แค่นี้สบายมากจ๊ะแม่ ช่อมีเงินเก็บอยู่นิดหน่อย ช่อว่าจะทำของออกมาขายจ๊ะ จะลองคุยกับเจ้ดู แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะ ลูกสาวคนนี้ของแม่แข็งแรงจะตายไป สิบล้อชนรถยังไม่บุบเลยจ๊ะแม่” เซลีนบอกแม่แบบ ขำ ๆ ก่อนจะถามถึงช่อฉัตร
“เห้อ แม่ละสงสารน้องมากเลยลูก อาการแย่ลงเรื่อย ๆ หมอบอกว่ามันดื้อยาแล้ว นี่ก็เห็นว่าจะเปลี่ยนยาตัวใหม่เป็นยานอก แต่ราคาก็จะแพงขึ้น แม่ก็ว่าจะถามช่ออยู่พอดีว่าจะเอาไงกันดี” แม่พรรณีบอกพร้อมกับ ถอนหายใจอย่างเป็นกังวล
“แม่คะ น้องต้องหายค่ะแม่ แม่อย่าเพิ่งวิตกไป เดี๋ยวช่อจะส่งอาหารเสริมไปให้ฉัตร แม่ให้ฉัตรกินทุกวันเลยนะจ๊ะ ฉัตรจะได้มีแรง ฉัตรต้องหายค่ะแม่” เซลีนพยายามปลอบใจแม่พรรณี
“แม่ก็ภาวนาให้ฉัตรหายเหมือนกันลูก นี่ช่ออยากคุยกับฉัตรไหม แม่ว่าน่าจะตื่นแล้ว เดี๋ยวแม่เอามือถือไปให้ฉัตรก่อนนะ รอแม่แป๊บหนึ่ง”
แม่พรรณีบอกกับลูกสาว ก่อนจะเดินไปที่ห้องของลูกสาวคนเล็ก
แม่พรรณีเปิดประตูห้องนอนลูกสาวคนเล็กเข้าไป ก็เห็นว่าช่อฉัตรตื่นแล้ว จึงบอกว่าพี่ช่อโทรมาอยากคุยกับฉัตร
“ไงสาวน้อยของพี่ วันนี้เป็นไงบ้าง” เซลีนถามออกไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ช่อสวัสดีค่ะ ฉัตรก็เรื่อย ๆ ค่ะ อย่างที่เห็น เบื่อมาก ๆ จะลุกจะนั่ง จะเดิน ก็ไม่มีแรง ทำอะไรก็ลำบาก เหนื่อยมาก ๆ เลยพี่ช่อ” ช่อฉัตรบ่นให้พี่สาวฟัง
“ฉัตร น้องต้องเข้มแข็งรู้ไหม แม่กับพี่รักฉัตรมากนะ อีกไม่นานก็หายแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะส่งอาหารเสริมไปให้นะ มีคนบอกว่าเจ้าตัวนี้มันทำให้เรามีแรง พี่รับรองว่าฉัตรต้องเดินได้คล่องปรือเลยละ ไม่แน่นะ อาจจะมีหนุ่ม ๆ มารุมจีบน้องสาวพี่ก็ได้” เซลีนพูดให้กำลังใจน้องสาวตนเอง
“พี่ช่อก็ว่าไปนั่น แค่มีแรงเดินได้ กินได้แบบปกติ ฉัตรก็ดีใจมากแล้ว อย่าถึงกับหวังจะมีหนุ่ม ๆ มาจีบเลยค่ะ ใครมันจะมารักคนขี้โรคใกล้ตายแบบฉัตรละค่ะ” ช่อฉัตรแอบมองค้อนพี่สาวตนเองเบา ๆ
“ต้องหายชิจ๊ะ ฉัตรต้องหาย ฉัตรมีแม่ มีพี่อยู่ถึงสองคน ฉัตรต้องสู้นะ ห้ามท้อเด็ดขาด อีกไม่นานพี่ก็จะได้กลับไปหาแล้ว ฉัตรไม่อยากกอดสองแฝดเหรอ” เซลีนถามออกไป
“พี่ช่อ ฉัตรก็อยากจะรักษาสัญญานะ แต่ฉัตรอาจจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นก็ได้ ฉัตรเหนื่อยมากเลยพี่ช่อ” ช่อฉัตรบอกพี่สาวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าๆ
“ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้ ฉัตรต้องเข้มแข็งนะ คิดถึงแม่ให้มาก ๆ เดี๋ยววันหยุดพี่จะให้สองแฝดโทรไปหาน้าฉัตรกับยายพรรณีนะ งั้นฉัตรนอนต่อเถอะ พี่ไม่กวนแล้วละ พี่รักฉัตรนะ บาย”
“ฉัตรก็รักพี่ช่อกับเจ้าแฝดนะ บายค่ะ” ช่อฉัตรวางสายไป
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?