รถสปอร์ตสีดำคันหรูที่จอดอยู่ตรงด้านหน้าร้านอาหาร ก่อนที่จะมีชายหนุ่มหล่อสมาร์ต เดินลงมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่หน้าตาสวยหวาน ภาพที่เห็นทำให้มะปรางที่อยู่ร้านนวดมองมาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เธอมองเซลีนอยู่อย่างนั้น จนเซลีนเดินลับหายเข้าไปในร้านอาหาร ส่วนชายหนุ่มที่มาส่งก็ยืนรอจนหญิงสาวเข้าไปด้านใน จึงกลับขึ้นรถแล้วขับออกไป
“มะปรางมองอะไรอยู่เหรอ” พี่นางคนจัดคิวถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะเธอเห็นมะปรางยืนอยู่ตรงนั้นชั่วครู่แล้ว
“เปล่านี่ ก็มองไปเรื่อยเปื่อย” มะปรางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่สะบัดเล็กน้อย ก่อนเดินกลับเข้าไปที่ห้องพักพนักงาน
“เอ้อ อะไรของมันว่ะ” พี่นางเกาหัวตัวเองแล้วทำท่างงเล็กน้อย ก่อนเดินเอาแก้วน้ำชาที่ลูกค้าดื่มเสร็จแล้วไปวางไว้ที่อ่านล้างจานด้านหลังร้าน
‘หึ นังช่อมันมีดีอะไร ใคร ๆ ก็รักมัน เลิกกับผัวไม่ทันไร ก็มีหนุ่ม คนใหม่มาสนใจซะแล้ว ทำไมฉันถึงไม่เห็นโชคดีแบบมันบ้าง วันนั้นเงินทิปจากมาดามเซรีน่าก็ควรจะเป็นของฉันด้วยสิ’
มะปรางหลังจากที่เดินเข้าไปนั่งพักในห้องพักพนักงานแล้วก็นั่งคิดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ยังคิดได้ไม่ทันไร พี่นางก็เข้ามาเรียกให้ไปนวดลูกค้าคิวต่อไป
“มะปราง มารับคิวนวดด้วย ให้ไว ลูกค้ารออยู่”
พี่นางเอ่ยเร่งมะปรางออกไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าห้ามอู้เด็ดขาด
“เออ ๆ พี่นางรู้แล้ว เร่งอยู่ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ มันจะมานวดอะไรกันหนักหนาวะ เหนื่อยฉิบหายเลย” มะปรางเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องพนักงานไป
*********************
หลังจากอีริคมาส่งเซลีนแล้ว เธอก็เข้าไปทำงานตามปกติ ไม่ว่าจะทำซอสผัดไทย ผงปรุงรส น้ำจิ้มข้าวเกรียบปลา ความจริงแล้วเซลีนมีแหวนมิติที่เป็นช่องเก็บของ แต่เธอไม่สามารถทำเก็บไว้ได้ เธอต้องเข้ามาทำให้เพื่อนพนักงานเห็น ไม่งั้นก็เอาเหตุผลมาโต้แย้งไม่ได้
‘เห้อ.. เหนื่อย มีของวิเศษแต่อยู่ผิดยุค มันก็โคตรจะลำบากเลย อะไรก็ไม่ได้ โน้น นี่ นั่น’ เซลีนคิดในใจอย่างเหนื่อยหน่าย
ในแต่ละวันเจ้รำไพก็จะหน้าบานเป็นกระด้ง เพราะเมนูผัดไทยที่เป็น signature ของร้าน ทำให้มีลูกค้าเข้ามาเต็มเกือบทุกวัน ร้านได้ผู้ช่วย คนใหม่มาแล้วหนึ่งคน ชื่อว่าวรัญญาหรือฟ้า ฟ้าดูเหมือนว่าจะเด็กสุดในร้าน เพิ่งย้ายมาอยู่อังกฤษได้ไม่ถึงปี อายุยี่สิบกว่า น้องฟ้าบอกว่าขอทำงานเก็บเงินก่อนยังไม่คิดถึงเรื่องลูก ทำให้เจ้รำไพรับอย่างไว เพราะคนไม่มีลูก ก็ทำงานได้เต็มที่
“น้องฟ้า ทำไมถึงชอบชงเหล้า” กุ้งถามออกไปด้วยความอยากรู้
“ฟ้าเคยเปิดผับกับเพื่อนสมัยเรียนนะคะ รายได้ดีทีเดียว ส่วนใหญ่ก็พวกนักศึกษาด้วยกันนั่นแหละค่ะ ฟ้าอยากจะเปิดผับที่นี่ เลยต้องมาเรียนรู้งานไปก่อน”
“อ้าว ถ้าอยากเปิดผับแต่ทำไมมาเรียนรู้เป็นผู้ช่วยเชฟที่นี่ล่ะ ถ้าชอบชงเหล้า น้องฟ้ามาฝึกงานผิดร้านเปล่า”
กุ้งเห็นว่ามันไม่ไม่สมเหตุสมผลเอาชะเลย คำถามของกุ้งทำให้ พวกเราพากันพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็แหม ฟ้าอยากเปิดร้านอาหารไทยในผับไงคะ ถ้าฟ้าไม่มาฝึกงานแล้วฟ้าจะเป็นงานได้ไง จริงไหมคะ เป็นเจ้าของร้านทำครัวไม่เป็น ฟ้าก็ คุมต้นทุนไม่ได้ แบบนี้ก็คงเจ๊งตั้งแต่ยังไม่เริ่มล่ะค่ะพี่ ๆ ฟ้าอยากเรียนรู้ ทุกอย่างในครัวให้ได้ดี ฟ้าไม่รีบค่ะ เก็บประสบการณ์สัก 3 ปี เมื่อก่อนที่ไทยเพื่อนทำส่วนครัวนี่ ฟ้าแค่รับผิดชอบโซนเครื่องดื่ม ฟ้าเลยต้องฝึกโซนครัวเพิ่มค่ะ” ฟ้าอธิบายให้พี่ ๆ เข้าใจ
“ดีแล้วละน้องฟ้า คนเราต้องมีความฝัน เอาใหญ่ ๆ ไปเลย มันจะได้มีแรงฮึด แล้วพี่จะรอไปใช้บริการผับของน้องฟ้านะ” พี่น้อยยกนิ้วโป้ง
“ขอบคุณค่ะพี่น้อย”
“สาว ๆ จ๊ะ ลูกค้าเข้าร้านแล้ว มารับออเดอร์หน่อย”
พี่จันทร์เข้ามาหยุดบทสนทนาของสาว ๆ ด้วยการส่งออเดอร์ สาว ๆ เลยต้องหยุดเมาส์กัน แล้วหันไปตั้งใจทำงานอย่างแข็งขันกันแทน
สามวันผ่านไป
ครบสามวันแล้ว ก็ถึงวันที่เซลีนต้องไปทำอาหารให้กับมาดาม เจสชิก้า วันนี้เธอจะทำอาหารอ่อน ไม่ใช่อาหารเหลวอีกต่อไป
มาดามเซรีน่าโทรมาคุยกับเธอทุกวัน หลังจากที่คุณแม่ของเธอทานมื้อกลางวัน เล่าถึงความกระตือรือร้นในการรอทานอาหารของคุณแม่เธอ จนตอนนี้มาดามเซรีน่าชอบแซวมาดามเจสชิก้า ว่าจากโรคเบื่ออาหาร จะกลายเป็นโรคติดอาหารไปชะแล้ว
แค่สามวันแรกมาดามเจสชิก้าก็สามารถลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนได้เอง หลังจากที่นอนซมมาหลายเดือน สร้างความดีใจให้กับมาดามเซรีน่า เป็นอย่างมาก ก็แหงล่ะสิ เธอใส่น้ำทิพย์สวรรค์ทั้งสีฟ้ากับไร้สีไปด้วย คือทั้งทำอาหารอร่อยและรักษาโรคไปในตัว
ติ๊งต่อง
เสียงกดออดที่หน้าบ้าน ทำให้เซลีนเดินไปเปิดประตูพร้อมกับ ถือกระเป๋าและเครื่องปรุงบางส่วน เพื่อไปทำอาหารที่บ้านของมาดามเซรีน่า
“มาแล้ว มาแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะไรอัน ฉันมาเปิดประตูช้าไปหน่อย วันนี้ของเยอะเลยค่ะ กะว่าจะทำของอร่อย ๆ ให้มาดามเซรีน่าทานตอนบ่ายน่ะค่ะ” เซลีนร้องบอกไรอัน คนรถที่จะมารับเธอไปที่บ้านของมาดามเซรีน่า
แต่เมื่อเปิดประตูออกไป เธอก็ต้องตกใจ
“เอ๊ะ!!คุณอีริค” เซลีนอุทานด้วยความประหลาดใจ
เพราะตามจริงจะต้องเป็นพนักงานขับรถของมาดามเซรีน่า ที่ปกติมักมารับอาหารจากเธอเวลานี้ประจำ แต่วันนี้ไหงกลับกลายเป็นคุณอีริค ไปซะได้ละ
“สวัสดีครับเซลีน สบายดีไหมครับ” อีริคเผลอยิ้มกับสีหน้าของเซลีน
“เอ่อ สวัสดีค่ะ อีริค ฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณมาก คุณล่ะคะ”
เซลีนเหลียวซ้ายเหลียวขวามองหาไรอันด้วยหน้าตาที่บ่งบอกถึงความสงสัยถึงที่สุด
“ไม่ต้องมองหาไรอันหรอกครับ ผมให้เขาไปทำธุระ วันนี้ผมจะเป็นคนขับรถให้เซลีนเอง” อีริคบอกเซลีนแบบไม่ต้องรอให้เธอถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใส
“เอ่อค่ะ ไปกันเลยไหมคะ” เซลีนพยักหน้ารับรู้แบบงง ๆ
“เชิญครับ”
อีริคยื่นมือไปรับสัมภาระที่เซลีนถือไว้ มาถือไว้เองก่อนนำไปเก็บไว้หลังรถ เปิดประตูให้เซลีนขึ้นไปนั่ง แล้วก็เดินอ้อมไปนั่งบนรถด้านคนขับ
“ขอโทษครับ” อีริคเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับเซลีน พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ เพราะเขาเห็นเธอพยายามหาที่คาดและมีปัญหากับมันอยู่นานพอสมควรแล้ว
เซลีนหน้าออกแดงด้วยความอาย ก็นะ เกิดมายังไม่เคยชินกับการนั่งรถสปอร์ตคันหรูนี่นา
“ขอบคุณค่ะ” เซลีนหันไปยิ้มให้แบบเขิน ๆ
กว่าจะถึงบ้านมาดามเซรีน่าก็ใช้เวลากว่า 40 นาที ช่วงเวลาบนรถทั้งสองคนจึงได้มีโอกาสคุยทำความรู้จักกันมากขึ้นตามที่อีริคตั้งใจ
ไม่นานรถสปอร์ตหรูก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังโตของมาดามเซรีน่า
“เชิญครับ”
อีริคก้าวลงจากรถแล้วเปิดประตูให้กับเซลีน ก่อนจะเดินไปด้านหลังรถเพื่อหยิบสัมภาระต่าง ๆ มาถือไว้ เซลีนรอจนอีริคเดินกลับมาหาตน ทั้งสองคนก็เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน
“อีริค หนีงานเหรอวันนี้” มาดามเซรีน่าที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ ห้องโถงเอ่ยทักลูกชาย เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามาที่ห้องรับแขก
“โธ่ คุณแม่ครับ งานผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ผมก็อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณยาย เห็นคุณยายกับคุณแม่ชมเซลีนให้ฟังไม่ขาดปาก ผมก็อยากลองชิมอาหารฝีมือเซลีนบ้างเหมือนกันนี่ครับ” อีริคเอ่ยปากบอกเหตุผล ร้อยแปดให้แม่ฟัง
“สวัสดีจ้ะหนูเซลีน เป็นไงบ้างสบายดีไหม อีริคไปกวนอะไรหนูหรือเปล่าจ๊ะ” มาดามถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“สวัสดีค่ะมาดาม ฉันสบายดีค่ะ คุณอีริคใจดีและเป็นสุภาพบุรุษมาก ๆ เลยค่ะ”เซลีนเอ่ยตอบด้วยความเกรงใจ
“เห็นไหมครับ ลูกชายคุณแม่เป็น Gentleman แน่นอน”
“จร้า พ่อ Gentleman” มาดามแซวลูกชายด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“มาดามค่ะ วันนี้ฉันจะเปลี่ยนอาหารให้มาดามเจสชิก้านะคะ เปลี่ยนจากอาหารเหลวเป็นอาหารอ่อนค่ะ” เซลีนมองตรงไปยังมาดามเซรีน่าด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความตั้งใจ
“ฉันก็แล้วแต่เธอเลยจ้ะ คุณหมอมาตรวจคุณแม่เมื่อวานนี้ คุณหมอพอใจมากที่คุณแม่ทานอาหารได้ คุณแม่จะได้แข็งแรงพอที่พวกเราจะได้พาท่านไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งตอนคริสต์มาสนี้ เธอว่าคุณแม่มีโอกาสที่จะแข็งแรงไหม” มาดามถามเซลีนออกไปด้วยสายตาที่คาดหวัง
ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ถึงแม้เซลีนไม่ใช่หมอ แต่ใครจะไปสนกันละ กี่หมอ กี่โรงพยาบาลแล้ว ที่ช่วยคุณแม่เธอไม่ได้ ถ้าจะมีใครสักคนทำได้ เธอไม่สนใจว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร เพราะคุณแม่เธอสำคัญที่สุด
“ฉันคิดว่าท่านต้องกลับมาแข็งแรงทันคริสต์มาสแน่นอนค่ะ”
“ Finger crossed” มาดามเซรีน่าทำมือให้กับเซลีน
“มาดามคะ ฉันขอตัวไปทำอาหารก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเลยเวลามื้อกลางวันค่ะ” เซลีนยิ้มให้กับภาพนั้นแล้วเอ่ยบอกมาดามเซรีน่าออกไป
“โอ้ว จริงด้วย ฉันนี่แย่จริง ๆ เลย ขอโทษนะจ๊ะ ไปเถอะเสร็จแล้วก็ให้เอมี่มาตามฉันด้วยนะ”
“ได้ค่ะ” เซลีนลุกขึ้นกำลังจะยื่นมือไปหยิบสัมภาระ แต่ทว่า...
“ผมไปช่วยทำอาหารได้ไหมครับ เป็นลูกมือก็ได้ ผมจะได้อวด คุณยายว่ามื้อนี้ผมก็มีส่วนทำ ผมสัญญาว่าผมจะไม่เกะกะเซลีนแน่นอน”
อีริคพูดแทรกขึ้นและยกนิ้วมือขึ้นสามนิ้ว เหมือนทำท่าปฏิญาณตน
“อืมมม ก็ได้ค่ะ” เซลีนยิ้มให้กับความกระตือรือร้นของชายหนุ่ม
“ไปกันเถอะครับ”
แล้วทั้งสองคนก็เดินไปที่ห้องครัว โดยอีริคเป็นคนถือสัมภาระไปให้เซลีน
ในห้องครัว
“เอมี่สวัสดีค่ะ” เซลีนเอ่ยทักทายคุณแม่บ้านเอมี่ ก่อนที่จะบอกให้ อีริควางสัมภาระไว้บนโต๊ะทำอาหาร
“สวัสดีจ้ะเซลีน หอบอะไรมาเยอะแยะเลยคะ” เอมี่ถามด้วยความสงสัย พร้อมกับชะโงกหน้าออกไปมองบนโต๊ะอาหาร
“เครื่องปรุงที่ต้องใช้ทำอาหารสำหรับวันนี้ค่ะ วันนี้ฉันจะทำอาหารไทยให้มาดามเจสชิก้า เลยต้องเตรียมเครื่องปรุงมาเอง”
“ว้าว แบบนี้ฉันก็มีโอกาสได้ชิมอาหารไทยฝีมือคุณน่ะชิคะ”
เอมี่ถามออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เธอก็ชอบอาหารไทยเช่นกัน มันคงจะอร่อยมาก เพราะอาหารของเซลีนทำให้มาดามเจสชิก้ากลับมาทานอาหารได้อีกครั้ง
“วันนี้กะว่าจะทำให้ทั้งคนป่วยกับคนแข็งแรงดีกินกันทั้งบ้านเลยค่ะ ฉันรบกวนเอมี่ช่วยหน่อยได้ไหมคะ อาจจะทำหลายอย่าง”
“ได้เลยค่ะ ฉันยินดีมาก จะได้เรียนไว้ด้วย เผื่อว่าจะได้ทำให้มาดามเจสชิก้าด้วยในภายหลัง” เอมี่ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่แข็งขัน
“จริงสิ ทำไมฉันถึงลืมคิดถึงข้อนี้ไปนะ ฉันสอนอาหารให้เอมี่ไว้ทำให้มาดามเจสชิก้าก็ได้นี่ ไรอันจะได้ไม่ต้องขับรถไปไกลเพื่อรับอาหารทุกวัน เอมี่ค่ะ คุณนี้เจ๋งไปเลย” เซลีนเอ่ยชมเอมี่พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ไปทั้งสองมือ
“แหมเซลีนก็ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ฉันก็รู้สึกผิดนิดหนึ่ง ฉันเป็น แม่ครัวให้บ้านนี้มาตั้งนาน แต่ทำให้มาดามเจสชิก้าทานอาหารที่ฉันทำไม่ได้ มันรู้สึกล้มเหลวในอาชีพอย่างไรไม่รู้”
“แล้วผมละ คุณจะให้ผมช่วยอะไรไหม” อีริคผู้ถูกตัดออกจากบทสนทนาเอ่ยแทรกขึ้น รู้สึกน้อยใจเล็ก ๆ ที่เขานั้นน่าสนใจน้อยกว่าเอมี่
ความหนุ่ม หล่อ รวย เหมือนมันจะไม่ได้ผลกับสาวสวยตรงหน้านี้ ยิ่งทำให้อีริคสนใจเซลีนเข้าไปใหญ่ เพราะตัวเขาไม่เคยต้องมานั่งจีบใครมาก่อน ก็นะ.. ด้วยคุณสมบัติของเขา สาว ๆ ที่ไหนก็ทอดสะพานเสริมใยเหล็กให้เขาเดินทั้งนั้น
“มั่นใจว่าอยากช่วยจริง ๆนะคะ ฉันว่าคุณไปนั่งรอกับคุณแม่คุณดีกว่าไหมคะ ตรงนี้มันค่อนข้างร้อนหน่อย ๆ”
เซลีนถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ดูทรงแล้วเขาคงจะไม่เคยได้ ชงชาเองเลยด้วยซ้ำมั้ง แล้วจะอยากมาทำกับข้าว มันเอ่อ...ค่อนข้างจินตนาการไม่ค่อยออก
“ผมบอกแล้วว่าอยากช่วยคุณทำอาหารให้คุณยาย ให้ผมช่วยน่ะดีแล้วครับ” อีริคยืนยันเสียงหนักแน่น
“โอเคค่ะ” เซลีนยกมือขึ้นทั้งสองข้างทำท่าเหมือนยอมแพ้
“วันนี้เมนูสำหรับมาดามเจสชิก้าคือโจ๊กปลาดอลลี่และผัดไทยไก่ สำหรับทุกคน ฉันอยากจะนำเสนอผัดไทย เมนู signature ของร้าน ครัวสยามค่ะ เหมาะสำหรับทานเป็นมื้อกลางวัน เพราะเป็นอาหารจานเดียว ทานง่ายด้วยค่ะ” เซลีนบอกรายการอาหารที่ต้องทำให้กับผู้ช่วยทั้งสองคนฟัง
“เอมี่ค่ะ รบกวนตั้งน้ำซุป เดี๋ยวฉันจัดการปลาเอง ส่วนอีริค คุณเอาข้าวสวยไปปั่นในเครื่องปั่นทีค่ะ” เซลีนแจกแจงหน้าที่ให้แต่ละคนทำ
เอมี่เดินไปหยิบเครื่องปั่นขนาดใหญ่เอาออกมาตั้งไว้บนโต๊ะอาหารให้กับอีริค อีกมือก็ส่งผ้ากันเปื้อนให้กับเจ้านายของตนเอง สมกับเป็นลูกน้องที่ดี หลังจากนั้นเธอจึงเดินกลับไปที่หน้าเตาเพื่อตั้งหม้อน้ำซุป เกิดเสียงดังของการตระเตรียมอาหารที่ทำให้ห้องครัวดูครึกครื้นกว่าปกติ
เซลีนมองแต่ละคนที่ทำหน้าที่ของตัวเอง พลันมองเห็นอีริคที่กำลังปลุกปล้ำกับเครื่องปั่นอย่างทุลักทุเล แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
“มาค่ะอีริค ให้ฉันช่วยนะคะ” เธอเดินเข้าหาชายหนุ่มแล้วขออนุญาตช่วยเขา
“อ่อ ขอโทษด้วยครับ ผมไม่เคยใช้มันมาก่อนเลย” อีริคหลบทางให้เซลีนเข้ามาจัดการเครื่องปั่นแต่โดยดี
“แต่ก็ยังอาสาทำอาหารให้คุณยาย คุณต้องได้รางวัลหลานดีเด่นแน่นอนค่ะ”
เซลีนพูดจบก็จัดการประกอบเครื่องพร้อมลงมืออธิบายให้ชายหนุ่มฟัง โดยที่เธอไม่รู้เลย ว่าสายตาของเขามองเธอแทบไม่วางตาตลอดเวลาที่ ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?