ตอนที่ 55 กรุ่นกาแฟ... กลิ่นความหลัง

เวลา 17 นาฬิกา ภายในร้านกาแฟแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนักศึกษา และเสียงผู้คนจอแจ คึกคักกว่าตอนแรกที่สายชลเข้าร้านมา ขณะที่เขาเดินอ้อมเพื่อต่อแถวเข้าคิวซื้อกาแฟให้คนรักหางตากลับเหลือบไปเห็นคนที่แสนคุ้นเคยเข้าคิวก่อนหน้า สายชลรีบโผเข้าไปกอดด้วยความดีใจจนลืมนึกไปว่า...

“พีทจริง ๆ ด้วย เราคิดถึงพีทมากเลยไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

คนถูกกอดรีบหันขวับมาหาสายชลด้วยท่าทางตกใจถึงขีดสุด

“เป็นยังไงบ้าง ดูดีขึ้นเยอะเลย พอไม่ทำสีผมแล้วหน้าดูเด็กลงมากด้วย”

“เอ่อ... เดี๋ยวก่อนนะ นี่นาย... ใจเย็น ๆ ก่อน” พีทผลักคนตรงหน้าออกอย่างเบามือ เขาสำรวจคนที่ผลีผลามเข้ามากอดด้วยสายตาพินิจพิจารณา หน้าตาน่ารักที่เต็มไปด้วยความใสซื่อ ท่าทางดูดีใจที่ได้พบกับเขา แต่เมื่อพีทพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่า ‘เขารู้จักนายแก้มป่องคนนี้ด้วยเหรอ ?’

“ชอบกินกาแฟร้านนี้เหมือนกันเลย” สายชลยังคงพูดคุยกับพีทอย่างสนิทสนมอยู่ฝ่ายเดียว

“ใจเย็นก่อนนะ เรา-รู้-จัก-กัน-เหรอ” พีทเน้นย้ำคำว่า ‘รู้จักกันเหรอ’ เสียงเข้ม ส่งให้คนฟังอย่างสายชลหน้าซีดเผือดราวกับแมวน้อยที่หูลู่หางตกอย่างไรอย่างนั้น

พีทแตะแขนของคนตรงหน้าราวกับปลอบใจ แล้วระบายยิ้มอย่างอ่อนโยน

“เราชื่อพีท... แล้วนายชื่ออะไร”

ทันทีที่พีททอดสายตามองด้วยสายตาอ่อนโยนเช่นนั้นทำให้สายชลเพิ่งได้สติว่าในเวลานี้ ‘เรายังไม่รู้จักกัน’ จากความตื่นเต้นดีใจก่อนหน้าถูกแทนที่ด้วยความเศร้าอย่างแปลกประหลาด พีทเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวเมื่อครั้งที่สายชลใช้ชีวิตเป็นผู้ใหญ่ในครั้งนั้นตอนเข้าไปทำงานที่กองบรรณาธิการ ถ้าเขาไม่มีพีทคอยช่วยเหลือก็คงลำบากไม่น้อย

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ เป็นเฟรชชี่เหรอ ? ชื่ออะไรครับ” พีทระบายยิ้มถาม

“เราชื่อสายชล”

“สวัสดีสายชล เราก็ไม่รู้ว่านายรู้จักเราตั้งแต่ตอนไหน แต่นั่นมันไม่สำคัญเท่ากับวันนี้เราได้รู้จักกันแล้ว” คำพูดนั้นของพีททำให้สายชลรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พีทยังคงสดใสเหมือนเดิม

“ยินดีที่รู้จักนะครับ” พีทกระตุกยิ้มกว้างแล้วหลุบสายตาลงไปที่ตรามหาวิทยาลัยบนเนกไทของสายชล

“อยู่มหาลัยนี้เหรอ เราก็มารอเพื่อนที่นี่พอดีเลย” พีทพูดด้วยท่าทางเป็นกันเอง เดิมทีพีทเป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนได้ง่ายอยู่แล้ว เมื่อพบกับสายชลเขารู้สึกถูกชะตากับคนตรงหน้าเป็นพิเศษจึงเปิดใจเป็นเพื่อนกับสายชลโดยง่าย

ขณะที่สายชลกับเพื่อนเก่าที่เพิ่งทำความรู้จักกันใหม่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไทม์ก็เดินมาขนาบข้างสายชลด้วยสีหน้ามู่ทู่ เมื่อเขามองมาจากชั้นลอยเห็นคนตัวเล็กกำลังกอดกับใครบางคนด้วยท่าทางดีใจ ถึงสายชลจะเป็นเด็กอัธยาศัยดี ทว่าเขากลับไม่ชอบการสัมผัสตัวกับใคร แล้วคนคนนั้นเป็นใครกันสายชลถึงกอดได้อย่างสนิทใจ

“นั่นใครครับ” ไทม์เดินเข้ามาประชิดตัวสายชลด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาเอ่ยถามคนรักด้วยเสียงสั้นห้วน

สายชลช้อนตามองคนรักที่กำลังแสดงอาการหึงออกนอกหน้า เขาก็อดที่จะแอบขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ‘พี่ไทม์ยังคงขี้หึงแบบหน้ามืดตามัวเสมอเลยสินะ’

“เพื่อนของน้องเอง... ชื่อพีท” สายชลรีบแนะนำเพื่อนใหม่ให้ไทม์รู้จัก คนแก่กว่ามองพีทด้วยสายตานิ่ง ๆ วงแขนแกร่งโอบกระชับรอบเอวบางของสายชลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ถึงเขาพยายามผลักไทม์ออกมากเท่าไร ดูเหมือนว่าไทม์ก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจกับสายตาเพื่อนใหม่ที่จับจ้องเขาอยู่ วงแขนไทม์กระชับอ้อมกอดแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกับหลุบตามองเขาด้วยสายตาพิฆาตเขาจึงต้องจำยอมให้คนพี่ยืนโอบเอวอย่างเคอะเขิน พีทที่เห็นเหตุการณ์ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างขบขันเมื่อเห็นความหึงหวงของแฟนเพื่อนใหม่ตรงหน้า

“พีท... เราขอโทษรอนานไหม ?” เสียงคนที่เข้ามาใหม่ตะโกนเรียก ‘พีท’ เสียงดังจนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน ส่งให้พีทต้องทำหน้าดุ ๆ เพื่อปรามคนที่ไม่รู้จักโตอย่าง ‘ซัน’

“นั่งตรงไหน พีทได้จองที่ไว้หรือยัง” ซันปรี่ตรงมาหาพีทที่ยืนเข้าแถวรอคิวสั่งเครื่องดื่ม รอยยิ้มสดใสฉายอยู่บนใบหน้าหล่อคมคาย

“ยังเลยซัน เห็นไหม... คนเต็มร้านเลย”

สายชลที่เห็นว่าซันเดินเข้ามาในร้านก็นึกแปลกใจว่า ทำไมพีทกับซันถึงรู้จักกันได้ !? ห้วงเวลาปัจจุบันนี้มีหลายเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หรือการที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงบางอย่างแม้เพียงเล็กน้อยมันกลับทำให้ผู้คนรอบตัวได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างนั้นหรือ ?

ซันดูผิดแปลกไปจากที่เคยเห็น แม้ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อย สวมแว่นหนา ทว่าไม่อาจบดบังความทะเล้นขี้เล่นของคนตรงหน้าได้เลย หากไม่นับเรื่องที่ซันกับพีทรู้จักกัน ไม่พูดถึงภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเรียบร้อยจนแปลกตา ซันยังคงเป็นดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างสดใสเหมือนครั้งแรกที่เคยพบกันในห้วงเวลาอนาคตอย่างไรอย่างนั้น !

ซันกระตุกยิ้มทะเล้นให้กับเพื่อนอย่างยียวน ก่อนจะหันซ้ายแลขวาไปยังบริเวณโต๊ะที่ยังว่าง แล้วเขาก็ชะงักงันกระตุกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“พี่ไทม์... นั่นพี่ไทม์จริง ๆ ด้วย” ซันปรี่ตรงเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างไทม์กับสายชล เขาเขย่าแขนคนแก่กว่าด้วยท่าทางราวกับเด็กตัวน้อย “ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอพี่ไทม์แถวนี้...”

“อื้ม สวัสดีไอ้ซัน” ไทม์ถึงกับถอนหายใจยาว ทั้งน่าอาย ทั้งน่ารำคาญ เขาเบือนหน้าหนีน้องชายเพื่อนตั้งแต่ซันตะโกนโหวกเหวกเข้ามาในร้าน ทว่าก็ไม่สามารถหลบเจ้าเด็กนั่นได้พ้น

“โธ่... พี่ ทำไมทำเสียงห่างเหินกันจังเลยล่ะครับ ว่าแต่พี่ไทม์นั่งโต๊ะไหนเหรอ ขอพวกผมนั่งด้วยคนสิ” ซันเอ่ยน้ำเสียงอ้อนแล้วเขย่าแขนซ้ำ ๆ

“มึงก็ไปหาที่นั่งเอาเองสิ”

“พี่ไทม์ก็เห็นโต๊ะเต็มหมดแล้ว” ซันงอแงไม่เลิกรา ก่อนจะหันไปสบตากับคนน่ารักที่มองครั้งแรกก็ถูกชะตา แต่เขาต้องอกหักตั้งแต่ยังไม่ทันได้รู้จัก เพราะคนน่ารักกุมมือไทม์แน่นชนิดที่คนโง่แบบเขาก็มองออกว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน ถึงอย่างนั้นซันก็อยากรู้จักแฟนของเพื่อนพี่อยู่ดี

“รุ่นน้องพี่ไทม์เหรอครับ เราชื่อซันนะ” ซันเอ่ยทักสายชลด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แววตาเปล่งประกายระยับ ยิ่งเขาสบตาคนน่ารักใกล้ ๆ หัวใจยิ่งเต้นแรง

สายชลยิ้มเผล่กับท่าทางยียวนของคนตรงหน้า ซันในตอนนี้เหมือนกับครั้งแรกที่เขารู้จักไม่มีผิด เขาระบายรอยยิ้มกว้างทักทาย “สวัสดีซัน เราชื่อสายชล”

“หนูไปแนะนำตัวกับมันทำไม”

ไทม์เริ่มแสดงน้ำเสียงไม่พอใจ ‘นี่ละครับ แฟนผม มีใครจะให้คะแนนความขี้หึงมากกว่านี้ไหมครับ คนที่หึงหมดไม่สนว่าใคร ! นั่นน้องชายเพื่อนตัวเองแท้ ๆ พี่ไทม์ยังออกอาการหึงจนซันอยากแกล้ง เอาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ซันหรอก ถ้าใครมาเห็นท่าทางของพี่ไทม์ตอนนี้ ฟันธงได้เลยว่าคนคนนั้นก็อยากแกล้งพี่ไทม์แน่นอน’

“สายชลน่ารักจังเลยครับ” ซันสบตากับไทม์ กระตุกยิ้มอย่างตั้งใจกวนประสาท

“ซันเป็นรุ่นน้องพี่ไทม์เหรอครับ” สายชลเอ่ยถามทั้งที่รู้จักซันมาก่อนหน้าแล้ว

“ใช่แล้ว ซันเป็นรุ่นน้องพี่ไทม์ ยังไง... เรากับพีทขอนั่งที่โต๊ะด้วยคนนะสายชล”

“ได้สิซัน” สายชลตอบรับเสียงสดใสแล้วหันไปยิ้มหวานให้พีทอีกครั้ง

“ไม่ได้โว้ย...” ไทม์โพล่งขึ้นมาเสียงขุ่น

“ไอ้พี่ไทม์ นี่น้องนะ” ซันเริ่มน้อยใจที่ไทม์ไม่ไยดีตนทั้งที่เคยสนิทกันแท้ ๆ

“เออ... ก็ได้” ไทม์พึมพำด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นซันแสดงออกถึงความน้อยใจอย่างที่ไม่คิดจะเก็บอาการ

“พี่ไทม์ทำหน้าดี ๆ หน่อยสิครับ” สายชลเอ่ยเสียงสดใสพลางหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

แม้ว่าหลายอย่างในช่วงนี้จะแปรเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ทว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิม นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างซันกับไทม์ ทั้งสองคนยังคงชอบถกเถียงกัน ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้สายชลรู้สึกอุ่นซ่านหัวใจ จริงอย่างที่พีทบอกกับเขา ‘เราไม่รู้ว่านายรู้จักเราตอนไหน แต่นั่นมันไม่สำคัญเท่ากับวันนี้เราได้รู้จักกันแล้ว’

ระหว่างที่รอพนักงานเตรียมเบเกอรี่และเครื่องดื่มอยู่บริเวณด้านข้างของเคาน์เตอร์ ซันกำลังกดโทรศัพท์หาใครบางคนด้วยสีหน้าสดใส เขามองหน้าไทม์ด้วยสายตาที่มีเลศนัย ไทม์ก็รู้สึกว่าน้องชายเพื่อนคนนี้กำลังมีแผนการบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน...

“โต๊ะเราอยู่ชั้นสองน่ะ พีทตามเรามานะ” สายชลเอ่ยเสียงสดใสแล้วขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับพีท ส่วนไทม์กับซันถือเครื่องดื่มพร้อมกับขนมเดินตามกันมาติด ๆ

“พี่ไทม์ วันนี้ไปปาร์ตี้ที่บ้านผมกัน” ซันเอ่ยชวนทั้งที่รู้ว่าไทม์ต้องบอกปฏิเสธแล้วก็จริงอย่างที่เขาคิดเอาไว้

“ไม่ไป”

“แต่ซันโทร.บอกพี่เชนแล้วนะ”

“ชวนพี่มึงเองงั้นก็ไปปาร์ตี้กันสองคนพี่น้องเลย” ไทม์หัวเราะพลางดุนลิ้นเข้าที่กระพุ้งแก้ม หลุบสายตามองซันอย่างเหนื่อยอ่อนใจ

“แต่พี่เชนบอกว่ามีงานด่วนต้องปรึกษา”

“เลิกงานแล้วโว้ย”

ซันหัวเราะอย่างชอบใจ “แต่พี่ไทม์เคยสัญญากับผมไว้แล้วว่าจะทำตามใจ 1 วัน”

“พี่เคยสัญญากับเราไว้ตั้งแต่ตอนไหนกัน...” ไทม์ทำท่าทางนึก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม แม้เขาย้อนนึกอย่างไรก็ไม่แน่ใจว่าเคยไปสัญญาทำนองนี้กับซันตั้งแต่ตอนไหน ?

“ปีก่อนไงครับ... ตอนวันเกิดซันน่ะ พี่ไทม์ก็ลืมพาพี่เชนบินไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน” ซันตัดพ้อเสียงอ่อน พลางมุ่ยหน้าเมื่อเห็นว่าไทม์ลืมสัญญาที่ให้ไว้ตอนนั้น

“อ๋อ... นั่นไปเซ็นสัญญาด่วนกับดีลเลอร์เจ้าใหญ่... พวกพี่ไม่ได้ไปเที่ยวกันสักหน่อย”

“ไม่รู้ละ” ซันยังคงเอาแต่ใจกอดอกแน่นเบือนหน้าหนี

“โอเค ก็ได้” สุดท้ายไทม์ก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ทุกครั้ง เขาเห็นซันตั้งแต่เด็ก ๆ จึงมองว่าเด็กคนนี้เป็นเหมือนน้องชายของเขาอีกคนหนึ่ง

เมื่อซันเห็นว่าไทม์ตามใจเขาแต่ความต้องการจริง ๆ ของซันยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น “สายชล... ไปปาร์ตี้ต่อที่บ้านเรานะ” ซันร้องขอเพื่อนใหม่ด้วยน้ำเสียงน่ารักน่าเอ็นดู

“เอ่อ...”

ซันหันไปสบตาเพื่อนสนิท กะพริบตาปริบ ๆ ชวนพีทไปนั่งเล่นที่บ้านเหมือนทุกครั้ง “พีทไปด้วยกันนะ สายชลจะได้ไม่เหงาไง”

“โอเค ได้สิ...” ที่ผ่านมาพีทไปบ้านซันบ่อยครั้ง เนื่องจากบ้านของซันมีพื้นที่เยอะ พวกเขาจึงใช้ที่นี่เป็นจุดรวมตัวทั้งนั่งเล่น ติวหนังสือ บางครั้งก็เล่นกีตาร์ริมสระว่ายน้ำ

“ไปด้วยกันเนอะสายชล” พีทเห็นว่าทุกคนรู้จักกันหมดแล้ว และเขาก็รู้สึกถูกชะตากับสายชล มีหลาย ๆ อย่างที่พวกเขาน่าจะชอบเหมือนกัน

“ได้เลย” สายชลระบายยิ้มกว้างตอบตกลงเสียงสดใส

ไทม์ถอนหายใจยาวเมื่อแผนการสวีทหวานกับแฟนสุดที่รักกลับต้องมีก้างขวางคอตัวแสบอย่างซัน ยิ่งเจ้าเด็กนี่มันรู้ว่าเขาหวงสายชลมากเท่าไร ดูเหมือนซันจะยิ่งเข้าใกล้น้องมากขึ้นเท่านั้น ‘มันน่าหงุดหงิดใจจริง ๆ เลย’

“พี่ไทม์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” สายชลถามเมื่อเห็นไทม์ลอบถอนหายใจหลายครั้ง

“ซันว่าไม่เป็นไรหรอกสายชล พี่ไทม์คงถอนหายใจตามประสาวัยทองนั่นละ”

ซันเอ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะกวนประสาท ทำให้คนที่ถูกกล่าวหาหัวร้อนขึ้นมาอย่างทันทีทันใด

“ไอ้ห่าซัน... กูยังไม่แก่เว้ย”

จากบรรยากาศที่แสนหวานก่อนหน้า เมื่อมีซันกับพีทเข้ามาร่วมวงสนทนากลับครื้นเครงขึ้นทันตาเห็น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทุกคนตรงหน้าทำให้สายชลรู้ว่า ‘ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา เพียงใช้หัวใจสัมผัสดื่มด่ำกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า...

ร้านกรุ่นกาแฟไม่ใช่แค่คาเฟ่ ทว่าที่แห่งนี้ยังอบอวลไปด้วยมวลความสุข หวนกลับมาเจอคนที่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ร่วมกันอีกครั้ง และอบอุ่นหัวใจเมื่อย้อนคิดถึงความหลัง’

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ