ภายในร้านกาแฟยอดฮิตหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแถวสามย่าน กลิ่นกาแฟคั่วบดกลิ่นเข้มข้นลอยฟุ้งออกมาจากเครื่องชงแรงดันผสานกับกลิ่นเบเกอรี่หอมกรุ่นที่เพิ่งออกจากเตาทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อุณหภูมิที่พอเหมาะไม่หนาวจนเกินไปยิ่งทำให้สายชลชอบร้านกรุ่นกาแฟแห่งนี้มากที่สุด เสียงเพลงสไตล์บอสซัมเปิดคลอเบา ๆ แทนที่เขาจะรู้สึกผ่อนคลาย ทว่ากลับตื่นเต้นจนหัวใจหวั่นไหวเมื่อเพลงที่ได้ยินนั้นเป็นเพลงเดียวกันกับที่รัตติกาลเล่นเปียโนเพลงนี้ให้เขาฟังเมื่อเดือนก่อน
‘ผมตกหลุมรักคนเดิมซ้ำ ๆ ไม่เกินจริง นี่สินะ ที่พี่ดรีมชอบแซวว่าผมเป็นคนคลั่งรัก’
สายชลแหงนหน้าขึ้นไปยังชั้นลอยซึ่งเป็นที่ประจำของเขาสองคนแล้วต้องยิ้มออกมาด้วยหัวใจพองโตเมื่อเห็นไทม์ขมวดคิ้วเข้มอ่านบางอย่างอยู่บนโต๊ะ เขารีบตรงไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปหาคนรักที่นั่งทำงานรออยู่ด้านบน ภาพที่เห็นตรงหน้าไทม์กำลังนั่งทำตัวยุ่งบนโต๊ะ หน้าจอไอแพดเปิดแสดงตารางงานเอาไว้ ท่าทางตอนที่คนตรงหน้ากำลังทำงานมีผลให้หัวใจของสายชลรู้สึกหวั่นไหว
“พี่ไทม์รอนานไหมครับ”
ทันทีที่เสียงสดใสคุ้นเคยเอ่ยทัก คนที่กำลังจดจ่อกับงานตรงหน้าก็วางทุกสิ่งเอาไว้บนโต๊ะแล้วลุกขึ้นมากอดคนมาใหม่ชนิดที่ไม่สนสายตาคนที่มองพวกเขาเป็นสายตาเดียวกัน
“พี่ไทม์ทำอะไรน่ะ คนมองเราหมดแล้วนะครับ” สายชลกระซิบด้วยน้ำเสียงขวยเขิน พวงแก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เขาผลักอกแกร่งออกอย่างเบามือ ยิ้มอย่างอาย ๆ นั่งลงตรงข้ามแล้วเม้มปากแน่น
“ก็คิดถึงนี่ครับ ไม่ได้เจอหนูตั้งอาทิตย์กว่า”
“แต่เราก็วิดีโอคอลกันทุกคืนนี่ครับ”
“มันไม่เหมือนกันนี่... ได้เห็นหน้า จับแก้มนิ่ม ๆ แบบนี้ก็ได้ หรือจะ...”
“พะ… พอเลยครับ คนเยอะแยะพี่ไทม์เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้”
ไม่ว่าจะกี่ครั้งสายชลก็แพ้สายตาคู่นี้ของไทม์ แพ้น้ำเสียงออดอ้อน แพ้ทุกอย่างที่เป็นเขา
“เคยได้ยินไหมครับ คนมีความรักจะดูเด็กลง”
ยิ่งไทม์เห็นว่าสายชลเขินกับคำพูดหวานที่ออกไปทางเลี่ยนจนเกินพอดี แทนที่เขาจะเปลี่ยนเรื่องกลับยิ่งกระเซ้าหยอดคำหวานอย่างที่ไม่คิดจะประหยัดคำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สายชลระบายยิ้มบาง แสร้งเปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อ ๆ “พี่ไทม์มารอนานหรือยังครับ”
“ชั่วโมงกว่าแล้วครับ” ไทม์เห็นหน้าสายชลดูกังวลจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะกลมเบา ๆ” แต่ก็เอางานมาทำด้วยครับ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”
“น้องขอโทษนะฮะ พี่ไทม์รอน้องนานเลย พอดีอาจารย์เพิ่งแจ้งว่าจะเข้าสอนช้า”
ถึงไทม์จะไม่คิดมากเรื่องต้องมานั่งรอเขานานเป็นชั่วโมง ทว่าสายชลก็อดที่จะรู้สึกเกรงใจคนตรงหน้าไม่ได้ ตอนนี้ไทม์เป็นถึงท่านประธานบริษัทใหญ่ยักษ์ สายชลรู้แก่ใจดีว่าเวลาของคนตรงหน้ามีค่ามากแค่ไหน แต่ท่านประธานกลับมานั่งรอเด็กนักศึกษาอย่างเขาเนี่ยนะ ‘แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไงกัน’
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ได้ออกมาทำงานนอกสถานที่แบบนี้ก็ได้บรรยากาศดีนะครับ” ท่านประธานตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วหยิกแก้มกลม ๆ ของเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“แล้วโดดงานมาแบบนี้ไม่เป็นอะไรเหรอครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้เชนมันรับจบทุกงานให้พี่แล้ว” ไทม์หัวเราะหึในลำคอเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เขามัดมือชกเพื่อนรักแล้วออกจากออฟฟิศมาอย่างหน้าตาเฉย เขาขยิบตาหวานส่งให้เด็กหนุ่มที่นั่งตาแป๋วอยู่ตรงหน้า
สายชลแสร้งทำหน้าดุ ตีแขนคนเจ้าเล่ห์เบา ๆ “พี่ไทม์เอาเปรียบเพื่อนอีกแล้วนะ”
“น้องเคยเห็นไอ้ราเชนทร์แค่ไม่กี่ครั้งเองทำไมแซวว่าพี่เอาเปรียบเพื่อนล่ะ พี่เนี่ยเป็นทั้งเพื่อนทั้งเจ้านายที่โคตรเพอร์เฟกต์ที่สุดแล้ว”
“โอ้โฮ ยังดึงเข้ามาชมตัวเองได้” สายชลบ่นอุบอิบเบา ๆ ด้วยท่าทางไม่จริงจัง
“หนูบ่นอะไรงึมงำครับ ไอ้เชนน่ะมือขวาพี่เลยนะ เห็นมันบอกว่าจะลาออกไปเปิดบริษัทเองแล้วเนี่ย”
“ก็เพราะพี่ไทม์ใช้งานเพื่อนหนักหรือเปล่าครับ” สายชลอมยิ้มหวานสบตาคนตรงหน้าแล้วเอียงศีรษะกลมเล็กน้อย เมื่อย้อนนึกถึงความสัมพันธ์ของราเชนทร์ซึ่งเป็นเพื่อนซี้เพียงคนเดียวของไทม์ ซ้ำเขาคนนั้นยังเป็นคนสนิทของดรีมอีก ‘เอ๊ะ แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องในห้วงอนาคตนี่นะ บางทีเขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า คุณราเชนทร์กับพี่ดรีมจะได้ลงเอยกันแบบเดิมไหมนะ ?’
“หนูมองหน้าพี่แล้วยิ้มแบบนี้ หลงพี่แล้วใช่ไหมล่ะ” ไทม์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“นั่นไงหลงตัวเองชะมัด” สายชลแซวคนรักด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไรไทม์เป็นต้องดึงเข้ามาชมตัวเองได้ตลอด หรือนี่จะเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของไทม์กันนะ
“เมื่อก่อนอาจจะแค่หลงตัวเอง แต่ตอนนี้ก็มีหนูไงครับ... ที่หลงพี่ หลงรักแบบหัวปักหัวปำใช่ไหมครับ”
“เฮ้อ พี่ไทม์ น้องเริ่มเหนื่อยใจกับพี่แล้วนะ” ถึงสายชลจะพูดแบบนั้นแต่ใบหน้ากลับสดใสแย้มยิ้ม เขายอมรับว่าเคยเห็นคนตรงหน้าในหลาย ๆ แบบ ทั้งเป็นคนนิ่งขรึม เป็นผู้ชายกวนประสาทขี้แกล้ง และเป็นคนที่อบอุ่นละมุนหัวใจ หรือแม้แต่เป็นคนห่วงภาพลักษณ์เช่นตอนนี้
“ว่าแต่เมื่อกี้ น้องมองหน้าพี่นั่งเหม่อคิดอะไรอยู่หรือครับ”
“คิดเรื่องพี่ไทม์กับคุณราเชนทร์น่ะครับ”
“อย่าบอกนะ... ว่าน้องคิดว่าพี่กับไอ้เชน” ไทม์หรี่ตามองเด็กน้อยด้วยสายตาคาดคั้น หัวคิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ เอ๊ะ หรือว่าระหว่างพี่ไทม์กับคุณราเชนทร์มีอะไรมากกว่านั้น” สายชลหรี่ตามองไทม์อย่างจ้องจับผิด “ผมดูออกนะว่าพี่ไทม์กังวลที่คุณราเชนทร์จะแยกออกไปเปิดบริษัทใช่ไหมครับ”
“จริง ๆ แล้วตอนนี้ไอ้เชนมันก็ทำงานบริษัทของมันควบไปด้วย พี่รู้ว่ามันเป็นห่วงพี่ก็เลยยังอยู่ช่วย แต่สุดท้ายมันก็ต้องไปทำตามความฝันของมันนั่นละ” ไทม์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาแฝงไปด้วยความยินดีที่เพื่อนรักของตนได้ทำในสิ่งที่ชอบ
“แล้วทำไมหนูถึงมองพี่สายตาแปลก ๆ แบบนั้นล่ะ... ยิ้มอะไรครับ” ไทม์ขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง
“เห็นพี่สองคนสนิทกัน เป็นห่วงกันแบบนี้ มันก็อดจิ้นไม่ได้จริง ๆ นะครับเนี่ย...”
“นี่หนูหยุดความคิดนั้นไปได้เลย ฟ้าผ่าเอาได้เลยนะครับ เราเนี่ยซนจริง ๆ แค่พี่คิดก็ขนลุกซู่แล้ว พี่กับไอ้เชนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่ต่างประเทศน่ะ”
“ผมก็ไม่ว่าอะไรสักหน่อย” สายชลหยอกเอินเสียงสูงแล้วขำคิกคักอย่างชอบใจ
ไทม์ระบายยิ้มเขิน ๆ แล้วเอื้อมมือหยิกแก้มสายชลอย่างมันเขี้ยว
“น้องเจ็บนะครับ”
“ดื้อใหญ่แล้วนะหนู... เที่ยวเอาพี่ไปจิ้นกับใครต่อใคร เดี๋ยวเถอะ พี่จะทำโทษหนู”
“ทำโทษเหรอครับ... ก็มาดิครับ ทำโทษไม่กลัว กลัวพี่ไทม์จะไม่ทำโทษ” สายชลทำหน้าตาล้อเลียนไทม์จนคนแก่กว่าต้องขมวดคิ้วแน่นที่เดี๋ยวนี้น้องแมวน้อยโตมากพอจะล้อเลียนเขาได้แล้ว
“เดี๋ยวนี้แสบเหรอเรา” ไทม์ใช้มือทั้งสองข้างประคองแก้มสายชลแล้วบู้บี้ไปมาอย่างเอ็นดู สายชลหัวเราะร่าอย่างชอบใจ ขณะเดียวกันนั้นหางตาเหลือบไปเห็นน้ำชาในแก้วของคนแก่กว่าพร่องไปเกินกว่าครึ่ง เด็กน้อยจึงอยากเอาใจคนรักที่สู้อุตส่าห์นั่งรอตนเป็นชั่วโมง
“วันนี้พี่ไทม์ไม่ดื่มกาแฟหรือครับ น้องเห็นในแก้วเป็นน้ำชา”
“พี่คิดว่าวันนี้หนูเลิกเรียนช้าเลยดื่มชาก่อนน่ะครับ รอหนูมาค่อยดื่มพร้อมกันดีกว่า” ไทม์คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้แฟนเด็ก
“งั้นเดี๋ยวน้องลงไปซื้ออเมริกาโน่เพิ่มน้ำผึ้งมาให้พี่ไทม์นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ลงไปซื้อขนมให้หนูดีกว่า”
“วันนี้ไม่กินขนมแล้วละ ภาลันน์น่ะสิซื้อเค้กกับชานมให้กินรออาจารย์จนอิ่มแล้ว” สายชลเอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้วพลางลูบท้องป้อย ๆ ท่าทางเหล่านั้นทำให้คนที่มองมาเผลออมยิ้มให้อย่างไม่รู้ตัว แต่ต้องสะดุดใจเมื่อได้ยินชื่อ ‘ภาลันน์’ เพื่อนสนิทคนโปรดของสายชล ถึงเขาจะไม่ชอบใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าคอยหวงอยู่ห่าง ๆ
“ภาลันน์อีกแล้ว” ไทม์บ่นพึมพำ
“เพื่อนกันครับ พี่ไทม์ไม่คิดมากน้า”
สายชลลุกขึ้นแล้วหันซ้ายหันขวาก่อนจะจุมพิตแก้มของไทม์ฟอดใหญ่ ๆ “อเมริกาโน่เพิ่มน้ำผึ้ง แล้วรับครัวซองต์ด้วยไหมครับ” สายชลกระซิบเสียงแผ่วเบา ชวนให้คนฟังหวามไหวในใจ
ก่อนหน้านี้ไทม์ดื่มเพียงอเมริกาโน่เพิ่มช็อต สายชลเคยชิมแล้วรู้สึกว่ารสชาติขมสนิท จึงลองให้ไทม์เพิ่มน้ำผึ้งกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ซึ่งก็เหมือนไทม์ที่มีสายชลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเป็นเหมือนน้ำผึ้งหอมหวานที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตในแต่ละวันของกันและกัน เมนูนี้จึงกลายเป็นเมนูโปรดของไทม์ตั้งแต่นั้นมา...
“ถ้าหนูกินด้วยก็ซื้อมาได้เลยครับ นี่บัตรพี่นะ” ไทม์ส่งยิ้มหวานพร้อมกับฉวยจุมพิตแผ่วเบาที่ปลายจมูกของสายชล ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตสีเงินวาววับใส่ไว้ในมือ คนน้องจึงรีบเดินลงไปยังเคาน์เตอร์กาแฟด้านล่างของร้าน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?