ก๊อก ก๊อก
“น้องชลพี่แวะเอายากับขนมมาให้” รัตติกาลเปิดประตูเข้ามา กวาดสายตาทั่วห้องแต่ก็ไร้วี่แววของสายชล
ดวงอาทิตย์กลมโตลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าสีครามปนม่วงดูน่าหดหู่กว่าวันไหน ๆ แอร์เย็นเฉียบภายในโรงแรมหรู ส่งให้บรรยากาศกดดันกว่าเดิม ทำให้ทั้งดรีมและราเชนทร์ ต่างรู้สึกตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดใจอย่างยิ่ง
“ใจเย็นก่อนครับคุณไทม์ ผมให้น้อง ๆ ทีมงานบางคนช่วยกันหาแล้วอาจออกไปเดินเล่นก็ได้นะครับ ผมไม่อยากให้สปอนเซอร์หรือคนรู้เรื่องเยอะเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เหลือแค่เดินแบบปิดงานก็จบแล้ว” ดรีมพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แต่แฝงไปด้วยความกดดัน ขณะที่ดรีม ราเชนทร์ รวมถึงรัตติกาลต่างคิดวิธีหาสายชลที่หายไป ดรีมเดินสำรวจรอบห้อง นอกจากระเบียงที่เปิดอ้ารับลมทะเลในตอนแรกที่เข้ามายังห้องแล้ว ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอย่างอื่นเลย นอกจากกล่องดนตรี ใช่แล้วกล่องดนตรี ดรีมค้นตามกระเป๋าที่นอน ใต้หมอนก็ไม่เจอกล่องดนตรี เจอแต่โทรศัพท์มือถือและแล็บท็อป ของส่วนตัวอื่น ๆ ก็อยู่ครบหมด สิ่งที่หายไปคือกล่องดนตรีเท่านั้น
สายชลเคยบอกเรื่องที่ไม่ใช่คนในห้วงเวลานี้ ตัวดรีมเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้ามันเป็นเรื่องจริงสายชลจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ปลอดภัยดีใช่ไหม ? ถ้าสายชลกลับไปห้วงเวลาที่จากมาแล้ว สายฟ้าล่ะ สายฟ้ากลับมาแล้วหรือยังนะ ถ้าดรีมเดาไม่ผิด สองคนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันแน่ ๆ ว่าแต่มันคืออะไรกันล่ะ !?
“เดี๋ยวผมมานะครับ พวกคุณแยกกันหาก็ได้ ถ้าเจอแล้วโทร.หาผมด้วยนะครับ” ดรีมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
“ต้องยกเลิกงานคืนนี้ไหมวะเชน” ไทม์มองหน้าเชนด้วยความกังวล
“ไม่เป็นไร ถ้าใกล้เวลาแล้วยังไม่เจอเดี๋ยวกูจัดการให้ ว่าแต่ทำไมมึงดูร้อนรนจัง ปกติไม่เห็นแคร์งานพวกนี้เลย”
“เออเหอะน่า เรื่องของกู” ไทม์ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“คุณจะไปไหน ให้ผมไปด้วยไหม” เชนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง พร้อมกับส่งสายตาหวานใส่ดรีม
“ไม่เป็นไรคุณ เดี๋ยวไปธุระส่วนตัวแป๊บนึง” ดรีมพูดแล้วก้าวฉับ ๆ เดินออกจากห้องไป เขาลองขับรถถวนรถดูแถว ๆ นั้นหวังลึก ๆ จะพบเด็กดื้อที่หายตัวไป
ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือสั่นอย่างรุนแรงแสงจากหน้าจอปรากฏชื่อคนที่ไม่คาดคิด
“ฮัลโหล…” ดรีมรีบกรอกเสียงไปยังปลายสายด้วยความตื่นเต้น
“ไอ้ดรีม ทำไมมึงรับสายช้าจังวะ กูมีเรื่องอะไรจะคุยกับมึง อยู่ไหนเนี่ย”
“เออกูก็มีเรื่องจะคุยกับมึงเหมือนกัน มึงแหละอยู่ที่ไหน”
“กูก็อยู่ห้องไง แต่ทำไมห้องกูมันไม่ค่อยเหมือนเดิมวะ… แต่ช่างเหอะมึงอยู่ไหน”
“กูมาถ่ายงานกับคุณแพมที่หัวหิน”
“อ้าว กูบอกแล้วว่ากูไม่รับนี่ กูเกลียดขี้หน้าไอ้ไทม์ แล้วไปถ่ายกับใคร”
“เรื่องมันยาวมากอะ ตอนนี้กูยุ่งมากด้วย ยังไงดี…”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูขี่บิกไบก์กูไปเอง กุญแจอยู่ไหนวะ มึงรู้ไหม กูหาไม่เจอ”
“มันไกลนะมึง เดี๋ยวกู…”
“กู ถาม ว่า กุญแจ อยู่ ที่ ไหน” สายฟ้าเค้นเสียงคาดคั้นถาม
“เออ อยู่ในลิ้นชักหน้าทีวี มึงขับระวังนะเว้ย” ว่าจบแล้วเขาก็รีบวางสายในทันที
“ไอ้เวรเอ๊ย ไม่เคยฟังกันเลย หน้าเหมือนกันอย่างเดียวสันดานต่างกันราวฟ้ากับเหว” ดรีมสบถออกมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
เวลา 20.35 น.
“เฮ้ยมึง มานี่แป๊บสิ กูมีเรื่องอยากปรึกษา” ดรีมมองหน้าเชนแล้วกระทุ้งศอกเบา ๆ
“ตรงนี้ก็ได้ ว่าไง” เชนเลิกคิ้ว พลางยกยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก
“กูจริงจังนะ มานี่แป๊บนึง”
“แล้วผมไม่จริงจังตรงไหน ถ้าเป็นเรื่องของคุณ ผมจริงจังเสมอแหละ”
“โอ๊ยมึง มันใช่เวลามาหยอดเหรอวะ”
“แล้ว… เวลาไหนได้บ้าง คืนนี้ไหม”
“ไอ้เชน !!!”
“โอเค จะไปไหน”
ดรีมกึ่งจูงกึ่งลากราเชนทร์ไปที่ห้องพักของสายชล หันซ้ายหันขวาก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วรีบปิดอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายร่างสูงงุนงงในการกระทำของดรีมเป็นอย่างมาก ทว่าต้องตกใจเมื่อเห็นชายใส่เสื้อหนังสีดำ ผมถูกเซตลวก ๆ พร้อมกับใบหน้าหวานที่ดูเคร่งขรึม สายตาก้าวร้าวพร้อมมีเรื่องตลอดเวลา
“สายชลเหรอ !?” เชนมองพร้อมกับขมวดคิ้วเนื่องจากไม่คุ้นกับลุคนี้ของอีกฝ่าย และดูคนตรงหน้าแล้วไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร
“ไอ้ดรีม มึงพาไอ้เหี้ยนี่มาทำไม”
“ไอ้ฟ้าใจเย็นก่อนนะมึง… คือไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มึงช่วยเดินแบบแทนไปก่อนได้ไหม”
“นี่มันอะไรกันคุณ นี่ไม่ใช่สายชลเหรอ” เชนพลางมองเหล่ตาไปยังคนหัวเสียที่โวยวายเสียงดังอยู่ในห้อง
“คือเรื่องอื่นค่อยว่ากันได้ไหม เอางานให้มันจบก่อน เดินไม่ถึง 15 นาทีเลยมึง ระดับมึงแล้วไม่พลาดหรอกเรื่องแค่นี้”
“คุณพูดอะไรหน่อยสิ” ดรีมกระทุ้งศอกใส่หน้าท้องหนาของเชนเป็นเชิงให้ช่วยพูด ในขณะที่สายฟ้ายังคงทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่
“คุณสายฟ้า ผมจะไม่เกลี้ยกล่อมอะไรคุณนะ… แต่ผมคิดว่าคุณน่าจะมีความรับผิดชอบและเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้” เชนพูดพลางมองสายฟ้าด้วยสายตาเย้ยหยัน
สายฟ้าพุ่งเข้ามากระชากคอเชน ง้างมือพร้อมจะกระแทกหมัดลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่น
“ได้ข่าวว่าตอนนี้บริษัทอยู่ในช่วงขาลงนี่” เชนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“จะเป็นยังไงมันก็เรื่องของบริษัทกู”
“ให้งานนี้มันจบไปก่อน ทางแมกาซีนเรามีโพรเจกต์ใหญ่อยากจะเสนอ”
“ทำไมกูต้องขอความช่วยเหลือจากพวกมึงด้วย”
“เอาน่า” เชนส่งหางตาไปยังดรีมพร้อมกับขยิบตาหวานใส่
“ตามึงเป็นเหี้ยไร ขยิบตาใส่เพื่อนกูทำไม”
“เอ่อ สายฟ้า… กูว่าแบบนั้นก็ดีนะมึง งานนี้ได้เยอะนะ ไม่อยากให้เสียงาน”
“มึงอะหน้าเงินตลอดดรีม”
“พูดแบบนี้กับฝ่ายการตลาดอย่างกูได้ไงกัน ถ้าไม่มีเงินแล้วบริษัทพวกเราจะอยู่ยังไง”
“แล้วไอ้เหี้ยสองไปไหน ทำไมไม่มาช่วยมึง”
“ไอ้สองไปดีลอีกงานที่ภูเก็ตอยู่ ตอนนี้งานเล็กงานใหญ่ก็ต้องรับหมดแหละ มึงก็รู้”
“แล้วจะให้กูเดินแบบอะไร จะไม่มีปัญหาเหรอ ถ้าเปลี่ยนตัวกะทันหัน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ไอ้เชนมันรู้จักเจ้าของงานมันช่วยได้ ใช่ไหมมึง”
“ช่วยดีไหมนะ”
“ไอ้สัตว์ มึงอย่ามากวนตีน”
“ช่วยแล้วกูจะได้อะไรนะ”
“มึงมันคนหวังผล เดี๋ยวค่อยว่ากัน คุยให้ก่อน” ดรีมมองหน้าราเชนทร์แบบคาดโทษ แต่ก็ต้องยอมเพราะเชนเป็นแฟนเก่าของคุณพลอยเจ้าของงานนี้ เป็นไปตามคาดการงานที่เกิดขึ้นผ่านด้วยดีไม่มีปัญหาอย่างที่คาดคิด ทั้งยังได้เวลาเพิ่มสำหรับการเตรียมตัวอีกครึ่งชั่วโมง พอที่จะกล่อมให้คนหัวร้อนใจเย็นลงได้
“ส่วนมึงไปแต่งหน้าเซตผมกับกูไป ทีมงานรออยู่”
สายฟ้าเดินตามดรีมไปด้วยทีท่านิ่งเฉยแม้ในใจจะหงุดหงิดแทบคลั่ง เพราะเจ้าตัวไม่อยากร่วมงานกับไทม์ คนที่เคยมีเรื่องกันสมัยเขาอยู่มหาวิทยาลัย ถึงจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่หากเขาเลือกได้ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ หรือร่วมงานกับมันอยู่ดี
สายฟ้าเข้ามายังห้องแต่งตัวก็เห็นว่าทุกคนกำลังวิ่งวุ่น บรรยากาศเดิม ๆ ที่เจอบ่อยข้างหลังฉาก แต่วันนี้มันกลับแปลกไปที่จู่ ๆ ไอ้ไทม์มันพุ่งตัวเข้ามากอดเขาท่ามกลางคนเยอะแยะ
“ชล หายไปไหนมาพี่กับทุกคนหากันแทบแย่” ไทม์มองสายฟ้าด้วยสายตาอบอุ่นพร้อมลูบหัวเบา ๆ แต่กลับถูกผลักออกอย่างแรง
“มึงทำเหี้ยอะไรของมึง” สายฟ้าตวาดไทม์ดังจนทุกคนหันมาเป็นทางเดียวกัน
“สายชล เป็นอะไรหรือเปล่า” รัตติกาลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง สายตาสับสนหันไปหาดรีม และเชน ด้วยสายตางุงงง
“กูชื่อสายฟ้า คนที่มึงเคยปาดหน้างานกูในงานประกวดเมื่อ 5 ปีก่อนไง คุ้นไหม” สายฟ้าพูดกระซิบเบา ๆ จบแล้วเดินไปนั่งประจำที่เตรียมแต่งหน้าแต่งตัว
“ไอ้เชน นี่มันอะไรกันวะ แล้วสายชลหายไปไหน”
“ยังหาไม่เจอ” เชนตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“กูไม่อยากเดินแบบคู่กับมัน แล้วธีมคู่จิ้นฟินเวอร์ห่าไรนี่อีก มึงก็รู้”
“อื้อ”
“แล้ว…?”
“วันนี้เป็นธีมเท่ทะเลเดือดแทน เดี๋ยวให้คุณดรีมบรีฟให้แล้วกัน”
“มึงก็บอกกูเองไม่ได้ไง”
“เอาน่า”
เวทีถูกจัดอย่างละเมียดละไมด้วยบรรยากาศสบายกลางแจ้งที่ด้านหลังโรงแรมฝั่งติดชายหาด บรรยากาศแสนโรแมนติกทางเข้าจัดด้วยซุ้มดอกไม้สดส่งกลิ่นหอมหวาน รอบเวทีประดับด้วยไฟสีส้มอ่อน ตกแต่งแถบผ้าสีขาวสลับสีฟ้าตกแต่งไปทั่วงาน ลมทะเลส่งให้ผ้าที่ถูกตกแต่งพลิ้วปลิวสะบัด อาหารและเครื่องดื่มถูกจัดวางไว้อย่างน่ารับประทาน ดนตรีบรรเลงเพลงอะคูสติกฟังสบายหู
“ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้นะคะ โดยเฉพาะเธอคนนี้ คุณลัลลาณี กฤตโชติเลิศพงษ์ หรือคุณพลอย สาวสวยคนเก่งผู้รังสรรค์คอลเลคชั่นสวย ๆ ที่ให้เราได้ชมวันนี้ด้วยนะคะ”
“คุณพลอยคะ เชิญกล่าวอะไรสักเล็กน้อยเปิดงานหน่อยค่ะ” พิธีกรเสียงใสเรียกลัลลาณีขึ้นมาบนเวที
“ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมงานในวันนี้นะคะ คลอเลคชั่นนี้พลอยตั้งใจอย่างมากที่จะออกแบบให้ใส่ได้ทุกเพศ ด้วยธีมสีที่เข้ากับวัยรุ่นและวัยทำงาน....”
“คุณเชนครับ รบกวนนำดอกไม้ขึ้นไปมอบให้คุณพลอยหน่อยได้ไหมครับ” ทีมงานเดินมาหาราเชนทร์ด้วยท่าทางรีบร้อน
“เอ่อ ก็ได้ครับ” ราเชนทร์รับช่อดอกไม้มาถือไว้พร้อมกับเดินไปยังหน้าเวที
ลัลลาณีส่งสายตาหวานมายังราเชนทร์พร้อมกับยิ้มรับกล้องที่นักข่าวประโคมถ่าย
“ดอกไม้สวย ๆ จากทีมงานครับ” ราเชนทร์เอ่ยเสียงเรียบ พลางมอบดอกไม้ให้ดีไซน์เนอร์สาวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ผละตัวลงจากเวทีทันทีที่เห็นสายตาของดรีมจ้องมองมาแล้วก็หายเข้าไปในล็อบบี้โรงแรม
เสียงดนตรีจังหวะหนักหน่วงดึงดูดความสนใจทุกคนในงานได้เป็นอย่างดี รัตติกาลเดินเข้ามายังซุ้มที่ถูกจัดไว้หน้างานด้วยชุดหนังสีดำเท่บาดใจ เสื้อด้านในเป็นสีสดใสรับซัมเมอร์เมื่อใส่คู่กับเสื้อหนังแล้วยิ่งขับทำให้ไทม์ดูโดดเด่น เพียงแค่ไทม์เดินเข้ามาในงานก็สร้างเสียงฮือฮาให้กับนักข่าวและสปอนเซอร์ในงานเป็นอย่างมาก ร่างสูงโปร่งเดินขึ้นไปบนเวทีและโพสท่าค้างไว้
ในขณะที่เพลงกำลังเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร่าร้อน เสียงมอเตอร์ไซค์บิกไบก์ของสายฟ้าก็ดังขึ้นที่ทางเข้างาน หมวกกันน็อคถูกถอดอย่างง่ายดาย สายฟ้าเดินเข้ามายังหน้าเวทีอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสงสัยของทีมงานและนักข่าว
“อ้าว ใช่น้องสายชลหรือเปล่า”
“ใช่มั้ง เปลี่ยนลุคใหม่หรือเปล่า”
“แต่ฉันว่านี่คุณสายฟ้าตัวจริงแน่นอน”
“คุณสายฟ้าจ้ะพวกหล่อน ดูคุณธานินทร์สิ หล่อเสียงเข้มขนาดนั้น”
“คุณธานินทร์ไหนอะแก...”
“นักข่าวบันเทิงจริงปะนี่พวกหล่อน คุณธานินทร์ก็บิกไบก์คันเท่นั่นไง”
“อ้าวแล้วน้องสายชล คนน่ารักของฉันหายไปไหนซะแล้วล่ะ”
“เอาจริง ๆ หน้าเหมือนกันมากเลยนะ หรือว่าเป็นแฝดกัน ?”
นักข่าวต่างพูดถึงนายแบบของงานในวันนี้ไม่ขาดปาก แน่นอนว่างานผ่านไปด้วยดีในขณะที่แทบไม่มีใครสงสัยว่าสายชลหายไปไหน ทั้งไทม์ และสายฟ้าเดินแบบปิดงานท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องของนักข่าวที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนธีมงานกะทันหัน
“คุณดรีม ยังติดต่อสายชลไม่ได้เลยเหรอ” รัตติกาลพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
“คุณไทม์ ถ้าสมมุติเฉย ๆ นะครับ สมมุมติว่าคุณอาจจะไม่ได้เจอสายชลอีกแล้วล่ะครับ” ดรีมพูดด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ
“ไม่มีทาง นั่นเพื่อนคุณนะคุณดรีม ทำไมพูดแบบนั้น” ไทม์ทำหน้าเคร่งเครียด
“ก็แค่สมมุติเฉย ๆ ครับ”
“คุณรู้อะไรมาหรือเปล่า คุณรู้อะไรมาบอกผมเถอะนะครับ” ไทม์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“จริง ๆ งานก็จบแล้วนะครับ เรื่องของสายชลเดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” ดรีมกอดอกพูดพลางบอกกับไทม์ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ได้หรอกครับ”
“อะไรคือไม่ได้ครับคุณไทม์”
“ผมสัญญากับสายชลไว้แล้ว ผมจะดูแลน้องไปตลอด” ขณะที่ราเชนทร์กับสายฟ้าเดินตรงเข้ามาหาดรีม บรรยากาศก็ยิ่งกดดันอึดอัดถาโถมเข้ามายังกลางอก ดรีมคว้ากุญแจรถพร้อมกับเดินกึ่งวิ่งหนี ทิ้งให้ทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“เฮ้ย จะไปไหน” สายฟ้าตะโกนตามหลัง
“อย่าเพิ่งไปสิครับดรีม” ไทม์เรียกอย่างคนท้อแท้
“เฮ้อ...” ราเชนทร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?