เช้าวันใหม่
เซลีนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหมือนร่างกายจะถูกฉีกเป็นเสี่ยง ๆ สงสัยเป็นเพราะเมื่อวานที่ต้องลงเตาทำอาหารเป็นเวลานาน ซึ่งเธอไม่เคยทำมาก่อน แต่เซลีนไม่มีเวลามานอนบ่นมากนัก เธอรีบลุกขึ้นปลุกอลิสและแอนดี้ให้ตื่น หลังจากนั้นก็ลงไปห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้า
ไม่ถึง 15 นาที เด็ก ๆ ก็ลงมาทานมื้อเช้ากันอย่างพร้อมพียง สาม แม่ลูกพูดคุยกันเล็กน้อย เพราะเมื่อวานทั้งสองเข้านอนไปโดยไม่ได้เจอหน้าของเซลีนเลย หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จได้ไม่นาน รถโรงเรียนก็มารับเด็ก ๆ ไป ส่วนเซลีนก็ทำความสะอาดห้องครัวจนเสร็จเรียบร้อย เธอจึงทานยา แก้ปวดแล้วกลับไปล้มตัวลงนอนต่อ เซลีนหลับไปเหมือนคนสลบเพราะฤทธิ์ของยา และร่างกายที่อ่อนเพลีย จนมาสะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนได้ยินเสียง คนเคาะประตู เซลีนหันไปมองนาฬิกาหัวเตียงซึ่งบอกเวลาเก้าโมงกว่าแล้ว
“ช่อ เป็นอะไรหรือเปล่า เจ้เห็นว่าเก้าโมงกว่าแล้วยังไม่ลุก จึงลองมาเรียกดู” เจ้รำไพถามเซลีนอยู่หน้าประตูห้องนอน
“เจ้ ช่อปวดเนื้อปวดตัวนิดหน่อย หลังส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนแล้ว เลยทานยาแล้วมานอนต่อ” เซลีนลุกมาเปิดประตูให้เจ้รำไพพร้อมกับตอบออกไป
“ทานยาแล้วดีขึ้นไหม เจ้ว่าจะมาคุยเรื่องที่ร้านน่ะ พอไหวไหม เจ้ขอโทษนะ มันเรื่องด่วนจริง ๆ” เจ้รำไพเอ่ยถามและกล่าวขอโทษไปด้วย
“ได้เจ้ เจ้ลงไปรอที่ห้องรับแขกได้เลย ช่อขอเวลา 10 นาที เดี๋ยวตามลงไปค่ะ” เซลีนบอกเจ้รำไพ พร้อมกับคิดว่า
‘ทำไมเราไม่ดื่มน้ำทิพย์สวรรค์เพื่อแก้อาการปวดเมื่อยน้า เซลีน สงสัยลืมไปแล้วสินะ ว่าตนเองมีน้ำวิเศษอยู่กับตัว ทำไงได้ มันยังไม่ชินเน๊าะ’
เซลีนได้แต่บ่นกับตัวเองในใจเบา ๆ เพราะยาแก้ปวดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะเธอยังมีอาการปวดตามเนื้อตัวเหมือนเดิม
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เซลีนก็ลงมานั่งลงตรงหน้าเจ้รำไพ เธอเห็นเจ้กำลังดื่มด่ำกับการจิบชาร้อน ๆ ที่ส่งควันสีขาวลอยฟุ้งออกมาอย่างอบอุ่น ตอนนั้นเองเธอก็เกิดไอเดียขึ้นมาทันที
‘ใช่แล้ว นี่ประเทศอังกฤษนี่นา ถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษก็ต้องนึกถึง afternoon tea เพราะชาวอังกฤษเป็นพวกที่คลั่งใคล้การดื่มชามากที่สุด ในโลกก็ว่าได้ เอาล่ะ ไอเดียมาก็แปลว่าเราต้องทำเงินได้สินะเซลีน’ เซลีนยิ้มกริ่ม รู้สึกลิงโลกอย่างบอกไม่ถูก
‘เงิน เงิน เงิน รอฉันก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวเซลีนจัดให้’
“ยิ้มอะไรช่อ เห็นมองเจ้แล้วก็ยิ้มเอ้ายิ้มเอา หรือเหตุการณ์เมื่อวานทำให้หลอนจ๊ะ” เจ้รำไพเอ่ยแซวเซลีนออกไป
“แหะ ๆ ไม่มีอะไรค่ะเจ้ ว่าแต่เจ้มีอะไรจะปรึกษาช่อเหรอจ๊ะ ม่ะ ช่อพร้อมล่ะ” เซลีนตอบออกไปพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับเจ้รำไพ
“ก็เรื่องเจ้าสักเมื่อวานนั่นแหละ เจ้ละเหนื่อยใจกับมันจริง ๆ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ทำไมถึงมาทำเรื่องแบบนี้ได้ ออกไปเฉยๆ แบบนี้แล้วทางร้านจะทำไง เจ้ละกลุ้มใจ ช่อเอ้ย” เจ้รำไพบ่นออกมายืดยาว พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เจ้ ช่อว่าตอนนี้เรามีพี่นาอยู่ยังพอถูไถไปได้บ้าง เจ้ก็ประกาศรับเชพมาใหม่ดิ ช่วงนี้ก็ลองหัดพี่น้อยลงเตา อาหารง่าย ๆ ไปก่อนก็ได้ เจ้ก็บอกพี่น้อยว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ ถ้าพี่น้อยลงเตาได้ หัดไปนานเข้า เดี๋ยวก็ทำเป็นเอง” เซลีนเสนอความคิดออกมา
“อ้าว เจ้นึกว่าช่อจะรับเป็นเชพแทนเจ้าสักชะอีก ช่อไม่อยากเป็นเชพเหรอจ๊ะ ช่อออกจะทำอาหารได้อร่อย เมื่อคืนถ้าไม่ได้ช่อ เจ้ก็ไม่รู้จะ ทำไงเหมือนกันนะ”
“โอ้ย เจ้ ไม่เอาหรอก ช่อไม่ชอบลงเตา ร้อนจะตาย อีกอย่าง กลัวหน้าเป็นฝ้า เป็นคนจัดจานนะดีแล้ว ช่อพอใจแบบนี้” เซลีนกล่าวปฏิเสธออกไป
“อ้าว แล้วถ้าช่อไม่เป็นเชพ แล้วลูกค้าเก่ากลับมาจะทำไง พวกเขาติดใจฝีมือผัดไทยช่อกันทั้งนั้น เห็นว่าวันนี้ก็จะมาอีก งานนี้ลูกค้าหายแน่ ถ้าช่อไม่ลงเตา”
“เจ้ ไม่ต้องห่วง ช่อหาวิธีแก้ไว้แล้ว” เซลีนบอกเจ้รำไพออกไป
เมื่อคืนนี้ตอนที่ทำเมนูผัดไทย เธอก็คิดถึงแผนการหาเงินขึ้นมาได้ ปกติเซลีนไม่ได้พิศวาสการทำอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอจึงคิดหาทางหนีทีไล่ไว้สำหรับเหตุการณ์นี้เรียบร้อย
งานครัวเป็นงานเบื้องหลังที่ต้องอาศัยความอดทนและใจรักอย่างมาก ซึ่งเซลีนรู้ตัวเองดี ว่าเธอไม่มีคุณสมบัติเช่นนั้น อีกอย่าง ตอนนี้ในหัวของเซลีนมีแต่เรื่องการหาเงินเท่านั้น และวิธีที่จะหาเงินได้เยอะ ๆ แถมง่ายกว่าการทำอาหารนั้น มีอีกมากเซลีนคิดเอาไว้หมดแล้ว เธอจึงรีบเสนอไอเดียกับเจ้รำไพทันทีที่เจ้เอ่ยปากถาม
“ทำไงช่อ” เจ้รำไพถามออกไปด้วยความสนใจ
“เจ้ว่าดีไหม ถ้าช่อจะทำซอสผัดไทยส่งให้ร้านเจ้ ช่อรับประกันความอร่อยและลูกค้าต้องติดใจแน่นอน เจ้ออกวัตถุดิบ ช่อเป็นคนทำซอสให้กับร้านเจ้ ช่อคิดค่าซอสเป็นจานตามจำนวนที่เจ้ขายได้ในแต่ละวัน ทุก 15 วัน เจ้ก็จ่ายเงินให้ช่อครั้งหนึ่ง ช่อคิดไม่แพง ช่อคิดแค่จานละ 1 ปอนด์ก็พอ เจ้ลองคิดดู ว่าถ้าผัดไทยร้านเรา ขายได้ตลอด ต่อไปมันก็เป็น signature ของร้าน ลูกค้ามาก็เพราะผัดไทยเราอร่อยไม่เหมือนใคร เจ้ได้กำไรเห็น ๆ 1 ปอนด์ไม่แพงเลยกับลูกค้าที่จะเข้ามาในอนาคต” เซลีนเกลี่ยกล่อมเจ้รำไพ
“อีกอย่างนะเจ้ พี่น้อยก็ทำได้เมนูนี้ เพราะหัวใจของจานนี้มันอยู่ที่ซอสอยู่แล้ว เราก็ฝึกพี่น้อยลงเตา ทำเฉพาะเมนูผัดไทยอย่างเดียว พี่นาก็ทำเมนูปกติไป เจ้ก็เพิ่มเงินเดือนให้พี่น้อยแบบทดลองงานไปก่อน ถ้ามันไปได้ดีก็ค่อยทำแบบถาวร พี่น้อยได้เงินเพิ่ม ร้านอยู่ได้ เจ้จ้างพี่น้อยก็ถูกกว่าหา เชพใหม่ เราแค่หาคนมาทำแทนพี่น้อย แบบนี้วิน-วินนะเจ้”
“อืม” เจ้รำไพพยักหน้า ทำให้เซลีนมีกำลังใจในการพูดอธิบายต่อ
“สำหรับข้าวเกรียบปลา ถ้าต่อไปมีลูกค้าสั่งตลอด จนกลายเป็น signature appetizer ช่อจะทำน้ำจิ้มขายให้เจ้เหมือนซอสผัดไทย ช่อคิดแค่ จานละ 20 พี ก็พอ แต่ช่วงแรกนี้ช่อทำให้เจ้ฟรี ๆ วัตถุดิบเจ้ออกเหมือนเดิม ช่อแถมน้ำสำหรับแช่ผักให้ด้วย ไม่คิดตังค์” เซลีนยังคงอธิบายให้เจ้รำไพฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เจ้รำไพนั่งคิดตามอยู่พักหนึ่งก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา
“มันก็ดีนะ เจ้เห็นด้วย ขอบใจมากนะช่อ ที่ช่วยเจ้ได้เยอะเลย แล้วราคามันน้อยไปหรือเปล่า ถ้ามันจะขายดีขึ้น ราคามากกว่านี้เจ้รับได้นะ” เจ้รำไพเสนอ
“เจ้ ราคานี้ดีแล้ว ช่อก็ไม่ได้ทำอะไรมาก วัตถุดิบก็ของเจ้ สูตรพวกนี้แม่พรรณีสอนช่อมาเองกะมือเลยนะ น้ำแช่ผักด้วย รับรองแช่แล้ว สด กรอบ หอมนาน เจ้ไม่ต้องกลัวไปนะ ว่าจะใช้สารเคมี ช่อใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน รับรองปลอดสารเคมีล้านเปอร์เซ็นต์” เซลีนยืนยันเสียงหนักแน่น
“เรื่องนั้นเจ้ไว้ใจช่ออยู่แล้วล่ะ” เจ้รำไพยิ้มด้วยความพอใจ
“เอ้อเจ้ เรื่องพี่สักน่ะ เจ้จะเอาไง” เซลีนถามด้วยความอยากรู้ตามประสาสาวช่างเม้าส์
“จะเอาไงล่ะช่อ มันออกไปเฉย ๆ แบบนี้ ทิ้งเจ้ได้ลงคอ เจ้ก็ไม่เอาไว้หรอก อีกอย่าง เจ้ก็ชอบแผนของช่อด้วย ไม่มีเจ้าสักสักคน เจ้ว่าคงสบายกว่าเยอะ แถมเจ้ยังมีช่อ มีผู้ช่วยอีกหลายคนที่น่ารักอยู่นี่นา เจ้าสักมันคงคิดว่าเจ้จะง้อ มันคิดผิดชะแล้ว เจ้ก็เอือมระอากับมันเหมือนกัน” เจ้บอกออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห
“ช่อก็แล้วแต่เจ้ละกัน เจ้เป็นเจ้าของร้านนี่ ก็ดีนะเจ้ พวกสาวๆ คนเสิร์ฟคงแฮปปี้กันมาก ที่พี่สักออกไปชะได้” เซลีนพูดด้วยสีหน้ามีความสุข
“ว่าแต่วันนี้เจ้จะเข้าร้านกี่โมง ช่อว่าจะไปหาซื้ออาหารเสริมส่งไปให้ฉัตรชะหน่อย แล้วจะเลยไปที่ร้านอาหารเลย อาจจะเข้าก่อนเวลา ว่าจะไปทำซอสผัดไทยไว้ เผื่อคืนนี้มีลูกค้าอยากทานอีก จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” เซลีนถามเจ้รำไพออกไป พร้อมบอกแผนสำหรับวันนี้ให้เจ้รำไพฟังไปด้วย
“เจ้ว่าคุยกับช่อแล้วจะแวะไปร้านนวดก่อน พอช่อบอกว่าให้น้อยลองลงเตาดู ก็จะลองไปคุยกับน้อยดูด้วย งั้นเจอกันที่ร้านนะ”
เจ้บอกเซลีนแล้วก็ลุกออกไป ส่วนเซลีนก็กลับขึ้นไปบนห้องนอน ล๊อคอินเข้าเวปอะเมชอน สั่งแคบซูลใสสำหรับใส่ผงทิพย์สวรรค์ สินค้าอีกอย่างที่เซลีนต้องสั่งซื้อ คือยาสมุนไพรในแคบซูลที่มีฉลากและขวดที่น่าเชื่อถือ เธอจะเทเอาแคบซูลข้างในออก แล้วใส่แคบซูลสวรรค์ของเธอเข้าไปแทน เซลีนสั่งซื้อแคบซูลเปล่า 100 แคบซูล และยาสมุนไพรแคบซูล 1 ขวดใหญ่ เซลีนเลือกการใช้บริการ prime ที่สามารถส่งสินค้าได้ใน 24 ชั่วโมง
“ต่อไปก็คือหาคนส่งของไปที่ไทยสินะ”
เซลีนล๊อคอินเข้าไปในเฟชบุ๊ก ปรากฎว่าซินดี้เจ้าของร่างเดิมเป็นสมาชิกในกลุ่มบริการรับหิ้วสินค้าจากอังกฤษไปไทยอยู่แล้ว ส่วนเหตุผลที่เซลีนรู้ว่ามีกลุ่มคนให้บริการรับหิ้วนั้น ก็เพราะสมัยที่เธอยังอยู่ในร่างเดิม เธอเคยใช้บริการส่งของไปให้พี่สาวบ่อย ๆ นั่นเอง
เซลีนไล่หาคนที่เดินทางไวที่สุด ปรากฏว่าไม่มีในระยะเวลา 2 อาทิตย์นี้เลย เซลีนจึงติดต่อไปที่บริษัทของคนไทยที่รับหิ้วสินค้า ซึ่งมันจะแพงกว่าคนเดินทางบินเองนิดหน่อย แต่ข้อดีของบริษัทเหล่านี้ ก็คือบริษัทจะบินทุกสัปดาห์ นี่เป็นคุณสมบัติที่เซลีนมองหาอยู่ เพราะเธอไม่อยากให้ ช่อฉัตรที่กำลังป่วยต้องรอนานเกินไป
เซลีนกดจัดการสั่งข้าวของ ดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้ยาของเธอไปถึงมือน้องสาวให้เร็วที่สุดเสร็จเรียบร้อย จึงอาบน้ำแต่งตัวออกเดินทางไปร้านอาหาร เพื่อเตรียมทำซอสผัดไทย รวมถึงน้ำจิ้มข้าวเกรียบปลาด้วย ระหว่างทางไปร้านอาหาร เซลีนก็เดินผ่านร้านนวดพอดี เธอดูเวลาจากในมือถือแล้วยิ้มออกมาเบา ๆ
“น่าจะมีเวลาเหลืออีกหน่อย แวะไปหาพวกนั้นดีกว่า”
เซลีนแวะไปที่ร้านนวดเพื่อทักทายเพื่อน ๆ กะว่าจะไปหากุ้งด้วย
“อ้าวช่อ เป็นไงบ้าง หายไปหลายอาทิตย์เลย ทุกอย่างโอเคมะ”
คณนางค์หรือพี่นาง คนจัดคิวนวดของร้านเอ่ยทักเซลีน เมื่อเห็นเซลีนเดินเข้าไปในร้าน
“พี่นาง สวัสดีค่ะ ช่อโอเคนะ แต่ยังปวดหัวบ้าง แต่ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ เอ้อ พี่นาง กุ้งทำงานอยู่ไหมคะ” เซลีนยกมือไหว้พร้อมกับถามหาเพื่อนสนิท
“กุ้งเหรอ ทำงานอยู่ แต่คงอีกไม่นานก็เสร็จแล้วละ เข้าไปนานแล้ว ช่อจะนั่งรอก่อนไหม หรือจะไปที่อื่นก่อน จะฝากอะไรไว้ไหม” พี่นางตอบกลับมา
“นั่งรอก่อนก็ได้ค่ะ ยังมีเวลา กะว่ามาหากุ้งแล้วจะเลยไปที่ร้านเลย วันนี้จะเข้าไวหน่อยค่ะ จะต้องไปทำซอสผัดไทยไว้สำหรับคืนนี้”
เซลีนตอบออกไปพร้อมกับเดินเข้าไปนั่งที่ห้องพักพนักงาน ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครอื่นนอกจากเธอ
เซลีนหยิบมือถือขึ้นมาล๊อคอินเข้าเฟชบุ๊ก แล้วเข้าไปดูเฟชบุ๊กของเบนจามิน
“คุณเบน...” เธอเอ่ยชื่อของเขาอย่างคิดถึง แม้ร่างกายจะเป็นคนอื่นแต่หัวใจของเซลีนยังรักผู้ชายเพียงแค่คนเดียวเสมอมา เธอแอบดูความเคลื่อนไหวของเขาผ่านทางเฟชบุ๊กตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่เธอเข้ามาอยู่ในร่างของซินดี้ การได้นั่งดูหน้าเฟชของเบนจามิน เป็นเหมือนกับยาที่ช่วยเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอในช่วงเวลานี้
หน้าเฟชบุ๊กของเบนจามินไม่มีอะไรมาก นอกจากที่เขาจะโพสต์กลอนแห่งความคิดถึง ภาพความทรงจำที่ทั้งสองคนมีร่วมกัน ประโยคมากมายที่กล่าวว่าเขายังรักเธอสุดหัวใจ ยิ่งทำให้เซลีนอยากกลับไปหาเขา ใจแทบขาด
‘เห้อแด๊ดดี้ หม่ามี้คิดถึงคุณจริง ๆ’
เซลีนได้แต่คิดอยู่เพียงลำพัง ก่อนที่จะมีเสียงคนเดินเข้ามา เธอรีบกดปิดหน้าจอมือถือแล้วมองไปที่ประตู ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่นางนั่นเองที่เดินเข้ามาหาถึงในห้องพัก
“ช่อ ช่วยพี่หน่อยได้ไหม” พี่นางถามออกไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“จะให้ช่อช่วยอะไรพี่นาง เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เซลีนถามกลับไป
“ก็มะปรางน่ะสิ ต้องหยุดงาน เส้นเอ็นข้อมือน่าจะอักเสบ พี่บอกแล้วเวลานวดให้ทำให้ถูกท่า แต่นางขี้เกียจ นวดท่าตามใจฉัน มันเลยย้อนเข้าตัวเอง แล้วเป็นไง ตอนนี้น่าจะพักมือนานเลยละ แต่พี่มีลูกค้าซุปเปอร์ วีไอพียกกำลังสอง ที่ปฏิเสธไม่ได้เลย เอ๊ะ! ช่อน่าจะไม่รู้จัก มาดามเซรีน่า ท่านมาเป็นลูกค้าเพิ่งมาใช้บริการไม่กี่ครั้งหรอก ก็ช่วงที่ช่อหยุดไปน่ะ เห็นว่าท่านเป็นเจ้าของ เอส.เค. เทค ตึกสูง ๆ ใหญ่ ๆ ที่เยื้องร้านเราไปไม่ไกลนั่นไง ช่อเอ้ย ทิปหนักมาก ใคร ๆ ก็อยากจะนวดให้ท่านกันทั้งนั้น คิดดูว่าทิปแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 50 นี่มะปรางคงเสียดายน่าดู” พี่นางเล่าให้เซลีนฟังอย่างตื่นเต้น
“พี่นาง ช่อก็ยังไม่รู้เลยว่าพี่จะให้ช่อช่วยยังไง”
“เอ้อ ขอโทษพี่ลืมตัวเม้าส์มากไปหน่อย คือตอนนี้คิวเต็ม พี่รับคิวของมาดามไว้ กะว่าจะให้มะปรางลงคิวต่อไป แต่ก็เกิดเรื่องชะก่อน ถ้า ช่อว่าง ช่วยรับคิวนี้ให้หน่อยได้ไหม มาดามท่านนวดไม่นานนะ ท่านนวดแค่ประมาณ 30 นาทีเอง มาดามท่านเป็นโรคนอนไม่หลับน่ะ ท่านให้นวดหัว บ่า ไหล่ เท่านั้น” พี่นางอธิบายให้เซลีนฟัง
“แปลก ร้านเราเป็นร้านเล็ก ๆ คนระดับนั้นไม่น่าจะมาใช้บริการ ทำไมมาดามท่านไม่ไปสปาหรู ๆ แพง ๆ หรือร้านใหญ่ละพี่” เซลีนถาม พี่นางออกไปด้วยความสงสัย
“อันนี้พี่รู้ ก็เพราะว่ามาดามท่านไปมาหมดแล้วน่ะสิ ไม่ว่าจะ นักบำบัด สปา ทุกอย่างไม่ว่าจะถูกจะแพงแค่ไหน ท่านไปมาหมดแล้ว แต่มันไม่หาย ท่านว่าร้านเราเป็นร้านสุดท้ายแล้วที่ท่านจะลองดู อีกอย่าง ร้านเราอยู่ใกล้ที่ทำงานท่าน คงกะแวะมานวดก่อนกลับบ้านมั้ง คงสะดวกท่านนั้นแหละ” พี่นางคาดเดาไปตามที่คิดได้
“โห้พี่นาง รู้ลึกรู้จริง ยิ่งกว่าเกาะขอบสนามอีกนะคะ” เซลีนแซว ออกไป
“ช่ออะ พี่ก็รู้มาจากพวกเธอทั้งหลายนั่นแหละ ท่านก็ออกจะถือตัวหน่อย ๆ น่ะนะ ตามประสาคนรวย และผู้ดีเก่านั่นแหละ แล้วว่าไง ตกลงพอรับคิวช่วยพี่ได้ไหม” พี่นางแก้ตัวออกไป
“รับจ๊ะ ก็พี่พูดชะขนาดนี้ ไม่ช่วยก็ไม่ใช่ช่อผกาผู้น่ารักน่ะสิ” เซลีน กล่าวด้วยท่าทีเป็นมิตรสุด ๆ
“จร้า ขอบใจมาก ท่านจะมาอีก 10 นาทีนะ พี่ว่าช่อไปเปลี่ยนชุดดีกว่า เผื่อท่านมาแล้วจะได้ทำเลย งานนี้ช่อไม่เสียใจแน่ ทิปหนักจริง”
พี่นางบอกเซลีนก่อนออกจากห้องพักไป เซลีนจึงเปลี่ยนชุดเป็น ยูนิฟอร์มของทางร้าน แล้วไปรอลูกค้าตรงส่วนรับแขกทันที
ผ่านไปไม่เกิน 10 นาที เซลีนก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งกายภูมิฐานเหมือนนักธุรกิจทั่วไป อายุประมาณ 60-70 ปี ผมสีขาวดอกเลาทั้งศีรษะ เซ็ทผมเป็นทรงอย่างดี ถือกระเป๋าแบรนด์ดัง สวมรองเท้าคัทชูเงาวับสีดำ เดินเข้ามาในร้าน พร้อมด้วยชายหนึ่งคนอายุน้อยกว่าหญิงชราคนนี้ แต่จากการแต่งกายของชายคนนั้นแล้ว เซลีนเดาว่าน่าจะเป็นคนขับรถ เพราะชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดยูนิฟอร์มเรียบ ๆ ที่เราเห็นได้ทั่วไป
“สวัสดีค่ะมาดาม สยามสปา ยินดีต้อนรับค่ะ” พี่นางยกมือไหว้แล้วกล่าวต้อนรับออกไป
“มาดามค่ะ นี่คือเซลีน จะเป็นคนให้บริการมาดามในวันนี้ค่ะ เซลีนจ๊ะ นี่คือมาดามเซรีน่าจ้ะ” พี่นางแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน
เซลีนยกมือไหว้มาดามพร้อมกับกล่าวทักทายออกไปเล็กน้อย มาดามเซรีน่าก็กล่าวตอบแล้วหันหน้าไปถามพี่นาง ด้วยน้ำเสียงแบบถือตัวนิด ๆ
แต่เซลีนก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะเข้าใจในสถานะของอีกฝ่ายดี เธอเป็นคนรวย แถมยังเติบโตมาในเป็นเมืองผู้ดีแบบนี้ จะถือตัวก็ไม่แปลกหรอก
“คนใหม่เหรอ ฉันยังไม่เคยใช้บริการเลยน่ะสิ แล้วแบบนี้จะโอเคไหม วันนี้ฉันอยากได้แบบผ่อนคลายหน่อยนะ เหนื่อยมาก ๆ นั่งประชุมมาทั้งวันเลย นี่ก็ยังไม่เสร็จ พรุ่งนี้ก็ต้องประชุมต่อ สองสามวันนี้ฉันอาจจะต้องมาทุกวันนะ” มาดามเอ่ยปากถามพี่นางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก
“มาดามคะ ฉันรับรองว่ามาดามจะต้องประทับใจ และคืนนี้มาดามจะนอนหลับได้อย่างสบายแน่นอนค่ะ ถ้ามาดามไม่ประทับใจ ฉันยินดีที่จะบริการให้มาดามอีก 3 ครั้งแบบฟรี ๆ เลยค่ะ” เซลีนกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ จนมาดามเซรีน่าต้องปรายตามองมาที่เธออย่างไม่หยี่หร่านัก ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็จะดีมาก นอกจากว่าฉันจะให้ค่าเหนื่อยเธอจนคุ้มแล้ว ฉันยังจะหาลูกค้ามาให้เธอเพิ่มขึ้นด้วย เหล่าเพื่อน ๆ ของฉันต่าง ก็เจอปัญหาการนอนไม่หลับกันทั้งนั้น อาจจะเป็นโรคของคนแก่ก็ได้ แต่ ไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ช่วยให้ฉันนอนหลับได้ แต่ทำให้ฉัน ผ่อนคลายบ้าง ฉันก็พอใจแล้ว” มาดามเซรีน่าบอกเซลีนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ไม่ได้เย็นชาหรือถือตัวเหมือนตอนแรก ๆ อาจเป็นเพราะเธอเห็นถึงความตั้งใจในตัวเซลีน
“เชิญมาดามเปลี่ยนชุดได้ที่ห้องแต่งตัวได้เลยค่ะ ฉันจะไปเตรียมของและรอท่านอยู่ที่ห้องหมายเลข 5 นะคะ”
เซลีนบอกมาดามพร้อมกับนำท่านไปที่ห้องเปลี่ยนชุด มาดามก็หันไปยื่นกระเป๋าถือของท่านให้กับชายคนนั้นที่มาด้วย ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุด
เซลีนเดินไปหลังร้านเตรียมอุปกรณ์สำหรับนวดเข้าไปที่ห้องนวดหมายเลข 5 ก่อนที่จะลงมือจุดเตาน้ำมันหอมระเหย หลับตาลงคิดถึง น้ำทิพย์สวรรค์ขวดคริสตัลไร้สี ระบุให้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่ออกมาทำให้รักษาโรคนอนไม่หลับของมาดามเซลีน แล้วหยดน้ำทิพย์สวรรค์ลงไปในเตาที่จุดไว้
คิดถึงน้ำทิพย์สวรรค์ขวดคริสตัลไร้สีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เซลีนต้องการให้มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และไม่ทำให้เหนียวติดตัวหลังจากนวดเสร็จ แค่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดก็แห้งแล้ว แถมยังหอมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ อีกด้วย เธอนำน้ำทิพย์สวรรค์ออกมาใส่ขวดสเปรย์เปล่าที่เตรียมไว้
เมื่อเตรียมของเสร็จ มาดามเซรีน่าก็เดินเข้าห้องมาพอดี
“มาดามค่ะ เชิญนอนบนเตียงแบบคว่ำหน้านะคะ เดี๋ยวฉันจะนวดช่วงบ่า ไหล่ และหลังให้ก่อน สุดท้ายค่อยนวดที่ศีรษะและด้านหน้า เนื่องจากวันนี้มาดามต้องรีบกลับ ในเวลา 30 นาทีนี้ ฉันจะพยายามทำให้มาดามผ่อนคลายที่สุดเองค่ะ” เซลีนแจ้งมาดามออกไป ก่อนจะถืออุปกรณ์ไปวางไว้ในส่วนหัวเตียง
หลังจากที่มาดามขึ้นไปนอนบนเตียงแล้ว เซลีนก็ฉีดสเปรย์ลงบนหลังของมาดาม ก่อนค่อย ๆ นวดไล่จากส่วนเอวขึ้นไปถึงส่วนหลัง บ่า ไหล่ แขน มือ และนิ้วมือ ทำแบบนี้ทั้งข้างซ้ายและขวา เธอได้ยินเสียงมาดามครางออกมาแบบเบา ๆ เธอก็รู้ได้เลยว่ามาดามคงจะถูกใจการนวดของเธอ ก็นะ ได้น้ำทิพย์สวรรค์เข้าไป ปวดเมื่อยแค่ไหนก็หายเมื่อยได้ แถมยังจะรู้สึกเบาเนื้อเบาตัวอีกด้วย ก็เธอลองมากับตัวเองแล้วเมื่อเช้านี้ หลังจากที่ยาแก้ปวดไม่ช่วยอะไรเลย เธอเลยมั่นใจแบบสุด ๆ ว่าวิธีนี้จะช่วยมาดามเซรีน่าได้
ผ่านไป 20 นาทีเซลีนนวดด้านหลังของมาดามเสร็จ ระหว่างที่นวดมาดามก็ชวนเธอคุยโน้นนี่นั่น ภาพลักษณ์หญิงชราสูงศักดิ์ถือตัวแบบ เมืองผู้ดีตอนเจอกันครั้งแรกหายวับไปกับตา กลายเป็นหญิงชราขี้เหงาที่ยังต้องทำงานอยู่ เพราะไม่สามารถยอมรับสภาพว่าตนเองแก่แล้วได้ ถึงแม้ ลูกชายจะบ่นก็ตาม เรื่องราวเหล่านี้มาดามเล่ามาเองกับตัว เซลีนก็ได้แต่เป็นผู้ฟังที่ดี ตอบกลับหรือแสดงความคิดเห็นไปบ้างครั้งตามมารยาท แต่ก็รู้สึกดีที่อีกฝ่ายเปิดใจพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเองมากขึ้น เซลีนนวดมาดามเซรีน่าจนเข้าสู่ขั้นตอน 10 นาทีสุดท้ายของการนวดด้านหน้า บริเวณศีรษะ ขมับ ใบหน้า หู แขน มือและนิ้วมือ
“เซลีน เธอนี้นวดเก่งจริง ๆเลยนะ เชื่อไหมว่าฉันไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งเธอนวดตรงบริเวณขมับ ยิ่งทำให้สมองฉันโล่งเลย สบายจริง ๆ” มาดามเซรีน่าถึงกับเอ่ยปากชมไม่ขาด
“ขอบคุณค่ะมาดาม” เซลีนยิ้มรับคำชมอย่างเบิกบาน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมานวดอีกนะ แต่ว่าฉันจะพยายามหาเวลามา สักสามชั่วโมง เธอพอจะว่างนวดให้ฉันได้ไหม”
“เอ่อ ความจริงแล้วฉันยังไม่พร้อมที่จะกลับมาทำนวดนะคะ มาดาม เพราะว่าตอนนี้ที่ร้านอาหารครัวสยามกำลังยุ่งและขาดเชพ ฉันจึงต้องไปช่วยทางร้านอาหารก่อน อีกอย่างฉันก็เพิ่งอาการดีขึ้นนะคะ” เซลีนพยายามตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ
“อ๊ะ เธอป่วยเหรอ เป็นอะไรมากไหม ฉันไม่รู้ว่าเธอป่วย งั้นวันนี้ที่เธอนวดให้ฉัน ก็ทำเธอแย่น่ะสิ” มาดามเซรีน่าถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ แค่ยังใช้แรงมาก ๆ ไม่ได้เท่านั้นเอง แต่สักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็น่าจะหายดีแล้ว สำหรับวันนี้ไม่เป็นไรค่ะ เพราะฉันก็ไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย อีกอย่าง มาดามก็นวดแค่ 30 นาที จึงไม่เป็นปัญหาค่ะ ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ มาดามไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ มาดามสามารถมานวดที่นี่ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ พนักงานของเรานวดดีทุกคน”
“ถ้าคืนนี้ฉันนอนหลับได้นะ มันคงวิเศษมาก เธอรู้ไหมฉันเป็นโรคนอนไม่หลับมาหลายปีแล้ว ไปหาหมอ นักบำบัด หรือนวดผ่อนคลายมา ทุกทางแล้ว แต่ก็ไม่หายสักที อีริค อ้อ ลูกชายฉันน่ะก็เป็นห่วงฉันมาก แต่จะให้ทำไงได้ละ อาจจะโรคคนแก่ และความเครียดสะสมก็ได้”
“ถึงแม้ว่าฉันจะมานวดให้มาดามไม่ได้ แต่ฉันสามารถรักษาโรคนอนไม่หลับของมาดามได้ มาดามจะลองวิธีการของฉันไหมคะ” เซลีนถามขึ้น
“จริงเหรอ เธอสามารถรักษาฉันได้เหรอ สนใจสิ จะลองอีกซักวิธีมันจะเป็นไรไป หากเธอสามารถรักษาโรคนอนไม่หลับฉันได้นะ รับรองว่าฉันจะให้ค่ารักษาเธออย่างงามเลยละ แล้วเธอจะรักษาฉันอย่างไรละ” มาดามเซรีน่าถามออกมาด้วยความสนใจ
“ฉันมีสูตรน้ำมันหอมระเหยที่เป็นสิ่งที่ตกทอดกันมา คุณแม่ฉันเป็นคนสอนให้ มาดามแค่หยดน้ำมันหอมระเหยลงบนเตา แล้วจุดเวลาที่นอนหลับ ก็สามารถช่วยได้แล้วค่ะ น้ำมันหอมระเหยทำมาจากสมุนไพรไทยที่ช่วยทำให้นอนหลับ มาดามเคยได้ยินการบำบัดด้วยกลิ่นไหมคะ ใช้หลักการเดียวกันค่ะ ฉันจะเตรียมน้ำมันหอมไว้ให้ ตอนที่มาดามมานวดในวันพรุ่งนี้ ก็ลองเอาไปใช้ดูนะคะ แล้วมาดามอยากได้กลิ่นอะไรคะ ฉันจะได้เตรียมกลิ่นที่มาดามต้องการ”
“ฉันชอบกลิ่นส้มกับกลิ่นลาเวนเดอร์”
“งั้นฉันจะเตรียมทั้งสองกลิ่นไว้ให้ในวันพรุ่งนี้ มาดามแค่หยดลงไปแค่ 3 หยดต่อการจุดหนึ่งครั้งนะคะ ถ้าหมดแล้วก็แจ้งทางร้านไว้ เดี๋ยวฉันจะทำมาฝากไว้ให้ค่ะ”
“ขอบใจเธอมากนะเซลีน ฉันจะลองดู” มาดามเซรีน่ายิ้มอย่างพอใจ
“ด้วยความยินดีค่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะมาดาม รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ” เซลีนเอ่ยถามลูกค้าคนพิเศษหลังจากนวดจนครบกระบวนการ
“สบายมากเลยเซลีน ฉันโชคดีมากที่วันนี้เธอเป็นคนนวดให้กับฉัน ฉันรู้สึกว่าจะคิดวิธีแก้ปัญหาเรื่องงานมาได้เรื่องหนึ่งด้วย เธอคือแสงสว่างของฉันเลยนะ” มาดามเซลีน่าเอ่ยอย่างพอใจ เพราะนอกจากเธอจะสบายตัวแล้ว เธอยังผุดไอเดียดี ๆ ได้จากการนวดของเซลีนนั่นเอง
“ด้วยความยินดีค่ะ รบกวนมาดามเปลี่ยนชุดแล้วเชิญที่ด้านนอก นะคะ เดี๋ยวฉันขอเก็บอุปกรณ์พวกนี้ แล้วจะตามไปที่ด้านหน้าร้านค่ะ”
“จ๊ะ” มาดามลุกขึ้นด้วยท่าทีสง่างาม ก่อนจะเดินออกจากห้องนวดไป ทิ้งให้เซลีนเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ จนเรียบร้อยจึงตามไปสมทบที่หน้าร้านตรงส่วนรับแขก เธอเห็นมาดามกำลังคุยกับพี่นางเรื่องเวลานัดในวันพรุ่งนี้อยู่พอดี
“วันนี้ต้องขอบใจเธออีกครั้งนะเซลีน ฉันประทับใจมาก เสียดายที่เธอยังนวดไม่ได้ช่วงนี้ แต่ไม่เป็นไร ฉันบอกทางร้านไว้แล้ว ว่าถ้าเธอกลับมานวดเมื่อไหร่ให้แจ้งฉันไป เพราะฉันจะจองตัวเธอมาเป็นคนนวดประจำ นี่จ๊ะสำหรับค่าเหนื่อยในวันนี้” มาดามบอกเซลีนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น และยื่นซองเอกสารให้เซลีนหนึ่งซอง
เซลีนทำหน้างง แต่ก็รับซองเอกสารนั้นมาแล้วเปิดออกดู ปรากฏว่าเป็นบัตรกำนัน 4 ใบ วงเงินในบัตรระบุว่าบัตรละ 50 ปอนด์ เธอเงยหน้าขึ้น
“มาดามค่ะ นี่มันมากไปค่ะ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ” เซลีนรีบยื่นซองเอกสารคืนไปให้มาดามเซรีน่าด้วยท่าทางตกใจ
“รับไว้เถอะจ๊ะ มันไม่มากไปหรอก มันน้อยไปด้วยซ้ำกับการที่เธอสามารถช่วยนวดผ่อนคลายให้กับฉันได้ มันทำให้สมองฉันโล่ง ฉันคิดวิธีแก้ปัญหาได้ เธอรู้ไหม ว่ามูลค่าโปรเจคที่มีปัญหามันมูลค่าเท่าไหร่ เธอคง ไม่อยากรู้หรอก ดังนั้นแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ อีกอย่างก็ถือเป็นค่าน้ำมันหอมที่เธอจะทำให้ฉันในวันพรุ่งนี้ก็ได้”
มาดามตอบพร้อมกับการยัดซองเอกสารใส่มือคืนให้เซลีน เธอจึง ยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณมาดาม มาดามเซลีน่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มให้เธอแล้วหันหน้าไปรับกระเป๋าจากชายคนขับรถมา แล้วเดินออกจากร้านไปด้วยท่าทีเหมือนนางพญาผู้น่าเกรงขาม สายตาของคนบริเวณนั้นต่างมองตามมาดามเซรีน่าไปเป็นตาเดียวกัน
“โห้ย ช่อสุดยอดไปเลย รู้ไหม มาดามท่านเอ่ยชมช่อให้พี่ฟังตั้งเยอะ คนอื่นได้ทิป 50 แล้วน้องช่อได้เท่าไหร่ นี่ถ้ามะปรางรู้เข้านะ นางต้องกรี๊ดแน่ ๆ” พี่นางพูดออกมาด้วยสีหน้าดีใจแบบกลั้นไม่อยู่
“ช่อโชคดีน่ะพี่นาง เอ่อ พี่นาง เดี๋ยวพรุ่งนี้ช่อเอาน้ำมันหอมมาฝากให้มาดามหน่อยนะ ช่อบอกมาดามไว้แล้ว” เซลีนบอกพี่นางเสร็จ ก็เป็นจังหวะพอดีกับที่กุ้งเพื่อนสนิท เดินออกมาตรงหน้าร้านที่พวกเธอคุยกันอยู่
“ช่อ แกเป็นไงบ้าง ไหนเจ้ว่าให้แกพักนวดไปก่อนไง” กุ้งเอ่ยถามหลังจากที่เห็นเซลีนอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของร้าน
“ก็โอเคอยู่ ภารกิจพิเศษ มะปรางป่วยแล้วต้องนวดให้มาดามเซรีน่า พี่นางเลยขอให้ช่วย” เซลีนยิ้มกว้าง
“อ๋อ เป็นไงได้ทิปมาเท่าไหร่ มาดามทิปหนักนะ ใครๆ ก็อยากนวดให้แกทั้งนั้น” กุ้งถามด้วยความอยากรู้
“200” เซลีนบอกออกไป
“หา 200 เลยเหรอ สุดยอดเลยแก ปกติได้คนละ 50 ก็ว่าเยอะแล้ว นี่ได้ตั้ง 200 แกไปทำไงถึงได้ทิปหนักขนาดนี้นิ” กุ้งถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตาของเธอเป็นประกายเพราะไม่เคยเห็นใครได้ทิปมากขนาดนี้มากก่อน
“ก็ไม่ได้ทำอะไร ก็นวดตามปกติ มาดามอาจจะถูกชะตามั้ง” เซลีนตอบแบบเลี่ยงๆ
“เอ้อ...น่าจะจริง แกโชคดีแล้วละ ถ้ามาดามชอบใคร งานนี้คนนั้น รุ่งแน่ ว่าแต่แกเถอะ มาหาฉันมีเรื่องไรเปล่า” กุ้งถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากมาหาแล้วก็จะไปที่ร้านอาหารเลย วันนี้กะจะไปไวหน่อย เพราะจะไปทำซอสผัดไทยไว้สำหรับขายคืนนี้น่ะ” เซลีนเอ่ย
“โหว...เพิ่งหายทำงานหนักไปรึเปล่าแก” กุ้งถามด้วยความเป็นห่วง
“เล็กน้อยน่ะ ไม่ได้จะตายเสียหน่อย งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะกุ้ง ฉันขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ” เซลีนบอกลากุ้งแล้วรีบไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปที่ร้านอาหารต่อทันที
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?