ตอนที่ 62 กาลเวลาพิเศษ ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำอีก

[Side story]

ท้องฟ้าวันนี้เป็นใจ ไทม์นั่งมองสายชลใต้แสงดวงจันทร์พลางเอ่ยถามถึงบ้านเกิดของสายชล จนคนตัวเล็กตอบมาว่าเป็นที่เดียวกับที่เจอกับเขาเมื่อหัวหินครั้งนั้น หัวใจไทม์เต้นไม่เป็นระส่ำ สายลมโชยเอื่อยในคืนที่ดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้าช่างตรงกับหัวใจของเขาตอนนี้จริง ๆ ความตื่นเต้นผสมปนเปกับความคิดถึง

หากรีสอร์ตแห่งนั้นเป็นกิจการของครอบครัวสายชลจริง ๆ เด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ก็คือแมวน้อยที่เขาเฝ้ารอมาเนิ่นนาน ใช่แล้ว เขาคือเด็กหนุ่มคนนั้นคนที่แมวน้อยเรียกว่าเจ้าชาย รอยยิ้มและสายตาแบบนี้ ไม่น่าล่ะเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

“สวัสดีครับเจ้าชายของแมวอ้วนมาแล้วครับ พี่คิดถึงแมวอ้วนจังเลย”

หลังจากที่ไทม์เรียกสายชลด้วยฉายา แมวอ้วน ที่มีเพียงแต่เรา 2 คนเท่านั้นที่รู้กัน สายชลก็นิ่งอึ้งราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง ทั้งสองต่างมองหน้ากันอย่างลึกซึ้ง เนิ่นนานเหลือเกินที่ไม่ได้เจอกัน กว่าจะตามหากันจนเจอโชคชะตาก็ช่างเล่นตลกนัก รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของสายชลทำให้หัวใจของไทม์รู้สึกสั่นไหวและโล่งในเวลาเดียวกัน เหมือนกับสายรุ้งที่เจิดจ้าบนท้องฟ้าหลังจากฝนโปรยปราย ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีเหลือเกิน

ทั้งสองโอบกอดกัน วงแขนแกร่งกระชับกอดคนตัวเล็กที่สั่นเทาพลางลูบเส้นผมแผ่วเบา คล้ายจะถ่ายทอดความรู้สึกที่สุดจะคะนึงหา

สายชลอยู่ในอ้อมกอดของคนร่างสูง มีเพียงความเงียบและสายลมค่อย ๆ โอบล้อมกายเรา ช่างอบอุ่นใจเหลือเกินความหวาดกลัวต่าง ๆ พลันสลายหายไป สายชลเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า

“ทำไมพี่เพิ่งจะมาบอกผม”

“พี่ก็เพิ่งปะติปะต่อได้ตอนน้องชลบอกเมื่อครู่นี้เอง”

“พี่หายไปเลย พี่แทบไม่ส่งจดหมายมาเลย ผมแค่อยากรู้ว่าพี่เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม แต่จะให้ผมส่งไปเยอะ ๆ ก็ไม่กล้าพอ” สายชลพูดด้วยใบหน้าเง้างอน

“ช่วงนั้นเหรอ…” ไทม์ทำท่าทีพลางนึก

“อ้อ ช่วงนั้นพี่กลับไทยแล้วนะ งานยุ่งมาก ๆ ไม่ได้เขียนหาน้องชล เพราะกะว่าจะไปเซอร์ไพรส์ แต่งานยุ่งก็ผลัดไปเรื่อย ๆ จนช่วงปีใหม่กะไปเคาท์ดาวน์แล้วเอาแหวนไปให้และจะขอโอกาสจีบแมวอ้วนซะหน่อย แต่พอไปหาที่รีสอร์ตทางนั้นก็บอกว่าซื้อต่อกิจการมาแล้ว ที่อยู่ก็ไม่มี พี่ก็ไม่รู้จะติดต่อยังไง” ไทม์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า เผลอบีบมือคนตัวเล็กแรงขึ้น

“พี่ไทม์ก็เลยชอบไปที่หาดนั้น เวลาว่าง ๆ เหรอครับ”

“ใช่แล้วละ พี่หวังลึก ๆ ว่าจะเจอแมวน้อยสักวัน” ไทม์ใช้หัวแม่โป้งลูบหลังมือสายชลเบา ๆ

“พี่ไทม์อะเรียกไปเรื่อยเลยนะ เดี๋ยวก็แมวน้อยบ้างละ แมวดื้อ แต่ที่น้องไม่ชอบที่สุดก็แมวอ้วน นี่น้องอ้วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ” สายชลทำหน้าเง้างอน

“น้องชลเหมือนแมวจริง ๆ นะ เวลางอนก็น่ารักเหมือนแมว เวลากินก็ชอบเลียนิ้วเหมือนแมว”

สายชลทำหน้าดุ ไทม์ขำใส่พร้อมกับยกมือ 2 ข้างขึ้นท่วมหัว

“ยอมแพ้แล้วครับ ไม่แซวแล้ว แต่พี่ไม่เปลี่ยนคำเรียกนะ ยังไงสายชลก็เป็นแมวน้อยของพี่ สงสัยพี่คงโดนแมวตัวนี้ตกแล้วละ”

“พูดอะไรกัน ผมจะไปตกอะไรคนเพอร์เฟกต์อย่างพี่ไทม์ได้”

ไทม์จับมือคนตัวเล็กมาวางไว้ที่แก้มตนเองแล้วสบตาจนคนเด็กกว่าเขินแล้วเงียบฟัง

“ตกเป็นทาสแมวอ้วนคนนี้ คนเดียวเท่านั้นครับ” ไทม์พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ว่าแต่ วันนั้นน้องชลไปทำอะไรที่หัวหินเหรอครับ พี่จำได้ว่าอีกไม่กี่วันก็มีถ่ายแบบที่หัวหินอยู่แล้วนี่ !?”

“ก็น้องว่างเลยขอพี่ดรีมไปเที่ยว คิดถึงบ้านแล้วก็อยากรู้ด้วยว่า ถ้าอีก 8 ปีข้างหน้าบ้านของน้องจะเป็นยังไง รีสอร์ตแม่จะยังอยู่ดีไหม เผื่อจะเจอป้านิดเจอแม่ด้วย ใครจะไปรู้ว่าตัวผมเองในเวลานั้นจะตายไปแล้ว ตายก่อนที่พี่ไทม์ไปหาแค่ 5 เดือนเองนะ” สายชลพูดด้วยสีหน้าเศร้า ใบหน้าร้อนผ่าวก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ พร้อมกับพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่พยายามเก็บร่องรอยความเศร้าไว้ภายในใจ

“วันนี้วันดี น้องกับเจ้าชายได้เจอกันทั้งที”

“อื้ม ใช่” ไทม์ลูบหัวสายชลอย่างเอ็นดู

“ไม่เอาแล้วไม่พูดเรื่องเศร้าอีกแล้ว”

สายชลรู้สึกดีใจไม่น้อยราวกับม่านหมอกที่ขมุกขมัวได้สลายหายไป ทำให้สามารถมองเห็นอะไร ๆ ได้อย่างชัดเจนขึ้น ไทม์ฉวยโอกาสทีเผลอยกร่างเล็กกว่าขึ้นมาวางบนตักพร้อมกับรวบเอวบางไว้ในอ้อมแขน สายชลขยับตัวไปมาเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคนตัวใหญ่

“อย่าขยับแรงสิครับ”

“พี่ไทม์ก็ปล่อยน้องสิ” คนตัวเล็กยังคงทำตัวหยุกหยิก

“ไม่เอาไม่ปล่อย จะไม่ยอมปล่อยอีกแล้ว” ไทม์พูดด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ในขณะที่สายชลยังขัดขืนขยับหนี

รัตติกาลก้มกระซิบข้างหูคนในอ้อมกอดด้วยเสียงแผ่วเบา พ่นลมหายใจร้อนรดกกหู “ถ้ายังขยับแบบนี้ ไทม์น้อยตื่นน้องชลต้องรับผิดชอบพี่นะครับ” ทันทีที่สายชลได้ยิน คนตัวเล็กนิ่งตะลึงงันจนได้ยินเสียงหัวใจที่สั่นระรัว

“น้องชล… ลืมวันนั้นของเราแล้วจริง ๆ หรือครับ” ไทม์ยังกระซิบต่อด้วยน้ำเสียงชวนให้คนฟังเคลิบเคลิ้ม

พี่ไทม์พูดเสียงหวานกับคนในอ้อมกอด “ทำไมน้องชลตัวสั่นแบบนี้ !? หนาวหรือครับ งั้นเราเข้าบ้านกันดีกว่านะ นั่งคุยตัวเปียกกันมานานแล้ว เดี๋ยวเป็นหวัดแล้วหายไปอีกพี่ไม่ยอมจริง ๆ ด้วยนะครั้งนี้” ไทม์พูดเสียงหวานพลางใช้ปลายจมูกโด่งถูเบา ๆ กับปลายจมูกแสนรั้นของคนบนตัก

สายชลเคลิ้มเพียงไม่นานก็รีบลุกออกจากตักร่างสูงแล้วก้าวขาฉับเดินเข้าตัวบ้าน ยังไม่วายหันหน้าทะเล้นแซวผู้ชายตรงหน้าอย่างคนขี้เล่น

“ถ้าพี่ไม่ยอม แล้วพี่จะทำยังไงล่ะครับ” สายชลถามทันควัน

ไทม์ดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง “พี่ทำอะไรได้บ้างล่ะครับ”

“ไม่เอาแล้วผมจะเข้าบ้านแล้ว ไม่รู้พี่สายฟ้าหลับไปแล้วยัง หิวไหมก็ไม่รู้เนี่ย” สายชลพยายามลุกขึ้นหนีไทม์อีกครั้ง แต่ก็ไม่ทันคนตัวโตกว่าที่ขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กจนดังฟอด แก้มคนตัวเล็กขึ้นริ้วแดงอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความสุข

“ไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ พี่ไปส่งที่ห้องนะ”

“เดี๋ยวก็ทะเลาะกับพี่สายฟ้าอีก” สายชลมุ่ยหน้าพลางนึกถึงเวลาพี่ชายบ่นพี่ไทม์แล้วเขาเป็นคนกลางก็รู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ