ตอนที่ 63 กาลเวลาพิเศษ แม้พร่าเลือนในความทรงจำ… แต่ชัดเจนในหัวใจ

Side story - [สายฟ้า]

นี่มันเรื่องอะไรกัน จู่ ๆ ไอ้เด็กหน้าอ่อนคนนี้เข้ามาในห้องผม และมันยังบอกว่าแม่งเป็นน้องฝาแฝดของผมอีก เออ แต่ก็น่าจะจริงละ เพราะหน้าเราสองคน เรียกได้ว่าโคตรเหมือน ขนาดพี่หน้าล็อบบี้ยังคิดว่าแม่งคือผมเลย เฮ้อ นี่มันวันซวยอะไรของ กูกันเนี่ย จะว่าไปก็แปลกนะ แทนที่ผมจะโมโหที่มันบุกรุกเข้าห้องของผมแถมยังมาเดินสำรวจไปทั่ว เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจมัน ยังมาขอข้าวกินทำตัวยังกับเราสนิทกันนักหนา แต่แปลกที่ผมก็ไม่รู้สึกอึดอัดหรืออยากจะไล่มันไปเลย หนำซ้ำยังเอ็นดูความพูดเก่งและกล้าหยอกเย้าผมด้วยซ้ำ

เพื่อนที่โรงเรียนหรือแม้แต่พวกลูกน้องพ่อ ล้วนแล้วแต่เกรงใจผมกันทั้งนั้น นอกจากดรีมแล้ว ผมก็ไม่ค่อยจะมีมุมสนุกสนาน หรือมีใครที่มาเห็นหัวหยอกเย้าผมได้หรอก เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้า เขาบอกว่าผมดูน่ากลัวเหมือนมาเฟีย

มาเฟียอะไรวะจะหล่อขนาดนี้ ยืนนิ่ง ๆ คิดว่านายแบบ หึหึ ผมไม่ได้หลงตัวเองนะแต่สาว ๆ ในเพจ Handsome boy เขาบอกกันมา ถ้าพูดถึงงานในวงการผมน่ะชอบมากกว่างานของพ่อซะอีก ถึงแม้ว่าพ่อจะมีธุรกิจที่ให้สืบทอด แต่ผมอยากใช้ชีวิตชิล ๆ เหมือนเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยคนหนึ่งแต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า เพราะอะไรน่ะเหรอ หึ ธุรกิจของพ่อผมมันออกจะเทา ๆ สักหน่อย และเขาก็ไม่มีใครช่วย พ่อจึงดึงผมไปช่วยงานตั้งแต่อายุ 17 ด้วยความที่ผมเป็นคนเงียบ ๆ อยู่แล้วเวลาสั่งการอะไร ลูกน้องพ่อก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไร คนพวกนี้น่ารำคาญชะมัด พวกมันอาจมองว่าผมเป็นแค่เด็กก็ได้มั้ง

กระทั่งวันหนึ่ง… ลูกน้องของพ่อที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ไม่ถึงปี แต่ไม่รู้ไปถูกใจอะไรพ่อเข้า พ่อจึงเลื่อนขั้นเป็นคนสนิทมอบหมายให้ทำงานสำคัญ ๆ หลายอย่าง ด้วยความที่ ‘พินิจ’ เป็นคนฉลาด ไหวพริบดี การเจรจาต่อรองเรียกได้ว่าใครคุยด้วยต้องเคลิ้มทุกราย ครึ่งปีหลังมานี้การขยายฐานธุรกิจของพ่อจึงเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งเงินนอกเงินในเรียกได้ว่าสะพัด กระทั่งพินิจถูกฝ่ายบัญชีจับได้ว่าแอบยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง มิหนำซ้ำยังแอบลักลอบส่งยาเสพติดในผับของพ่อด้วย

เพราะอย่างนี้ พ่อจึงมอบหมายให้ผมหาวิธีจัดการมันเอาให้เข็ด ให้มันสำนึก แต่อย่าให้มันถึงตาย อันที่จริงผมก็ไม่ได้จะให้ถึงตายหรอกนะ แต่คงต้องเชือดไก่ให้ลิงดูกันบ้าง

สายฟ้าในวัย 18 ปีกำลังเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งหนึ่งย่านชานเมือง เขาตรงเข้าไปหาไอ้พินิจตัวการที่ฝ่ายบัญชีแจ้งว่าเป็นคนแอบยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ถึงแม้ธุรกิจของพ่อจะเทา ๆ แต่พวกเราไม่เอาตัวเองไปพัวพันกับยาเสพติด แต่นอกจากที่ไอ้พินิจมันยักยอกเงินแล้ว ได้ข่าวว่ามันยังริอ่านใช้เส้นสายส่งยาในผับที่อยู่ในเครือหุ้นส่วนของเราอีกต่างหาก

“ยังไงมึง มีอะไรสารภาพไหม ?” สายฟ้าพูดด้วยเสียงเยือกเย็น สายตามองไอ้พินิจด้วยความอดสู

“ถุย เด็กอย่างมึงจะทำอะไรกูได้”

พลั่ก !!! สายฟ้าง้างมัดต่อยเข้าที่ปากหมา ๆ ของคนที่ถูกมัดกับเก้าอี้อย่างเต็มแรง ไอ้พินิจยังคงมองและแสยะยิ้มอย่างคนไม่สำนึกผิด

“หมัดเด็กน้อยว่ะ มีแรงแค่นี้เองหรือวะ เป็นถึงลูกเจ้าพ่อ แต่กำลังยังกับเด็กอมมือ กระจอก ฮ่า”

สายฟ้าพยายามเก็บอารมณ์อย่างถึงที่สุด สบตามองพี่ยักษ์กับพี่ใหญ่แล้วพยักหน้าเป็นที่รู้กันว่า ให้จัดการกระทืบไอ้คนทรยศนี่แทนสักหน่อย

“โอ๊ย พวกหมาหมู่ ไอ้สัตว์ เจ็บนะเว้ย ใครใช้ให้พวกมึงโง่ล่ะ โอ๊ย พอแล้ว…”

พี่ยักษ์ พี่ใหญ่ และลูกน้องอีกสามคน ก็อดทนความปากหมาของไอ้พินิจไม่ไหวจึงร่วมกันยำบาทามันจนปากหมา ๆ อ้อนวอนร้องขอชีวิต

“คุณสายฟ้า ผมขอโทษ บะ บอกให้พวกมันหยุดที ผมยังมีลูกมีเมีย และแม่ที่ต้องดูแล ถ้ามันยังกระทืบอยู่แบบนี้ ผมต้องตายคาตีนพวกมันแน่ ๆ แค่ก ๆ…”

“พวกพี่ ๆ พอแล้ว เดี๋ยวมันตายก่อน” สายฟ้าตะโกนบอกพร้อมกับยืนกอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยความนิ่งสงบ แววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์และความทุกข์ร้อนใด ๆ

พี่ยักษ์กระทืบแรง ๆ ซ้ำอีกครั้งก่อนจะตะคอกใส่หน้าคนเนรคุณ “ยังอีก มึงไม่ขอบคุณคุณสายฟ้าอีก”

“ขะ ขอบคุณครับ” ไอ้พินิจมองด้วยสายตาไม่ต่างจากหมาจนตรอก

“ยังไง มึงมีอะไรจะสารภาพไหม มึงทำงานให้ใคร” สายฟ้าลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าคนผิด พร้อมกับเค้นความจริง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาพ่อกับอาเรือง ตำรวจยศสูงคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจเทา ๆ นี้

“ยังไง จะอ้ำอึ้งอีกนานไหม กูไม่ได้ใจดีเหมือนพ่อกูนะ และความอดทนของกูก็มีไม่ได้มากพอด้วย” สายฟ้าเริ่มหงุดหงิดกับการอ้ำอึ้งของไอ้พินิจ และเขาก็ไม่ชอบบรรยากาศในโกดังร้างนี้สักเท่าไร เขาอยากจะรีบ ๆ เค้นให้จบเรื่องจบราวและจับมันส่งเข้าคุกไป

นี่อาจเป็นวิธีที่แตกต่างจากพวกเพื่อนพ่อ ถ้าเป็นคนอื่นโดนลูกน้องยักยอกเงินและมาปล่อยยานรกในเขตของตัวเอง ถูกสั่งเก็บไปแล้ว แต่ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นซึ่งพ่อก็เห็นด้วย เพราะแบบนี้ผมจึงช่วยพ่อปรับเปลี่ยนระบบต่าง ๆ นี่ อันที่จริงผมก็ไม่ใช่คนดีหรือลูกกตัญญูอะไรหรอกนะ แต่พ่ออ้างว่าป่วยต้องพักรักษาตัว และครอบครัวเรานอกจากพ่อและผมก็ไม่มีญาติที่ไหน ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องเอาตัวเองมาทำธุรกิจเทา ๆ พวกนี้ด้วย

ปัง !!! สายฟ้าชักปืนเหนี่ยวไกยิงที่ต้นแขนแกร่งของไอ้พินิจ ด้วยสีหน้าสุดเอือมระอา อันที่จริงแล้วเขาก็ไม่อยากทำร้ายมันหรอก แต่ถ้ายิงสักโป้งสองโป้ง อาจจะช่วยงัดปากมันได้ และที่ผมคาดการณ์ไว้มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ

“โอ๊ย อย่าครับ อย่า ผมยอมแล้วยอมบอกแล้ว”

สายฟ้าสั่งให้บอดี้การ์ดอัดคลิปคำสารภาพของไอ้พินิจพร้อมกับเรียกตำรวจที่เป็นพรรคพวกกันให้มาจับตัวมันเขาตาราง

“คุณสายฟ้า ผมกราบละครับ ให้ผมทำอะไรก็ได้ อย่าจับผมส่งตำรวจเลย”

“คนทรยศอย่างมึง จะให้กูเชื่อใจได้อีกหรือไง ?”

“ผมจะไม่ทำผิดพลาดอีกแล้วครับ”

“ถ้ากูเชื่อมึง กูก็โง่กว่าควายแล้ว พ่อกูพูดกี่ครั้งแล้ว ถึงธุรกิจของเรามันจะไม่ใสสะอาดจนเกือบจะเทา แต่พวกกูก็ไม่เอายานรกเข้ามาในเขตธุรกิจกู แต่มึง !!! ไอ้พินิจ มึงทำให้แหล่งธุรกิจพวกกูเต็มไปด้วยยานรกนั่น ยังมีหน้ามาพูดให้กูเชื่ออีก”

เส้นความอดทนของสายฟ้าขาดผึง เขาก่นด่าด้วยความโมโหพร้อมกับเหนี่ยวไกจ้องจะยิงคนที่เอายาเสพติดเขามาในเขตธุรกิจของพ่อ แต่มือหยาบเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน คว้าปืนจากมือเด็กหนุ่มเลือดร้อน ในขณะที่ไอ้พินิจสลบไปด้วยความเจ็บจากที่โดนรุมกระทืบและความตกใจที่โดนปืนจ่อหัว

“อาว่าพอแล้วละมั้ง ที่เหลือเดี๋ยวให้ลูกน้องอาจัดการดีกว่า ยิงมันไปก็ตายเปล่า” อาเรือง ตำรวจยศสูงพูดด้วยสีหน้าสบาย ๆ ต่างจากความโมโหถึงขีดสุดของเด็กหนุ่ม

“ทีมันทำแม่งไม่คิด ทีโดนปืนจ่อหัวเสือกตกใจเป็นลม เยี่ยวแตก”

“ฮ่า… จะโมโหไปทำไม” เสียงพ่อพูดสบาย ๆ แบบไม่ยี่หระ ในขณะที่อาเรืองส่งปืนไปให้บอดี้การ์ดของหลานชาย

“อ้าวพ่อ ไหนว่าไม่สบายเข้าโรงพยาบาล” เด็กหนุ่มเลือดร้อนพูดพลางขมวดคิ้วเป็นปม

“ถ้ากูเข้าโรงพยาบาลจริง จะเห็นลูกกูเอาปืนจ่อหัวลูกน้องคนสนิทกูหรือ ใจเอ็งมันได้ ฮ่า… ลูกกูต้องแบบนี้สิ”

“คนทรยศแบบนี้ ยังเรียกมันว่าสนิทอีก” สายฟ้าพูดพลางมองพ่อด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

“พ่อที่ไหนเขาภูมิใจที่ลูกเกือบจะยิงหัวคนอื่นกันวะ” สายฟ้าบ่นพึมพำ

“เออ สายฟ้านี่หัวรั้นเหมือนพ่อแกเลย ไม่รู้ว่าอีกคนจะหัวรั้นแบบนี้ไหมนะ ?” อาเรืองพูดแล้วจู่ ๆ ทำหน้าถอดสี พ่อก็มองหน้าอาเรืองราวกับมีความลับอะไรบางอย่างที่เป็นความลับระดับชาติกลัวจะรั่วไหล

แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย กระทั่งมานั่งมองสายชลกินขนมปังทูน่าด้วยท่าทางอย่างกับเด็กน้อย เออกูนี่ก็ท่าจะบ้า ทำไมมาคิดถึงเรื่องโหด ๆ ตอนเห็นหน้าเด็กสายชลอยู่ในโหมดมุ้งมิ้งวะ แม่งไม่เข้ากันเลย

ปกติแล้วนอกจากผู้ชายลึกลับในฝันคนนั้น ก็ไม่มีใครที่ไหนทำให้ผมรู้สึกอยากจะปกป้องและทะนุถนอมมาก่อนเลย ทั้งที่เราไม่เคยเจอกัน แต่ทำไมรู้สึกผูกพันกับไอ้เด็กสายชลอย่างน่าประหลาด

กริ๊ง กริ๊ง…

ดนัย หรือผมชอบเรียกมันว่า ‘ไอ้ดรีม’ มันเดินเข้ามาในมือถืออาหารมาเยอะแยะ ไอ้นี่เป็นเพื่อนที่มันรู้เรื่องราวของผมแทบทุกอย่าง แต่มันก็ไม่เคยที่จะรังเกียจ กลัว หนำซ้ำมันยังเล่นหัวผมอีก ดรีมเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ผมไว้ใจ ถึงฐานะทางบ้านมันจะไม่ค่อยดีมากนัก มันออกจะเป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมรวย ฮ่า…

ตอนนี้ไอ้ดรีมยืนเอ๋อแดก มองหน้าผมสลับกับสายชลไปมา ก็น่าจะตกใจอยู่หรอกนะแวบแรกที่ผมเห็นก็เกือบวิ่งหนีแล้วเหมือนกัน

แต่สายชลนี่มันเป็นใครมาจากไหนวะ มันดูรู้เรื่องพวกเราดีจัง หรือว่าจะเป็นฝาแฝดจริง ๆ แต่คู่อริพ่อเก็บไปเลี้ยงเหมือนในหนัง แล้วมันหนีมาได้ เออหรือจะเป็นแบบนั้นวะ ดูมันก็ผอมแห้งแรงน้อยกินเก่งใช่ย่อย หรือคนที่เลี้ยงดูมันปล่อยให้มันอดยากวะ มันเลยหนีมาหาผม… ว่าแต่มันรู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่ ถ้ามันรู้ว่าผมเป็นพี่มันจริง ๆ ทำไมมันเพิ่งโผล่มาตอนนี้วะ

สายฟ้าลอบมองพฤติกรรมสายชลขณะอยู่ในห้อง รวมถึงเวลาคุยกับเพื่อนซี้ และดูท่าทีแล้วไอ้เด็กหน้าอ่อนนี้ก็ดูซื่อ ๆ โง่ ๆ ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ มันบังอาจมารู้เรื่องน้อง ๆ ตุ๊กตากูที่อุตส่าห์เก็บไว้ในลิ้นชัก

“มึงรู้ความลับกู”

“อื้มใช่”

“เล่ามา…”

“เฮ้ย ไอ้ฟ้าใจเย็นคุยกับน้องมันดี ๆ ก็ได้ ตัวมันก็แค่นี้”

“พี่ดรีม เอาใจผมไปเลยฮะ” สายชลฉีกยิ้มกว้าง เอามือตบอกแล้วชูมินิฮาร์ทให้พี่ดรีม ขณะที่ดรีมและสายฟ้ายังคงมึนงงทำหน้าไม่ถูก

“อะให้พี่ฟ้าด้วย เดี๋ยวน้อยใจหัวล้านนะ” สายชลชูมินิฮาร์ทให้สายฟ้า

“เออ สัตว์พอละ จะเล่าได้ยัง”

“เดี๋ยว…” ดรีมเรียกเสียงดัง

“อะไรอีก” สายฟ้าตะวาดลั่น

“ทีกูด่าเอา ด่าเอา ทีกับน้องทำเสียงสอง กูไม่เคยเห็นมึงใจอ่อนกับใครเลยนี่นา” ดรีมพูดพลางขมวดคิ้วจ้องจับผิด

“ยังไง เรื่องมันเป็นยังไงสายชล”

“เรื่องที่ชลจะบอก มันออกจะดูเกินจริงสักนิดนึงนะครับ” สายชลดึงสีหน้าจริงจังพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่ทำให้ผมแทบอยากจะเอาตีนก่ายหน้าผาก ‘นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันวะ’

ไอ้ชลมันเล่าว่ามันบังเอิญข้ามเวลาไปอนาคตได้ แล้วมันก็เจอกับผมและไอ้ดรีมอีก 8 ปีข้างหน้า ผมเป็นนายแบบ ดรีมเป็นผู้จัดการ เราเปิดบริษัทออร์แกไนซ์ด้วยกัน ไม่สิ มีคนชื่อสองอีกคน แล้วแม่งเป็นใครกันวะ ?

สายชลเล่าว่ามันต้องตายตอนอยู่ปี 1 เดือนสิงหาคม แล้วทำไมมันต้องตายด้วย ยิ่งฟังก็ยิ่งงง และดูเหมือนผมกับน้องมันความสัมพันธ์ดีต่อกันมาก คนอย่างผมจะอ่อนโยนกับใครได้ขนาดนั้นเลยหรือวะ ? แต่เรื่องที่มันพูดมาทั้งหมดถึงไอ้ดรีมจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่จริง น้องมันอาจจะประสาทหรือเปล่า

แต่สายชลบอกว่าเคยเจอคุณรุจ ผู้ชายลึกลับคนที่ผมหลงรักมาตลอด ใครจะว่ายังไงแต่กับคำพูดของไอ้เด็กคนนี้ผมเชื่อเกินครึ่ง นอกจากผมไม่มีใครรู้เรื่องคุณรุจบุรุษลึกลับในร้านกาลเวลาอย่างแน่นอน และเรื่องกล่องดนตรีที่คล้ายกันนั่นอีก

“พี่สายฟ้า เชื่อผมไหม” สายชลมองผมด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ผมอยากจะหัวเราะหน้าซีด ๆ เป็นเต้าหู้ของมันจริง ๆ มาเล่าเรื่องเหลือเชื่อให้คนอื่นเขาฟัง แต่ตัวมันเองยังไม่มั่นใจเลยว่าคนฟังจะเชื่อไหม เด็กคนนี้มันน่าเอ็นดูน่าแกล้งซะจริง ๆ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ