ตอนที่ 13 เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน

วันนี้เซลีนยังคงตื่นเช้ามาปลุกลูก ๆ เตรียมตัวไปโรงเรียน เธอก็ลงไปเตรียมอาหารเช้าให้เด็ก ๆ เธอจะมีเวลาได้พูดคุยกับเด็ก ๆ ในช่วงนี้เท่านั้น เพราะในตอนเย็นหลังเลิกเรียนเธอต้องไปทำงานที่ร้านอาหารจนดึกดื่น กว่าจะกลับมาพวกเด็ก ๆ ก็เข้านอนกันหมดแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้เด็ก ๆ ก็เข้าใจความจำเป็นของเธอเป็นอย่างดี และพยายามเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่ ไม่ทำตัวให้เธอต้องเป็นห่วง เวลาในตอนเช้าจึงเป็นเวลาเดียวที่เธอจะได้พูดคุยกับลูก ๆ และเซลีนก็พยายามใช้เวลาในช่วงนี้คุยกับลูกให้ได้มากที่สุด ทดแทนในส่วนที่เธออาจจะไม่ได้อยู่กับลูกนั่นเอง

“อดทนหน่อยนะลูกแม่ อีกไม่เกิน 2 ปี พวกเราก็จะสบายขึ้นจ้ะ แม่สัญญา” เซลีนลูบหัวลูกทั้งสองคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

เธอพยายามอดทนและบอกตนเองว่า ไม่เกิน 2 ปี เธอจะต้องมีอาชีพที่สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ เพื่อจะได้ดูแลเด็ก ๆ ด้วยตัวเธอเอง ถึงแม้พวกเขา จะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน แต่ยิ่งนานวัน พวกเขาก็ยิ่งโตขึ้น ทุกวัน อีกทั้งตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว เธอเลยต้องให้ความรักความอบอุ่น แก่ลูก ๆ แทนพ่อของพวกเขาด้วย เรียกได้ว่าเธอต้องเป็นให้ได้ทั้งพ่อและแม่ของสองแฝดนั่นเอง

ที่ผ่านมาเธอให้เด็ก ๆ ได้ดื่มกินน้ำทิพย์วิเศษมาตลอด น้ำทิพย์น่าจะส่งผลในเด็ก ๆ ยิ่งมีพัฒนาการด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ความคิด เธอพอใจมาก ตอนนี้เด็ก ๆ ลูกของเธอยิ่งน่ารักเข้าไปอีก เด็กแฝดที่อายุประมาณ 4 ขวบ กำลังช่างพูดช่างถาม ใคร ๆ เห็นก็อดที่จะมองด้วยความชื่นชม คิดมาถึงตรงนี้เธอก็คิดถึงแดนนี่ลูกของเธออีกคน

รอหม่ามี้ก่อนนะครับแดนนี่ หม่ามี้สัญญาว่าหม่ามี้จะไปตามหาหนูแน่นอน

ส่วนตัวเธอเองก็เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ผิวที่สีแทนเนียนนุ่มไปทั้งตัว กระ ฝ้า รอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่เกิดจากการทำงานในครัว ก็ไม่มีแล้ว ผมสีดำที่เงาสลวยทิ้งตัวเป็นเส้นตรงโดยไม่ต้องใช้เครื่องหนีบไฟฟ้า ส่วนไหนที่ควรมีก็มี ส่วนไหนที่ไม่ควรมีก็หายไป เธอพอใจกับรูปร่างตอนนี้มาก

เซลีนเฝ้าวางแผนการทุกอย่างก็เพื่อจะเดินทางไปหาเบนจามิน สามีของเธอที่เธอยังรักเขาอยู่ไม่เคยจางหายไป แม้เธอในร่างของซินดี้จะอายุห่างจากเบนจามินเกือบยี่สิบปีก็ตาม แต่เธอก็ตั้งใจ ว่าจะพิชิตหัวใจสามีของเธอให้ได้ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในร่างไหนก็ตาม แต่ดวงจิตภายในก็ยังเป็นเซลีน ของเบนจามินเหมือนเดิม

นี่คือความปรารถนาที่เซลีนเก็บไว้ในใจเพียงลำพัง และกำลังลงมือทำตามแผนการที่วางไว้อย่างอดทน

หลังจากที่ส่งเด็ก ๆ ไปโรงเรียนแล้ว เซลีนก็อาบน้ำแต่งตัว ออกไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เพื่อซื้อน้ำมันหอมระเหยและอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับทำน้ำมันหอมให้มาดามเซรีน่า

“สนใจกลิ่นไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” พนักงานเข้ามาต้อนรับหลังจากที่เซลีนเดินเข้าไปที่ร้าน

“ที่สนใจเลยมี 2 กลิ่นค่ะ กลิ่นส้มกับกลิ่นลาเวนเดอร์”

“งั้นเชิญมาทางนี้เลยค่ะ ไม่ทราบว่าสนใจขนาดไหนคะ ทางร้านมี 3 ขนาดค่ะ” พนักงานสาวคนนั้นยังคงอธิบายถึงสินค้าให้เซลีนฟัง

“ขนาดกลางค่ะ ถ้าอย่างนั้น ฉันเอากลิ่นละ 2 ขวดนะคะ ไม่ทราบว่ามีอุปกรณ์พวกขวดสเปรย์เปล่าไหมคะ”

“มีค่ะ เชิญตามมาทางด้านนี้เลยค่ะ ด้านนี้เป็นอุปกรณ์เสริมค่ะ ลองเดินชมดูก่อนได้นะคะ ถ้าสนใจตัวไหนเรียกฉันได้เลยค่ะ ขอตัวไปต้อนรับลูกค้าทางด้านนั้นสักครู่นะคะ” พนักงานเอ่ยบอกเซลีนออกไป เพื่อให้ลูกค้าได้มีเวลาเลือกซื้อแบบส่วนตัว

เซลีนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงที่ร้านขายน้ำมันหอมระเหย เธอก็ได้ของทุกอย่างตามที่ต้องการ เมื่อจ่ายเงินทั้งหมดเรียบร้อย เธอก็ตรงกลับบ้านทันที พอกลับเข้ามาในบ้าน เธอก็เห็นกล่องพัสดุจากอะเมซอนวางไว้ที่โต๊ะอาหาร คงเป็นเจ้รำไพที่รับไว้ให้ แต่เธอไม่เห็นเจ้รำไพในห้องครัวเลย จึงคิดว่าเจ้รำไพคงอยู่ในห้องนอน

เซลีนวางกระเป๋าและนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว เพื่อทำน้ำมันหอมระเหย เธอซื้อมา 2 กลิ่นตามที่มาดามเซรีน่าต้องการ เซลีนคิดให้น้ำทิพย์สวรรค์ช่วยในการรักษาโรคนอนไม่หลับ หลังจากนั้นเธอก็หยดน้ำทิพย์สวรรค์ไร้สีลงไปในน้ำมันหอมระเหย เขย่านิดหน่อย ก็ปิดขวดไว้เหมือนเดิม

เซลีนเป็นคนคิดอะไรแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก สมกับเป็นสมบัติเทพ แค่ต้องการให้เป็นแบบไหนก็คิดจินตนาการเอา แต่เธอก็ต้องหาความสมเหตุสมผลในความเป็นจริงด้วย เธอมั่นใจว่ามันจะได้ผลและไม่มีปัญหาหรือข้อสงสัยจากมาดามเซรีน่าแน่นอน เพราะการจุดน้ำมันหอมระเหย หรือการสเปรย์น้ำมันหอมระเหยก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น เธอก็แค่หยิบยกความจริงนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์เท่านั้นเอง

เซลีนลงมือแกะกล่องพัสดุ เอาแคบซูลเปล่าออกมา พลางหลับตาคิดให้น้ำทิพย์สวรรค์กลายเป็นผงแบบผงสมุนไพรและรักษาโรคเลือด

“ขอให้มีความเข้มข้นที่ต้องทานติดต่อกันหกเดือนอาการถึงดีขึ้นตามลำดับ กินติดต่อกัน 1 ปี ถึงหายเป็นปกติ” เซลีนเอ่ยราวกับท่องมนตร์ในขณะที่กำลังคิดสร้างน้ำทิพย์สวรรค์เพื่อใช้รักษาน้องสาวที่รักของเธอ

ที่เธอกะระยะเวลาเหล่านี้เอาไว้ ก็เพราะเธอไม่ต้องการให้น้องสาวตกเป็นที่สนใจของหมอ เธอจึงกำหนดให้อาการของน้องสาวให้ค่อย ๆ ดีขึ้น

เซลีนหยิบผงน้ำทิพย์สวรรค์ออกมาใส่ถ้วยใบเล็ก เธอสวมถุงมือ และเริ่มบรรจุผงน้ำทิพย์สวรรค์ลงในแคบซูล

พอได้จำนวน 100 แคบซูล ก็หันไปแกะกล่องยาสมุนไพร เทเอาแคบซูลข้างในออก ห่อด้วยกระดาษซับมัน ทิ้งถังขยะไป เอาแคบซูลน้ำทิพย์สวรรค์ใส่ลงไปในขวดแทน ปิดฝาและใส่กล่องกระดาษให้เป็นปกติ หลังจากนั้นก็นำขวดที่ได้ แพคสำหรับแวะส่งไปรษณีย์ให้กับชิปปิ้งที่จะส่งไปให้น้องสาวที่ไทย

“อ้าวช่อ เห็นพัสดุยัง” เจ้รำไพเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมจะออกไปข้างนอก

“เห็นแล้วค่ะเจ้ ขอบคุณมากที่ลงมารับไว้ให้ ไม่งั้นช่อต้องรออีกนานเลย อาหารเสริมที่จะส่งให้ฉัตรที่ไทยน่ะค่ะ” เซลีนตอบเจ้ออกไป “นี่เจ้ จะออกไปร้านนวดเหรอคะ”

“ใช่ ไม่ได้เข้ามาหลายวันละ เห็นเมื่อวานนางบอกว่ามาดามเซรีน่าประทับใจช่อมากเหรอ” ทั้งสองเดินมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะเจ้ แค่มะปรางป่วย ช่อเลยช่วยชั่วคราว แต่เจ้ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าหัวไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ช่อก็ยังไม่กลับไปนวดหรอกค่ะ แค่ที่ร้านอาหารก็ยุ่งพอละ ช่อละลุ้นว่าคืนนี้ลูกค้าจะเต็มร้านอีกไหม”

“ดีแล้วละ รอให้หายดี ๆ ก่อนค่อยกลับไปทำ งานนวดมันหนัก มันต้องใช้แรงเยอะ ช่วงนี้ก็ช่วยที่ร้านอาหารไปก่อน” เจ้รำไพเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ขอบคุณจ้ะเจ้” เซลีนยกมือไหว้เจ้รำไพ

“เจ้ ช่อฝากน้ำมันหอมไปให้พี่นางหน่อยสิ ฝากให้มาดามเซรีน่านะ มาดามรู้วิธีใช้แล้ว ช่อบอกไปตั้งแต่เมื่อวาน เห็นวันนี้มาดามจะมานวดที่ร้านอีก และจะรับน้ำมันหอมไปด้วยเลย” เซลีนลุกไปหยิบถุงกระดาษที่เตรียมไว้ ยื่นให้เจ้รำไพและนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง

“ได้ เดี๋ยวเจ้บอกให้”

แต่แล้วเซลีนก็ดูเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก

“เอ้อเจ้ ขอหมายเลขบัญชีเจ้ด้วยนะ ช่อจะคืนเงินที่ยืมมาวันแรกที่ออกโรงพยาบาลนะ ช่อก็ยุ่ง ๆ จนลืมไปเลย” เซลีนเพิ่งนึกได้ว่าตอนออกจากโรงพยาบาลเธอยืมเงินเจ้รำไพเอาไว้

“เจ้ไม่รีบ ไม่ต้องคืนก็ได้ แค่ช่อช่วยเจ้ที่ร้านอาหาร เจ้ว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“โธ่เจ้ มันคนละส่วนกัน เอาเป็นว่าเจ้ ให้หมายเลขบัญชีช่อตอนนี้เลย เดี๋ยวเจ้ทำเนียนลืม ช่อไม่อยากติดหนี้เจ้นะ แค่เจ้ช่วยให้ช่อกับลูกมาอยู่ด้วยนี่ก็ตอบแทนไม่ไหวแล้ว”

“คิดมากช่อ ก็บอกแล้วว่าเจ้เห็นช่อเหมือนน้องเหมือนหลานคนหนึ่ง เอาเจ้ส่งให้ทาง WhatsApp แล้ว งั้นเจ้ไปก่อนนะ” เจ้รำไพรีบลุกเพื่ออกไปที่ร้านนวด เพราะเวลาเริ่มไล่หลังเข้ามาทุกทีขืนมัวแต่เม้าส์คงไม่ทันเวลาแน่

**********

เย็นวันนั้น ณ ร้านอาหารครัวสยาม

เซลีนเดินเข้าไปหาเจ้รำไพเพื่อปรึกษาหารือบางอย่าง

“เจ้ สังเกตหรือเปล่าว่าตั้งแต่ขายผัดไทยมา ร้านเราขายผัดไทยได้ดี แต่เมนูอื่นกับยอดตก”

“เจ้ ก็สังเกตเห็นอยู่ ก็ยังสงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้กลัวว่าถ้าเมนูอื่นยอดยังตกอยู่แบบนี้ ถึงแม้จะขายผัดไทยได้เยอะ แต่เจ้กลัวว่าลูกค้าจะเบื่อชะก่อนน่ะสิ ใครมันจะไปกินผัดไทยได้ตลอด” เจ้ก็คิดตามอย่างเป็นกังวล

“เจ้ ช่อมีไอเดียลองฟังดูไหม ช่อว่าเพราะร้านเราซอสที่ทำเมนูที่ไม่ใช่ผัดไทย มันไม่มีอะไรแปลกไปจากร้านอื่น ๆ พวกผัดก็มีซีอิ้วขาว ซอสฝาเขียว น้ำมันหอย รสดี แค่นี้ ร้านไหน ๆ ก็ทำกัน มันเลยมีรสชาติที่ไม่โดดเด่น คือที่เล่ามาซะยืดยาวนี้ คือว่าจะขายของ แหะ ๆ” เซลีนหัวเราะแห้ง ๆ

“เจ้ก็ว่าแล้ว ว่าทำไมยกแม่น้ำมาทั้งลอนดอน จะขายของว่างั้นเถอะ เอ้า ว่ามา เจ้ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะขายอะไรอีกคราวนี้” เจ้รำไพแซวยิ้ม ๆ

“ช่อว่าจะทำผงปรุงรสขายให้เจ๊อะ แต่ว่ามันไม่ได้ใช้หมูหรือไก่นะ มันจะเป็นพืชทั้งหมด สูตรลับของแม่พรรณีเขาละ แค่พี่นาใส่ผงปรุงรสนี้ 2 ช้อนโต๊ะต่อหนึ่งจาน พี่นาไม่ต้องใส่พวกซอสต่าง ๆ เลยนะเจ้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว หรือซอสฝาเขียว ผงปรุงรสของช่อ สองช้อนเอาอยู่ ใส่ได้ทุกเมนู บวกกับผักต่าง ๆ ที่เอามาผัด แกง ต้ม ให้เอาไปแช่น้ำที่ช่อให้ก่อน ช่อการันตรี อร่อยเวอร์แน่นอน” เซลีอธิบายให้เจ้ฟังอย่างตั้งใจ

“ช่อ เว่อร์ไปเปล่า อะไรมันจะครอบจักรวาลขนาดนั้น”

“อ้าว เจ้ ก็ช่อบอกอยู่นี่ไง ว่าอร่อยเวอร์ เจ้ลองดูก่อนก็ได้ เย็นนี้ช่อจะทำไปให้เจ้ทดลอง แล้วมาดูผลลัพธ์กัน แล้วถ้าเจ้สนใจจะสั่งออเดอร์จริงเรื่องราคาก็ค่อยมาว่ากันอีกที” เซลีนยื่นข้อเสนอให้เจ้รำไพ

“ได้ งั้นคืนนี้มาทดลองกัน ถ้ามันได้ผล เจ้ดิวด้วยเลยละช่อ”

“เจ้ อีกอย่างหนึ่งที่ช่ออยากถามความเห็นของเจ้ เกี่ยวกับเมนูที่ร้าน ช่อว่าตอนนี้คนหันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น พี่จันทร์บอกว่ามีลูกค้าหลายคนที่เป็นวีแกน ถ้าเราเพิ่มเมนูวีแกนขึ้นมา อาจจะเรียกลูกค้าได้นะคะ” เซลีนเสนอความเห็นออกไป

“อืม ก็จริงนะ เห็นร้านแนวนี้เพิ่มมากขึ้นเยอะจริง ๆ” เจ้เห็นด้วย

“อีกอย่างนะเจ้ ผงปรุงรสของช่อนะ เหมาะกับพวกวีแกนเลยละ เพราะเป็นส่วนผสมจากผักล้วน ๆ เลยล่ะ” เซลีนนำเสนอสินค้าต่อ

“อืม ขอเจ้ไปคิดดูก่อน แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ลองผงปรุงรสของช่อดูว่ามันจะอร่อยเว่อร์ตามที่พูดหรือเปล่า” เจ้รำไพยิ้ม

“ช่อฟันธง คืนนี้เจ้จะไม่ผิดหวังแน่นอน” เซลีนกอดอกอย่างมั่นใจ

“เอ่อ เจ้ อย่าหาว่าช่อมาทำหากินกับเจ้เลยนะ ช่อมาคิดดูว่าช่วงนี้เด็ก ๆ ก็โตขึ้นทุกวัน ช่อไม่มีเวลาได้อยู่กับพวกแกเลย ยิ่งช่อกำลังหย่า เด็กก็น่าจะต้องการช่อมากขึ้น” เซลีนเริ่มเล่าแผนการออกมาให้เจ้รำไพฟัง

“ช่ออยากทำงานที่บ้านและมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองกับลูก ๆ นะเจ้ แต่เจ้ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่ร้านอาหารนะ เพราะช่อสามารถทำซอสผัดไทยหรือผงปรุงรสได้จากที่บ้าน เจ้แค่เอาวัตถุดิบมาให้ช่อ แล้วเจ้ก็เอาซอสไปให้พี่น้อยเวลาเจ้ไปร้าน แค่นี้เอง ก็ไม่มีปัญหาแล้ว” เซลีนรีบบอกเจ้รำไพให้คลายกังวล

“เอ้อ ก็ดี เจ้าแฝดก็โตขึ้นทุกวันอย่างที่ช่อว่านั่นแหละ พวกแกก็คงต้องการแม่ ยิ่งช่อกำลังจะหย่ากับมาร์ค เด็ก ๆ ก็คงไม่สบายใจนั่นแหละ ใครจะอยากเป็นครอบครัวแตกแยก เพียงแค่สองแฝดเป็นเด็กดีเท่านั้น ช่อโชคดีมากนะที่สองแฝดไม่ดื้อ ไม่ทำให้ช่อต้องมากังวลใจ ไม่งั้นช่อแย่แน่ ไหนจะลูก ไหนจะผัว” เจ้รำไพสนับสนุนความเห็นของเซลีน

“ช่อก็เป็นกังวลอยู่ จึงอยากจะมาดูแลพวกเขาให้เต็มที่”

“เอาเป็นว่าช่อจะให้เจ้ช่วยอะไรก็บอกมาละกัน ไม่ต้องเกรงใจ”

เจ้รำไพบอกก่อนที่จะขอตัวไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใหม่ ส่วนเซลีนก็กลับไปทำงานตามปกติ

***************

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตประจำวันของเซลีนก็ยังคงวนลูปอยู่แบบนี้ ตื่นเช้ามาปลุกเด็ก ๆ ไปโรงเรียน ทำความสะอาดบ้านในตอนกลางวัน ไปทำงานที่ร้านตอนเย็น น้ำหวานก็ยังคงมาดูแลสองแฝดตามปกติ กว่าเธอกับเจ้รำไพจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืนทุกวัน

แม้ตอนนี้เธอจะหายดีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำงานนวดตอนกลางวัน ร้านอาหารตอนนี้ถือว่ากิจการกำลังไปได้สวยเลยทีเดียว จากการบอก ปากต่อปากของพนักงาน เอส.เค.เทค ทำให้มีลูกค้าตลอด ผัดไทยก็เป็นเมนู signature ไปแล้ว สำหรับเมนูอื่นก็ไม่น้อยหน้า หลังจากที่เจ้รำไพตกลงรับซื้อผงปรุงรสจากเซลีน เมนูอื่นก็ขายดีไม่แพ้กัน

เซลีนขายผงปรุงรสให้กับเจ้รำไพโดยขาย 500 กรัม ในราคา 10 ปอนด์ เซลีนเป็นคนซื้อวัตถุดิบเองในส่วนของผงปรุงรส เพราะเป็นจานจะลำบากในการนับ ส่วนผสมของผงปรุงรสคือผงหอมหัวใหญ่อย่างเดียว เธอซื้อวัตถุดิบมาจากเวป Amazon ในราคากิโลกรัมละ 5.99 ปอนด์ เธอไม่ใส่ผงกระเทียมกับพริกไทย เพราะบางเมนูมันก็ไม่ต้องใส่ เช่นจำพวกแกงกะทิของไทยต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าแค่น้ำทิพย์สวรรค์ก็ทำให้อาหารอร่อยเก็บความร้อนได้ แต่มันก็ต้องสมเหตุสมผลในโลกปัจจุบันด้วย เธอไม่อยากทำอะไรให้เป็นที่สงสัย แค่ซอสผัดไทยกับผงปรุงรสที่เธอทำออกมาแล้วมันอร่อยเว่อร์ เธอก็กลัวคนจับได้จะแย่อยู่แล้ว ขั้นตอนการทำผงปรุงรสของเธอก็ง่ายมาก แค่เอาน้ำทิพย์สวรรค์ที่กำหนดให้เป็นผงเหมือนสมุนไพรนำมาผสมเข้ากับผงหอมหัวใหญ่ คนให้เข้ากันก็สามารถนำไปทำอาหารได้แล้ว เธอจะใส่ผงน้ำทิพย์สวรรค์ 2 ส่วน ผงหอมหัวใหญ่ 1 ส่วน เพื่อให้เกิดความเข้มข้น และคงความร้อนไว้ได้นานขึ้น พี่นาชอบใจผงปรุงรสนี้มาก แบบว่าใช้ง่ายมาก

ผงปรุงรสจึงเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งของเซลีนนั่นเอง

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ