ตอนที่ 23 หุ้นส่วนธุรกิจ

ตื่นเช้ามา

เซลีนตั้งใจจะวิดีโอคอลหาแม่พรรณีกับช่อฉัตร เพราะเธอไม่ได้โทรกลับบ้านที่เมืองไทยนานหลายวันแล้ว มัวแต่ยุ่ง ๆ เรื่องร้านอาหาร เซลีนโทรหาแม่พรรณีทันทีที่ทานมื้อเช้ากับทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“หวัดดีจ๊ะแม่จ๋า เป็นไงบ้างสบายดีหรือเปล่า”

เสียงสดใสที่เปล่งออกจากปากหญิงสาว ทำให้หญิงชราที่รับสายอยู่ตรงข้ามยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“แม่สบายดีจ๊ะ แล้วช่อละลูก เป็นไงบ้าง”

“ช่อสบายดีจ๊ะแม่ ช่วงนี้ยุ่งม๊ากมากจ๊ะ เกิดเรื่องที่ร้านอาหารของเจ้น่ะแม่”

“อ้าว เกิดอะไรขึ้นละลูก แล้วช่อไม่เป็นไรใช่ไหม แม่เป็นห่วงนะ”

“เจ้ต้องปิดร้านอาหารน่ะค่ะ โดนกลั่นแกล้ง แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วง คนดี ๆ เช่นพวกเรา พระท่านคุ้มครอง ตอนนี้ก็หาทางออกได้แล้ว เหลือเก็บรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ” เซลีนบอกแม่พรรณีให้คลายกังวล

“อ้อ ๆ ค่อยโล่งใจหน่อย ขอให้พระคุ้มครองนะลูก” แม่พรรณีเอ่ยอวยพรให้เซลีน

“แม่คะ ฉัตรเป็นไงบ้าง”

“น้องไปโรงพยาบาลยังไม่กลับเลยจ้ะ หมอโยมารับไปตั้งแต่เช้าแล้ว น้องอาการดีขึ้นเยอะเลยนะ ตั้งแต่หมอโยเปลี่ยนเป็นยาเมืองนอก น้องก็แข็งแรงขึ้น แต่น้องยังกินวิตามินที่ช่อส่งมาให้อยู่ทุกวันนะลูก” แม่พรรณีเล่าด้วยน้ำเสียงที่สบายใจ

“ดีแล้วละคะที่ฉัตรอาการดีขึ้น ฉัตรออกไปข้างนอกบ่อยไหมคะแม่”

“ก็อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ฉัตรก็ไม่ได้เล่าอะไรให้แม่ฟังมากนะช่อ แต่น้องดูมีความสุข หน้าตาสดใสขึ้นทุกวัน แม่ก็ดูไม่ออกว่าหมอโยเขาคิดอะไรกับฉัตรหรือเปล่า หรือจะเป็นน้องสาวเราแอบชอบเขาฝ่ายเดียวก็ไม่รู้ แม่ก็กลัวอยู่ว่าน้องจะอกหักและเสียใจ ถ้าหมอโยเขาไม่ตอบรับ”

“แล้วฉัตรบอกหมอโยเขาไปยัง ว่าตัวเองแอบชอบหมอน่ะ”

“น่าจะยังนะ เพราะแม่ก็เห็นทุกอย่างปกติเหมือนเดิม”

เซลีนคุยกับแม่พรรณีต่อไปอีกไม่นานก็วางสายไป เธอตั้งใจจะเขียนแผนงานการร่วมทุนทำร้านอาหารในผับกับแกรี่ เจ้าของร้านคนเมื่อคืน เธอไม่รู้หรอกว่าแกรี่จะเป็นคนที่น่าคบหรือไม่ แต่สัญชาตญาณบอกเธอว่าแกรี่ต้องเป็นคนที่พอคบได้

หลังจากนั่งคิดวางแผนโปรเจกต์อยู่เพียงไน่นาน เสียงฝีเท้าของ เจ้รำไพก็ดังขึ้น ทำให้เซลีนต้องเงยหน้ามองเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นทันที

“อ้าวเจ้ มอร์นิ่งค่ะ ช่อว่าจะขึ้นไปตามเจ้พอดี ถ้าถึงสิบโมงแล้วเจ้ยังไม่ลงมา”

“มอร์นิ่งจ้ะ ขอโทษนะ เจ้นอนไม่ค่อยหลับนะ กังวลเรื่องร้านด้วย แต่ช่อมีอะไรหรือเปล่า”

“ก็เรื่องโปรเจกต์ที่เราจะร่วมทุนกับแกรี่เมื่อคืนไง ช่อวางแผนการคร่าว ๆ แล้ว กะว่าจะปรึกษาเจ้อีกทีน่ะจ๊ะ วันนี้เจ้มานั่งทำโปรเจกต์กับช่อ ดีไหมคะ ยิ่งเราทำเสร็จเร็ว จะได้วางแผนงานได้ไวขึ้น กว่าจะทำอะไร ให้เรียบร้อยก็เข้าหน้าร้อนพอดี คนคงมาเที่ยวชายทะเลเยอะขึ้น ถือเป็นโชคของเราเลยนะเจ้ ต้องขอบคุณคุณอารยาเขานะ” เซลีนมองโลกแบบคน คิดบวก

“งั้นเจ้ขอตัว 30 นาที ทานข้าวอาบน้ำแล้วจะลงมาช่วยนะ ช่อก็ทำไปพลางก่อน ๆ ละกัน ถ้าเสร็จเย็นนี้จะได้เอาไปคุยกันเลย” เจ้รำไพบอกก่อนจะหันหลังไปที่ห้องครัว

“ได้ค่ะเจ้”

เซลีนจึงนั่งลงที่โต๊ะรับแขก เขียนโปรเจกต์ร้านแบบคร่าว ๆ สำหรับเรื่องร้านอาหาร เมนูอาหาร เซลีนไม่ได้กังวลใจเพราะเธอมีน้ำทิพย์สวรรค์เป็นไอเท็มลับอยู่แล้ว

สิ่งที่ต้องระบุลงไปในสัญญาให้ละเอียด ก็ต้องเกี่ยวกับเงินลงทุน ผลตอบแทน การบริหารงาน รวมถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในการเปิดร้านใหม่

เซลีนให้เจ้รำไพทำสัญญาเช่าร้านสำหรับขายอาหารกับแกรี่ ค่าน้ำจ่ายตามมิเตอร์ที่ทำแยกออกมาสำหรับห้องครัวต่างหาก ค่าไฟทางร้านอาหารจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดเก็บ เจ้รำไพขายอาหารตัดราคาให้กับทางผับ แล้วแต่ว่าทางผับจะไปขายราคาเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ทุก 15 วัน ตัดบิล 1 ครั้ง ทำแบบนี้เจ้รำไพก็ไม่ต้องยุ่งยากในการทำบัญชี ถึงเวลาก็วาง อินวอยซ์เรียกเก็บค่าอาหารไป

เซลีนจะเป็นคนสอนการทำสูตรเครื่องดื่มให้กับบาร์เทนเดอร์ของทางร้าน และจ้างคนที่สามารถโชว์การชงเหล้าได้ด้วย ทางร้านจะมีการแสดงพิเศษในทุกคืนวันเสาร์ comedy night, acoustic night, bingo night and quiz night ในคืนวันเสาร์จะมีการเก็บค่าตั๋วเข้าชมเป็นพิเศษอีกคนละ 10 ปอนด์

เธอจะมีรายได้จากการขายน้ำทิพย์สวรรค์เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มที่ต้องชงขายและซอสผัดไทย ผงปรุงรส ต่าง ๆ ที่ขายให้กับทางร้านอาหารเหมือนเดิม

นอกจากนี้เธอยังแนะนำทำโปรโมชั่น เด็กทานฟรี จะมี 3 เซตเมนูสำหรับเด็ก ได้แก่ นักเก็ตไก่ ปลา และสแกมปี้ ทานคู่กับเฟรนซ์ฟรายส์ เด็กจะทานแค่ไหนกันเชียว แบบนี้เป็นการเรียกลูกค้ากลุ่มครอบครัวอีกทางหนึ่ง

เซลีนแนะนำให้ทางผับเปิดรับออร์เดอร์ take away ด้วย โดยในระยะทางครอบคลุมในทาวน์ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. สำหรับผับ เปิดปกติเวลา 11.00– 23.00 น. สำหรับคนที่จะมารับส่งอาหารให้ลูกค้าที่สั่งไปทานที่บ้านคือเด็กวัยรุ่นหรือใครก็ตาม โดยเซลีนเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นที่สะพายเป้ลำโพงเปิดเพลงเสียงดัง เล่น roller skating สวมเสื้อสะท้อนแสง เล่นไปตามท้องถนนในยามค่ำคืนที่พวกเธอเดินผ่านมา ถ้าเธอสามารถจ้างเด็กพวกนี้ให้เป็นพนักงานรับส่งอาหาร มันก็จะเป็นยูนิคของร้านอีกทางหนึ่ง

ในส่วนของการโปรโมตร้านก็ใช้สื่อโซเชียลต่าง ๆ รวมถึงสื่อท้องถิ่น การขึ้นป้ายผ้า การแจกใบปลิวตามบ้าน และในวันที่ร้านเปิดจะมีการ แจกฟรีบางส่วน รวมถึงลดราคาอาหารและเครื่องดื่ม 50 เปอร์เซ็นต์ แบบนี้ก็จะช่วยได้เยอะ ที่สำคัญเธอมั่นใจว่าต้องมีลูกค้ามาอุดหนุนแน่ เพราะผับที่แกรี่เป็นเจ้าของ เป็นผับที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในทาวน์ คนที่นี่เป็นพวกชาตินิยมขั้นรุนแรง พวกเขาต้องดีใจและให้การสนับสนุนแน่นอน บวกกับการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ อาหาร และเครื่องดื่มที่ผสมน้ำทิพย์สวรรค์ งานนี้ไม่รุ่ง เซลีนจะยอมอดอาหาร 3 วันเลย

นั่งคิดนั่งเขียนแผนงานไปเพลิน ๆ ไม่นานเจ้รำไพก็ลงมานั่งข้างๆ กับเซลีน เธอก็เลยเล่าแผนงานต่าง ๆ ที่ได้คิดไว้ให้เจ้รำไพฟัง

“ถ้าเราทำแบบนี้ ถึงแม้ว่าเจ้จะไม่ได้เป็นเจ้าของผับหรือร้านอาหารโดยตรง เพราะร้านอาหารต้องขึ้นตรงกับทางผับ ช่อคิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำเอง คุณอารยาก็มาทำอะไรเราไม่ได้ แบบนี้เจ้ก็จะปลอดภัย เจ้โอเคไหม”

เซลีนถามความเห็นเจ้รำไพ เพราะกลัวว่าเจ้จะยังเสียใจอยู่ที่ต้อง ลดคุณค่าของตัวเองลงไป

“นี่ช่อคิดวางแผนอะไรให้เจ้ทุกอย่างเลยเหรอ เจ้ก็แก่แล้ว จะทำอะไรไปมากมาย จะเป็นห่วงก็แต่พวกเด็กในร้านเองนั่นแหละ เจ้ไม่ต้องทำใหญ่โตก็ดีเหมือนกัน แค่ทำให้มีอะไรทำจะได้ไม่ว่างก็พอ เจ้ขอบใจช่อมากนะ ถ้าไม่มีช่อ เจ้ก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหนเหมือนกัน ช่อเป็นตัวนำโชคของเจ้เลยนะ” เจ้รำไพเอ่ยออกมาอย่างซาบซึ้งใจ

“ช่อก็บอกเจ้ไปแล้ว ว่าเจ้น่ะเหมือนพี่ เหมือนเพื่อน เหมือนแม่ ของช่อคนหนึ่ง ตอนนี้ช่อก็มีแต่เจ้กับกุ้งเท่านั้น ถ้าไม่รักเจ้แล้วจะไปรักใครละคะ” เซลีนหันไปกอดแขนและซบศีรษะลงบนไหล่ของเจ้รำไพแบบอ้อนๆ

“เด็กคนนี้นี่ เสียดายที่ช่อไม่คิดจะแต่งงานใหม่ ไม่งั้นเจ้จะเชียร์ให้ เจสันลูกชายเจ้ รายนั้นนะ จนป่านนี้ก็ยังไม่แต่งงานมีครอบครัวมีหลานให้เจ้ได้อุ้มเลย อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว” เจ้บ่นลูกชายให้เซลีนฟังด้วยเสียงแข็งๆ

“ฮ่า ๆ เอาน่าเจ้ เดี๋ยวเจสันก็ได้แต่งอยู่แล้ว ว่าแต่ตกลงว่าเจ้โอเคกับแผนการนี้นะคะ” เซลีนถามเจ้รำไพอีกครั้ง

“ตกลงสิช่อ เป็นไงเป็นกัน” เจ้รำไพเอ่ย

“ถ้างั้นเราไปหาแกรี่ที่ผับเลยดีไหมคะ จะได้ไปคุยกันให้รู้เรื่อง ยิ่งเดินเรื่องเร็วยิ่งดี ถ้าพนักงานที่ร้านจะไม่ตามไปที่ไบรตั้น พวกเขาจะได้หางานได้ล่วงหน้าเร็ว ๆ

วันนี้เราก็ไม่ต้องไปที่ร้านอาหาร ให้พี่นากับพี่น้อย จัดการที่ร้านไปพลาง ๆ ก่อน” เซลีนเสนอไอเดียให้เจ้ไม่หยุด

“ได้ ตกลงเอาตามนี้ ช่อโทรไปนัดแกรี่ได้เลย เราจะได้ออกไปกันอาจจะทันรถไฟรอบถัดไป”

เซลีนจึงโทรศัพท์ไปหาแกรี่และตกลงกันว่าอีกไม่เกินสามชั่วโมง พวกเธอคงไปถึงที่ร้าน จะได้คุยรายละเอียดกัน

**************

ณ ผับโอเชี่ยนบลู

ซึ่งแกรี่ได้มารออยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีค่ะแกรี่” เซลีนกับเจ้รำไพทักทายแกรี่ ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปคุยกันในร้านอาหาร

“สวัสดีครับ ผมไม่คิดว่าพวกคุณจะทำงานได้เร็วขนาดนี้ พวกเราเพิ่งคุยกันเมื่อคืนนี้เอง”

“ดีไหมล่ะคะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีไหมคะ” เซลีนตอบด้วยรอยยิ้ม

“ดีมากครับ พวกคุณต้องการรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวผมนำมาให้”

“น้ำแอปเปิล ขอบคุณค่ะ” เซลีน

“ขอชาละกันค่ะ “ เจ้รำไพเอ่ยต่อ

ไม่ถึงห้านาทีแกรี่ก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟสองสาว ส่วนตัวเขาก็ถือกาแฟดำมาด้วยแก้วหนึ่ง

“อย่างที่เราคุยกันเมื่อคืน ผับยังเป็นของคุณแกรี่ เมย์จะทำในส่วนของร้านอาหาร ทางเราจะคิดเมนูขึ้นมาแล้วขายให้กับทางผับ แล้วผับก็เอาไปขายให้กับลูกค้าอีกทีหนึ่ง เราจะวางอินวอยซ์ทุก 15 วัน ทางผับรับผิดชอบในส่วนของเครื่องดื่มไป เวลาคิดเงินลูกค้าทางผับก็คิดไปตามปกติ เซลีนจะเป็นคนสอนการทำเครื่องดื่มสูตรของเธอ ที่ในอนาคตจะกลายเป็น signature ของผับ และทางคุณก็ซื้อส่วนผสมหลักบางตัวจากเซลีน ค่าน้ำคิดตามมิเตอร์ที่ติดไว้เฉพาะห้องครัว และค่าไฟทางฉันจะจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวม แบบนี้คุณว่าเป็นอย่างไรคะ” เจ้รำไพเสนอแผนการทำงานให้แกรี่ฟัง

“อืม... ก็ฟังดูน่าสนใจนะ แล้วคุณจะทำแต่อาหารไทยหรือว่าทั้งไทยและอังกฤษล่ะครับ”

“เราทำทั้งสองแบบ ทั้งไทยและอังกฤษ ฉันขอเสนอให้ทำโปรโมชั่นเด็กทานฟรี เราทำเตรียมไว้ให้ 3 เมนูคือนักเก็ตไก่ ปลา กับสแกมปี้ ทานกับเฟรนซ์ฟรายส์ อีกอย่างเราคิดว่าผับควรจะเปิดตั้งแต่ 11.00 – 22.00 น. เปิดกลางวันด้วย ไบรตั้นเป็นเมืองท่องเที่ยว คาดว่าเราจะได้ลูกค้าในตอนกลางวันด้วยแน่ ๆ” เซลีนอธิบายเพิ่มเต็ม

“อืม นั่นก็หมายความว่าต้องเพิ่มพนักงานเข้ามาอีก ตรงนี้ต้นทุนมันจะมากเกินไปหรือเปล่า” แกรี่ให้ความเห็น

“ไม่แน่นอนค่ะ ในช่วงแรกอาจจะยังมีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่หลังจาก สี่เดือนก็จะเริ่มมีลูกค้าประจำแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะนับเงินไม่ทันเลยละ ฉันรับรองได้” เซลีนบอกแบบยิ้ม ๆ

“ดูพวกคุณจะมั่นใจมากเลยนะครับ” แกรี่ถามออกมาด้วยความสงสัย

“คุณมั่นใจได้ค่ะ เพราะฉันก็ถามคำถามนี้กับเซลีนมาก่อน ตอนนี้ฉันไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้นเลยค่ะ ฉันถึงไม่ค้านเมื่อคืนเมื่อเธอเสนอการทำธุรกิจร่วมกันกับคุณ” เจ้รำไพการันตีออกไป

“แผนต่อไปคือการทำ take away เราจะเปิดรับในส่วนของตัวนี้ด้วย แล้วฉันอยากให้คุณติดต่อเด็กวัยรุ่นที่เขาเล่น roller skating เพื่อมาเป็น แมสเชนเจ้อร์ให้กับทางร้าน มันคงจะยูนิคมาก แต่ถ้าไม่ได้ก็หาคนธรรมดาหรือเข้าร่วมแอปต่าง ๆ ที่มีบริการทั่วไป ส่วนนี้คุณไปจัดการได้เลยค่ะ

อันนี้ฉันขอนำเสนอ คืนพิเศษทุกวันเสาร์ เราจะมีการแสดงขึ้น ในหนึ่งเดือนจะเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกัน comedy night, acoustic night, bingo night and quiz night ฉันคิดว่าสามารถเรียกลูกค้าได้เพิ่มขึ้นแน่นอน แต่เราจะเปิดการแสดงเป็น 2 รอบในหนึ่งคืน คือ 6 โมงเย็นกับ 2 ทุ่ม ในเวลา 2 ชั่วโมงก็เพียงพอ เมนูอาหารก็เป็นเซตเมนู

เราจะเปิดขายบัตรล่วงหน้า เพื่อเราจะได้จัดการอะไรให้ได้ลื่นไหล ไม่ติดขัด ในส่วนของการจัดการต่าง ๆ แผนฉันก็มีแค่นี้แหละคะ คุณแกรี่ มีความเห็นว่าอย่างไรคะ”

แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่เซลีนพูดจบ

“มันสุดยอดมากเลยครับ แผนงานนี้ในช่วงแรกอาจจะมีการลงทุนจ่ายค่านักแสดงไปบ้าง แต่ถ้าเราเป็นที่รู้จักของลูกค้า ผมเชื่อว่าต้องโด่งดังแน่ ผมนี้ตื่นเต้นมาก ๆ เลยตอนนี้ ในแถบนี้ยังไม่มีใครทำแบบนี้เลย ถ้าเราเริ่มเป็นเจ้าแรก ต่อให้ในอนาคตจะมีคนเลียนแบบ เราก็ยังเป็นออริจินอล อยู่ดี ผมอาจจะโปรโมตร้านทางสื่อด้วย” แกรี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เมย์ครับ ผมไม่แปลกใจแล้วในตอนนี้ ที่คุณปล่อยให้หญิงสาวคนนี้เป็นคนดิวงานกับผม เมื่อคืนผมยังสงสัยว่าคุณเป็นเจ้าของร้าน แต่ทำไมให้พนักงานมาดิวงานที่ใหญ่ ๆ แบบนี้ เซลีน ผมนับถือคุณจริง ๆ และผมก็ยินดีมากที่จะได้ร่วมงานกับคนที่มีความตั้งใจและเก่งแบบคุณ ขอบคุณนะครับ ที่เป็นแสงสว่างให้กับผมในวันที่มืดมน จากนี้ผมก็ตายตาหลับแล้ว ถ้าผับนี้ไม่ต้องขายออกไปในรุ่นของผม”

“ด้วยความยินดีค่ะ”

หลังจากนั้นก็เป็นการคุยในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ แกรี่พาทั้งสองสาวต่างวัยเดินเข้าไปดูในส่วนของครัว อุปกรณ์ต่าง ๆ

เซลีนจดรายละเอียดต่าง ๆ ถ่ายรูปไว้ เพื่อนำไปเขียนแผนการตกแต่ง สิ่งที่ต้องซื้อเพิ่ม สิ่งต้องแก้ จากนั้นก็ไปในส่วนของบาร์เครื่องดื่ม ทั้งสามคนปรึกษาถึงเมนูเครื่องดื่มที่จะต้องใช้ด้วย เซลีนกับเจ้รำไพอยู่คุยงานกับแกรี่อีก 2 ชั่วโมงก็ขอตัวกลับลอนดอน

ระหว่างที่นั่งรถไฟจากไบรตั้นมาที่ลอนดอน ทั้งสองสาวก็ยังคุยกันเกี่ยวกับอนาคตของร้านครัวสยาม เซลีนยื่นข้อเสนอให้เปิดร้านไปจนถึง วันสุดท้ายเพราะรายได้กำลังดี อย่างน้อยก็เก็บเงินได้อีกตั้ง 5 วีคที่เหลือ อนุญาตให้พนักงานหางานได้ แต่ขอให้ช่วยอยู่จนปิดร้าน ส่วนค่าจ้างที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าไม่มีปัญหา เพราะเจ้รำไพได้เงินมาจากเจ้าของตึกแล้ว เจ้รำไพยังได้เงินค่าปรับมาอีกส่วนหนึ่งด้วย

งานนี้ถ้ามองในมุมบวก ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก สำหรับผู้ช่วยในครัวกับพี่นา พี่น้อย ก็ลองเสนอให้ตามไปที่ไบรตั้นดู แต่ถ้าไม่ไป เซลีนก็ไม่ได้กังวลในส่วนของแม่ครัวเลย เพราะหัวใจหลักมันอยู่ที่ซอสกับผงปรุงรสที่เธอจะทำส่งร้านต่างหาก ใครก็ได้ที่พอมีความสามารถในด้านการทำอาหาร นิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ