ตอนที่ 17ความคิดถึงที่ไม่มีเสียง… แต่ดังก้องในหัวใจ

[สายชล]

เช้าวันอาทิตย์เป็นวันที่สุดแสนจะสบาย เป็นวันที่ผมได้นอนตื่นสาย อ้อนพี่ชายป้ายแดงของผมทั้งวัน วันนี้จะชวนพี่สายฟ้าทำอะไรดีนะ ? ผมคิดในใจอย่างอารมณ์ดีในขณะที่นอนเล่นมองกล่องดนตรีแล้วคิดอะไรเพลิน ๆ ผมมาที่นี่ในครั้งนี้กล่องดนตรีอันของผมที่เป็นของผมจริง ๆ ติดมือผมมาด้วย ผมนอนจ้องมองกล่องดนตรีของพี่สายฟ้าสลับกับของผมเนิ่นนาน

กล่องดนตรีขนาดกำลังดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปเป็นโดมใสครอบตุ๊กตากระต่าย อันของผมเป็นกระต่ายคู่ใส่เอี๊ยม ส่วนอันของพี่สายฟ้าเป็นกระต่ายคู่ที่ใส่สูททักซิโด้ เรื่องของเราสองคนน่าฉงนยังไม่พอ เจ้ากล่องดนตรีนี้มีความลับอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่หรือเปล่านะ

“เจ้ากระต่ายน้อย… คายความลับของแกมาเดี๋ยวนี้นะ” สายชลพึมพำใส่กล่องดนตรีทั้ง 2 อัน แล้วอดขำตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็นอนขำคิกคักกอดตุ๊กตารูปควายที่สายฟ้าซื้อมาให้ แล้วกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างอารมณ์ดี

ทุกการกระทำของเด็กน้อยถูกแอบมองโดยพี่ชายฝาแฝด เด็กคนนี้สดใสชะมัดเลย โลกที่เคร่งเครียดมืดมนของเขายามนี้มีเด็กน้อยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตราวกับเติมเต็มหัวใจที่แห้งแล้งในรู้สึกชุ่มฉ่ำราวกับต้นไม้ได้ฝนแรกหลังจากผ่านฤดูแล้ง…

สายฟ้าพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่ไม่ต่างจากเพนต์เฮาส์ย่านสีลม ติดตรงที่สายฟ้าเป็นคนรักสันโดษไม่ชอบอยู่ร่วมกับใครหรือแชร์ที่พักกับเพื่อน แต่เมื่อเขารู้ว่ามีน้องชายแฝดเขาจึงชวนน้องชลมาอยู่ด้วยกัน สายชลพลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่บริษัท

“เฮ้ยมึง แล้วสายชลจะยังไงดี ให้พักกับมึงหรืออยู่ที่บ้านกูดี” ดรีมเอ่ยขึ้นลอย ๆ

“อ้าวน้องกู ก็ต้องพักกับกูสิวะ สมองมึงน้อยเหมือนเดิมเลยนะดรีม” สายฟ้าแซวด้วยสีหน้านิ่ง

“อ้าว ใครมันจะไปรู้ กูเห็นมึงหวงรังจะตายห่า”

“แล้วก่อนหน้านี้ ไอ้ชลก็พักที่คอนโดฯ กูใช่ไหมล่ะ”

“ก็ใช่ แล้วกูจะไปรู้ไหมล่ะ เห็นหน้าก็เหมือนกัน ที่อยู่ก็ไม่มี มึงก็หายหัวไปไหนไม่รู้ตั้งนาน” ดรีมบ่นอุบอิบ

“ว่าแต่ช่วงนั้นเกือบ 3 เดือนตอนนั้น มึงหายไปไหนมาไอ้สายฟ้า ติดต่อก็ติดต่อไม่ได้”

“อะไรหายไปไหน ไม่มีนี่” สายฟ้าพูดพลางทำตัวมีพิรุธ มือหนารวบรวมเอกสารงานใส่เข้าแฟ้มแล้วย้ายไปเก็บไว้ในตู้

“ก็ช่วงที่สายชลมาคราวก่อนไง ก่อนที่ชลจะหายไปที่หัวหิน”

สายฟ้าทำหน้านิ่งราวกับมีอะไรในใจที่พยายามเลี่ยงที่จะไม่ตอบดรีม แต่เพื่อนสนิทก็ตามเซ้าซี้เอาคำตอบ สายชลเห็นท่าทางอึดอัดใจของพี่ชายจึงทำทีเป็นชวนคุย

“พี่สายฟ้าให้ผมไปอยู่กับพี่ดรีมก็ได้นะฮะ”

“จะแบบนั้นได้ยังไงล่ะ” สายฟ้าหันมาจ้องหน้าน้องชายแล้วขมวดคิ้วหนาจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน

“ก็พี่ดรีมบอกพี่สายฟ้ารักสันโดษ ผมสบาย ๆ อยู่ไหนก็ได้”

“ควายน้อยเอ๊ย อยู่ไหนก็ได้งั้นก็ไปอยู่กับกู… จะไปไหม”

สายชลก็พยักหน้าอย่างแรงจนดรีมแซวว่ากลัวคอจะหลุดก่อนได้ไปอยู่กับพี่มัน

“หมั่นไส้พี่น้องแฝดคู่นี้ว่ะ อะไรจะสปอยล์กันขนาดนั้น”

“ไม่ได้สิวะ กูมีน้องอยู่คนเดียว” สายฟ้าพูดพลางเอาวงแขนแกร่งกอดคอสายชล คนน้องก็ยืนยิ้มหวานให้พี่ชายแกล้งตามอำเภอใจ

หลังจากนั้นสายฟ้าก็พาน้องชายไปกินขนมตรงข้ามบริษัท ปล่อยให้ดรีมนั่งเบลออยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเหน็บของเครื่องปรับอากาศ

“อะไรกัน หนีกูเหรอสายฟ้า ไอ้สายฟ้าโว้ย สรุปหายไปไหนมา จะไปกินขนมกันเหรอ ไปด้วยสิวะ”

สายฟ้าหันมายิ้มมุมปาก แล้วยกมือหนาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนดูเซ็กซี่ พร้อมกับโบกมือลาเพื่อนคนสนิท

หลังจากที่แอบดูเด็กน้อยสายชลพูดคนเดียว นอนกลิ้งเล่นกับตุ๊กตาควายคนเดียวมาสักพัก สายฟ้าก็เดินเข้ามายังห้องของสายชล

“หลับสบายไหม…” สายฟ้าเอ่ยเสียงห้วน เดินตรงเข้ามาปลายเตียงของน้องชาย

สายชลยิ้มจนตาหยี “สบายมากที่สุดเลยครับ” แล้วจู่ ๆ ก็หุบยิ้มแสร้งทำหน้างอ ออดอ้อนสายฟ้า

สายชลกอดขาพี่ชายแล้วทิ้งตัวลงหนุนตัก “วันนี้พี่ฟ้าพาซิ่งเฮียธานินทร์ไปเที่ยวเล่นที่สยามหน่อยสิครับ” สายตาสองฝาแฝดประสานกัน ในตอนแรกสายฟ้าตั้งใจจะไม่ยอมพาคนเด็กกว่าไปเสี่ยงนั่งบิ๊กไบก์ของเขาแน่ ๆ แต่พอเจอสายตาอ้อนแบบนี้พี่ชายป้ายแดงแบบเขาก็อดที่จะเอาใจไม่ได้

สายฟ้ามักจะกังวลเกินเหตุ ไม่ค่อยชอบให้สายชลนั่งบิ๊กไบค์ แต่สายชลชอบที่จะได้นั่งซ้อนพี่สายฟ้า เพราะรู้สึกเท่ และชอบเวลามีลมมาปะทะหน้า รู้สึกสนุกแบบบอกไม่ถูก

สุดท้ายสายฟ้าก็พ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนของคนเด็กกว่า สายฟ้าใช้เวลาไม่นานก็ขับมาถึงย่านที่มีวัยรุ่นรวมตัวกันค่อนข้างมาก ร้านอาหาร เครื่องใช้ เสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย โดยปกติสายฟ้าแทบจะไม่มาเดินเล่นแบบนี้ เวลาว่างส่วนใหญ่ก็มักจะเล่นเกมออนไลน์ในมือถือซะมากกว่า แต่เอาเถอะนาน ๆ มาทีก็รู้สึกเขินไม่น้อย

ถึงแม้สายฟ้าจะนิสัยแตกต่างจากสายชลคนน้อง ทว่าทั้งสองกลับเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ อีกคนใจร้อนพร้อมบวกพร้อมลุย อีกคนก็ใจเย็นมองโลกในแง่ดีอดทนเก่งราวกับเป็นลูกของราชาน้ำแข็ง ไหนจะเป็นเรื่องอาหารที่สายฟ้าชอบกินไข่ขาว แต่สายชลชอบกินไข่แดง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามมันน่าแปลกมากที่พวกเขาเข้ากันได้ราวกับจิตวิญญาณสื่อถึงกัน…

ตอนเช้าวันนี้เป็นวันที่สายชลสดชื่นมาก พี่ไทม์ทักหาเขาตั้งแต่เช้าบอกว่ามีธุระที่ต้องทำ พวกเขาคุยกันแทบจะตลอดทำให้หัวใจของสายชลเต้นแรงมาก และหลายครั้งก็เผลออมยิ้มออกมา บางทีสายชลก็กลัวพี่สายฟ้าจะว่าเหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าพี่สายฟ้าไม่ค่อยชอบพี่ไทม์สักเท่าไร แต่เท่าที่เขารู้จักพี่ไทม์มาสักพักนอกจากทำตัวขี้เก๊กบ้างแล้ว เข้าใจยากสักหน่อย แต่ก็ไม่เห็นว่าพี่เขาจะเป็นคนไม่ดีอะไรเลย

ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง เสียงโปรแกรมแชทไอคอนสีเขียว แสดงแจ้งเตือนขึ้นมาคนตัวเล็กหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน มุมปากก็จุดยิ้มเล็ก ๆ แทบจะเก็บอาการไม่มิด

“แชทใคร ชล” จู่ ๆ สายชลก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก อ้ำอึ้งพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วจนเบาแทบจะอยู่ในลำคอ

จู่ ๆ พี่ไทม์ก็บอกว่ากำลังเดินมาหาผมที่ร้านนี้ ใครจะไปรู้ว่าจะเจอเซอร์ไพรส์แบบนี้ ก็ไหนพี่ไทม์บอกว่ามีธุระไงล่ะ เขาถามผมว่าอยู่ที่ไหนผมก็ซื่อบื้อบอกเขาไปซะหมด ตายแล้ว ตายแน่ ๆ พี่สายฟ้าจะโกรธผมไหมเนี่ย ดูสีหน้าสิคาดคั้นเหลือเกิน ไหนวะ ใครบอกว่าเราสองคนหน้าคล้ายกัน ผมไม่มีทางทำหน้าตาน่ากลัวได้หรอกน่า

“เอ่อ แชทพี่ไทม์อะครับ”

“คุยกับมันทำไม”

นั่นสิวะ คุยทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เขาทักมาอะ จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่พี่ไทม์สักหน่อย พี่ดรีม ซัน เราก็คุยกับทุกคนนั่นแหละ พูดไปก็โดนมองแรงอีก เอาวะยังไงก็ต้องบอกเดี๋ยวค่อยอ้อนพี่สายฟ้าเอาก็ได้ คิคิ เรานี่มันฉลาดจริง ๆ

“ผมบอกว่าจะมาสยามครับ” สายชลพูดพลางทำหน้าเจื่อนด้วยความที่ลืมไปว่า พี่ชายฝาแฝดตนไม่ค่อยถูกชะตากับพี่ไทม์สักเท่าไร

ติ๊ง ติ๊ง เสียงแชทดังอีกครั้ง สายชลนั่งแน่นิ่งจนพี่ชายต้องสะกิด

“เป็นอะไร…” เพิ่งคุยกันไปเองไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวนะยังไม่ทันทำใจเลย พี่ไทม์โว้ย… ทำไมมาไวจังเลย

“เอ่อคือ พี่ไทม์กำลังจะถึงร้านแล้ว”

“ไปชวนมันมาทำไม”

“ผมแค่บอกครับ ยังไม่ทันได้ชวนเลย”

“จริง ๆ นะครับ” สายชลทำตาหวานอ้อนพี่ชาย สายชลเขย่าแขนสายฟ้าเบา ๆ พร้อมกับสายตาอ้อนจนสายฟ้าได้ถอนหายใจ

สายฟ้าเอ่ยปากบ่นน้องชายได้เพียงไม่กี่คำ คนที่ไม่อยากให้มาด้วยก็เปิดประตูร้านขนมสไตล์น่ารัก เดินตรงไปที่หน้าเคาน์เตอร์สั่งมอคค่าปั่น แล้วหันมาสบตากับสายชลที่ส่งยิ้มกลับมาแบบเจื่อน ๆ

รัตติกาลแต่งตัวแตกต่างจากที่เคยเห็น เขาสวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาว ขนาดโอเวอร์ไซซ์สีครีมอ่อนมีสีฟ้าแซมเล็กน้อย กางเกงยีนขายาวสีอ่อน ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ทรงผมที่ปล่อยสบาย ๆ ไม่เซตเรียบเป๊ะเหมือนทุกครั้งที่เจอ ทำให้ใบหน้าเขาดูอ่อนวัยลงมามากกว่าอายุจริง

สายชลยิ้มพลางพยักหน้าอ้อนสายฟ้าเป็นนัยแล้วหันไปฉีกยิ้มหวานละมุนให้กับคนที่มาใหม่ “นั่งก่อนสิครับพี่ไทม์” ด้วยความที่โต๊ะในร้านขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก จึงอาจต้องนั่งใกล้ชิดกัน ในขณะที่ไทม์ลากเก้าอี้ข้าง ๆ สายชลออกมาและกำลังจะหย่อนตัวลงนั่ง

“มานั่งข้างกูนี่มา” สายฟ้าเลื่อนเก้าอี้ข้างตนเองแล้วเรียกไทม์ด้วยเสียงนิ่ง ๆ ไทม์อมยิ้มให้กับการกระทำของสายฟ้าแต่ก็ลุกขึ้นเปลี่ยนที่ตามที่สายฟ้าต้องการ

“พี่ไทม์มาได้ไง เห็นบอกว่าติดธุระนี่ฮะ”

“ก็พอดีมาเปลี่ยนสายนาฬิกาที่สยามพารากอนครับ เรียบร้อยแล้ว ก็เลยว่าง” ไทม์ถลกแขนเสื้อ พร้อมกับยกข้อมือให้ 2 พี่น้องดู

สายฟ้าขมวดคิ้วเหลือบตามองคนข้าง ๆ “เสร็จแล้วก็น่าจะกลับได้แล้ว”

“พี่ฟ้า…” สายชลลากเสียงนิ่งพร้อมมองหน้าแบบไม่สบอารมณ์

“ครับ น้องชล…” สายฟ้าทำเสียงอ่อนลงพร้อมกับสายตามองค้อน แต่สายชลก็ยังทำหน้าบึ้งตึงอยู่ทำให้สายฟ้าอดที่จะตามใจน้องไม่ได้

“ก็ได้ พี่ไม่กวนแล้วก็ได้ ทำไมต้องทำหน้าดุกูขนาดนั้นด้วย”

“ขอโทษนะครับ ที่พี่มากวนน้องชล”

“ครับ ไม่เป็นไรครับ”

“น้องชลครับ” ไทม์เรียกชื่อคนตัวเล็กเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มละมุน ไทม์พูดปากขมุบขมิบแต่ไม่ออกเสียง... คิดถึงน้องชลครับ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ