ตอนที่ 6จูบก่อนจีบ… แบบนี้ก็ได้เหรอคุณ ?

รัตติกาลพยายามหักห้ามใจเพราะรู้ว่ามันเร็วเกินไปมากสำหรับพวกเขา ก่อนจะก้มลงไปหอมที่พวงแก้มเนียนอย่างทะนุถนอม

“นอนนะชล ดึกมากแล้ว” เขารีบเดินกลับห้องของตัวเองซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว กลางกายที่เริ่มปวดหนึบทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั่วร่าง

“พี่ไทม์… อยู่เป็นเพื่อนผมก่อนน้า” สายชลเดินโซเซมาหยุดอยู่หน้าห้องของพี่ไทม์ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบได้ มือบางกอดกุมแขนพลางใช้ใบหน้าถูไถไปที่แขนหนาของชายร่างสูงแล้วส่งสายตาออดอ้อน เสียงหวานเรียกชื่อเจ้าของห้องอย่างเย้ายวนน่าฟัง จนไทม์ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงหวาน ๆ นี้ ไทม์พยุงร่างบางมานั่งเอนกึ่งนอนตรงโซฟา หาหมอนหนุนหลังให้สบาย ในขณะที่ไทม์ง่วนอยู่กับการดูแลเด็กขี้เมาอยู่ สายชลก็คว้าเอวหนาเข้ามาสวมกอด ใบหน้านวลเนียนสายตาหวานล้ำซุกไซ้อยู่ตรงแผ่นอกแกร่ง สายชลเงยหน้ามองแล้วเชิดหน้าเผยอปากจุมพิตไทม์อย่างแผ่วเบา มือบางลูบไล้ทั่วแผ่นหลังดึงคนตัวสูงลงมานั่งข้างกัน แล้วลูบไล้เรียวขาไล่ไปที่สะโพกกลมกลึง

“ฮื้อ...” สายชลเชิดหน้า สายตาเลื่อนลอยจากความเสียวและตื่นเต้น มือหนาลูบไล้ที่ตุ่มไตในขณะที่ปากยังจูบดูดดื่มรับความหวานจากแมวน้อยตรงหน้า ไทม์ไล้ริมฝีปากลงมายังที่คาง เล็มความหวานจากซอกคอ แล้วซุกไซ้ไปที่แผ่นอกลิ้นอุ่นตวัดรับตุ่มสีชมพูจนแข็งเป็นไตจนคนใต้ร่างหลุดครางเสียงหวาน ยกแผ่นหลังลอยขึ้นมาบดขยี้สู้ลิ้นด้วยความเสียวซ่าน นิ้วบางจิกแน่นไปที่แผ่นหลังแกร่งเมื่อไทม์เลื่อนลงมาที่ท้องแบนราบ ลากลิ้นไปที่สะดือ สลับกับจูบหวานละมุน แล้วใช้ปลายจมูกหยอกล้อกับหน้าท้องอย่างชำนาญ ในขณะที่มือแกร่งปลดปราการด่านสุดท้ายด้วยท่าทีนุ่มนวล

“อ่า… พี่ไทม์ ไม่เอา พอก่อน” สายชลพูดเสียงกระเส่า สะโพกยกส่ายบดเบียดกับปลายจมูก ไทม์ลากลิ้นอุ่นค่อย ๆ หยอกเย้าก่อนจะครอบส่วนนั้นลงไปแผ่วเบา ลิ้นอุ่นลากตวัดพร้อมกับขยับปากขึ้นลง

“อ๊า พี่ไทม์ อื้อ” เสียงหวานที่ครางกระเส่าของสายชล ยิ่งทำให้ไทม์ชอบใจ ฉกชิมน้ำหวานพร้อมกับขยับปากให้เร็วขึ้น มือหนาเอื้อมไปลูบที่แก้มแล้วส่งนิ้วเข้าไปในปาก สายชลรู้งานเลียนิ้วไทม์อย่างยั่วยวนพร้อมกับดูดเสียงดังจ๊วบ

ไทม์ปลดเปลื้องชุดของตัวเองตามคนตัวเล็กที่ถูกถอดออกก่อนตั้งแต่เริ่มเกมรัก ส่วนที่แข็งขืนตระหง่านต่อหน้าสายชล ก่อนจะก้มไปซุกไซ้ที่ท้องน้อย พร้อมกับใช้มือเร่งความเร็วให้กับคนใต้ร่าง หยาดความสุขทะยานออกมาพร้อมกับคนตัวเล็กที่กอดเขาแน่น ไทม์กอดตอบอย่างละมุนแล้วค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมาซุกไซ้ที่คอ สบตากับสายชลที่ตอนนี้ตัวอ่อนปวกเปียกแทบจะละลายติดโซฟา ไทม์กุมมือสายชลมาจับที่แก่นกลางตน แมวน้อยก็ทำตามอย่างไม่ขัดขืน

“ฮื้ม…” ไทม์หลับตาพริ้มครางเสียงต่ำในลำคอ พลางเด้งสวนมือสายชลเบา ๆ

“เดี๋ยวพี่ไทม์หยิบของแป๊บนึงนะ แมวน้อย” ไทม์ก้มลงมาจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน พร้อมกับหันไปหยิบซองสีทองและหลอดเล็กในลิ้นชักข้างโซฟา

“คร่อก...” เสียงผ่อนลมหายใจแผ่วเบาดังมาจากคนบนโซฟา ใบหน้าผ่อนคลาย ร่างบางนอนสบายตัวอย่างน่าอิจฉาจนกรนออกมาเบา ๆ ไทม์ยืนมองร่างที่เปลือยเปล่าตรงหน้าก็เผลออมยิ้มพร้อมกับลอบถอนหายใจอย่างเอ็นดู

“ทิ้งกันไว้กลางทางเลยเหรอ แมวน้อย” คนตัวสูงเกาท้ายทอยแก้เขิน เข้าไปอุ้มคนตัวเล็กอย่างเบามือขึ้นมาแนบอก ก่อนจะพาไปวางลงบนเตียงนุ่มขนาดควีนไซซ์ ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกินเลยมากนักแต่เขาก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่มีอีกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเติมเต็มหัวใจที่ว่างเปล่า

[สายชล: เวลา 04.32 น.]

‘โอ๊ยปวดหัวเป็นบ้าเลย คอก็แห้งด้วย ในตู้เย็นมีน้ำเหลือไหมนะ เฮ้ย นี่มือใครวะ’ สายชลลุกแล้วชะโงกมองชายร่างหนาข้าง ๆ ตัวเอง

‘ฉิบหายแล้ว คุณไทม์ มาอยู่ห้องเราได้ไงวะ’ สายชลหันรีหันขวางหามือถือตัวเอง

‘เอ้า มือถือหายไปไหน กระเป๋าก็หายไป เสื้อผ้า ฮื้อออ ก็หายไป เออเดี๋ยวนะ ไม่ใช่ฝันนี่หว่า ที่เมื่อคืนเรากับพี่ไทม์ โอ๊ย ไอ้ชล ไอ้บ้า’

เพียะ สายชลเอามือตีหน้าผากตัวเองแต่ก็สะดุ้งเพราะกลัวคนข้าง ๆ ตื่น ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงค่อย ๆ หยิบเสื้อกับกางเกงใส่ แล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยความเงียบ จนกลับมาถึงห้องตัวเองและเริ่มนั่งคิดทบทวน นั่งพูดคนเดียวกับตุ๊กตากระต่ายในกล่องดนตรี

“นี่มันไม่จริงใช่ไหมวะ… เรากับพี่ไทม์”

“มีไปแล้วยังวะ หรือว่าภาพตัด ?”

“เจ็บสะโพกอะ แต่ก็ไม่ได้เจ็บตรงนั้น”

“หรือเผลอไปกระแทกอะไรเปล่าวะ”

“อะหรือ หรือว่า… ไม่จริงใช่ไหม ใช่แน่ ๆ งื้อ” ยิ่งคิดสายชลยิ่งท้อแท้ใจ ฟุบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่หนานุ่ม ราวกับจะให้หมอนกอดปลอบใจ

สายชลไขลานกล่องดนตรีฟังพร้อมกับความกลัดกลุ้มใจ ครั้งก่อนยังสับสนและยังสงสัยไม่กระจ่างเลยเรื่องที่ไทม์ทำดีด้วยจนเหมือนจะสนิทกัน แต่พอมาออกกองได้ถ่ายงานด้วยกันกลับทำตัวห่างเหิน และคราวนี้เขายังไปทำตัวรุ่มร่ามรุกอีกฝ่ายด้วยการโน้มเขามาจูบอีก ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกับครับเนี่ย !’

เสียงจากกล่องดนตรีบรรเลงขับขานเสียงใส ส่งให้สายชลผล็อยหลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย

[ดรีม: 06.20 น.]

“นี่คุณเลิกตอแยผมสักทีได้ไหม” ดรีมทำเสียงฟึดฟัด พลางก้าวเท้าแรง ๆ โดยมีราเชนทร์ก้าวเท้ายาวตามหลังมาติด ๆ ใบหน้าเรียบนิ่งแต่นัยน์ตาคมมองดรีมด้วยความยียวน อมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

นี่ไอ้คุณเชนมันเป็นบ้าอะไรของมันตั้งแต่คราวที่ไปฟิตติ้งชุดแล้ว ไหนใคร ๆ ก็ลือว่าคุณราเชนทร์เป็นคนขรึมมากกว่าคุณไทม์อีก กว่าจะพูดแต่ละคำดอกพิกุลแทบจะร่วง แต่ทำไมชอบยียวนกวนประสาทเขานักนะ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีธุระด้วยซะหน่อย ไปที่ไหนก็เจอไอ้คุณเชนที่นั่น ไอ้คุณเชนบอกกับเขาว่าเป็นพรหมลิขิต พรหมลิขิตห่าอะไรกันล่ะ เขาคิดเป็นเวรเป็นกรรมมากกว่า

‘ผมนี่รำคาญขี้หน้ามันมาก เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ไม่มีอะไรหรอกหมั่นไส้หน้ามัน ชอบทำเป็นเก๊ก ชอบลอยหน้าลอยตามาให้เห็นตลอด จะไปฟิตเนตก็เจอ ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็เจอ นี่ยังไม่รู้เลยว่าอยู่คอนโดฯ เดียวกันด้วยไหม ทำไมเจอกันบ่อยจังวะ แล้วทุกทีที่เจอนะชอบทำตัวหยิ่ง ๆ มองผมด้วยสายตาหื่น ๆ อะ บรึ๊ยยย ขนลุก คนเรามันสามารถจับคนกลืนกินด้วยสายตาได้ด้วยเหรอวะ ทำไมผมรู้สึกว่าถูกมันจับกินทางสายตาทั้งที่ไอ้คุณเชนมันก็แทบจะไม่พูดไม่เถียงอะไรมากนะ’ 

“นี่คุณ จะแกล้งอะไรผมอีก” ดรีมหยุดยืนอยู่หน้าห้องสายชล เพราะเช้านี้มีถ่ายงานเช้าต้องรีบไปเตรียมตัว เขาไม่มีเวลามาเสียประสาทกับเพื่อนคนสนิทของคุณไทม์หรอกนะ

“ผมเหรอ ไม่ได้แกล้งอะไรนี่” ราเชนทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่สายตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ 

“ก็เมื่อคืนคุณตามผมไปนั่งดื่มที่บาร์ แล้วไหนเมื่อเช้ายังออกจากห้องมาพร้อมกับผมอีก ผมจะเดินชายหาดคนเดียวรับลมทะเลให้สดชื่น คุณก็มาเดินตามให้เสียอารมณ์ ไหนจะแย่งโทรศัพท์ผมไปแล้วยังจะมาเนียนเซลฟี่ด้วยเมื่อกี้อีก” ดรีมพูดเสียงดัง พร้อมกับใบหน้าร้อนเห่อพลางยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ

“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากอยู่เป็นเพื่อน” ราเชนทร์พูดเสียงนิ่งพร้อมยิ้มอ่อน

รัตติกาลได้ยินเสียงเอะอะจากหน้าห้องเลยเดินมาแง้มประตูจนได้ยินบทสนทนาตั้งแต่แรก แล้วก็นึกแปลกใจว่าปกติแล้วราเชนทร์ไม่ใช่เป็นคนที่จะสนิทกับใครง่าย ๆ หากไม่ใช่เรื่องงานหรือติดต่อธุรกิจ ทว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ดูผิดแผกไปจากที่เคย มือขวาของเขากลับยืนเถียงกับเด็กเช่นนี้

“อ้าวว่าไงไอ้เชนเข้ามาก่อนสิ” รัตติกาลเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทก่อนจะหันไปยังคนที่เดินตามด้านหลังด้วยอาการที่เต็มไปด้วยพิรุธ “อรุณสวัสดิ์ครับคุณดรีม”

“สวัสดีครับ ตื่นเช้าจังเลยนะครับ”

“พอดีผมให้คุณเชนมาช่วยเคลียร์งานด่วนนิดหน่อยน่ะครับ” ไทม์หันไปขยิบตาให้ราเชนทร์ เขาแสยะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วพูดแบบไร้เสียงว่ามีอะไรจะเล่าไหมมึง

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาสายชลก่อนนะครับ” ดรีมยิ้มเขิน ๆ แล้วเอาคีย์การ์ดสำรองเปิดประตูเข้าไปในห้องสายชล

“ไอ้ชลไปทำอะไรมา ทำไมตัวมีแต่กลิ่นเหล้าเนี่ย”

‘แย่แล้วตัวร้อนจี๋เลย ไม่ได้การแล้ว จะโทร.ไปหาที่กองต้องวุ่นวายแน่ ๆ เลย’

ก๊อก ก๊อก ๆ ๆ

“ไทม์นะครับ คุณดรีม สายชลเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นบ่นเสียงดัง” 

“เข้ามาเลยครับ ผมไม่ได้ล็อค”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นไทม์ก็รีบพุ่งตัวเข้ามาที่เตียงสายชลเอามือทาบที่หน้าผาก แล้วลุกไปหยิบผ้าผืนเล็กแล้วเดินไปยังห้องน้ำ

“คุณดรีมลงไปบอกทีมงานก่อนดีกว่าครับ ว่าช่วงเช้าวันนี้อาจจะเลทสักหน่อย แต่ลงไปชัวร์ ส่วนธีมชุดว่ายน้ำเลื่อนไปก่อนก็ได้ ถ้าต้องเสียเวลาอยู่เพิ่มอีกวันผมรับผิดชอบเองครับ” ไทม์พูดพลางเช็ดตัวสายชลไปด้วย

“ส่วนสายชลเดี๋ยวผมดูแลหายาลดไข้ให้ก่อน เดี๋ยวคุณดรีมมาแล้วค่อยดูต่อก็ได้ครับ”

“งั้นรบกวนด้วยนะครับ” ดรีมพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วงสายชลมาก แต่จะให้เทงานทั้งหมดก็ไม่ได้ ดีเหมือนกันที่มีคนอยู่เป็นเพื่อนสายชล

“เอ้านาย อยากจะตามก็ตามมา” ดรีมหันไปเสียงดังใส่ราเชนทร์

“แหมคุณ จะให้ผมช่วยก็พูดจาดี ๆ หน่อยสิ” ราเชนทร์ยืนกอดอกพิงประตู แสยะยิ้มมุมปากหันมาสบตาดรีมอย่างยียวน

“เออ ๆ ก็ได้ คุณเชนครับ ช่วยลงไปเป็นไม้กันหมาให้ผมหน่อยครับ”

“หึ” เชนจ้องตาแล้วเลิกคิ้ว

“คุณเชนครับ ลงไปกับผมหน่อยสิครับ” ดรีมกัดฟัดกรอด ฝ่ายราเชนทร์ยิ้มร่าหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วรีบเดินตามคนตัวเล็กมาติด ๆ

“ไม่ต้องใกล้ขนาดนั้นก็ได้มั้งคุณ แทบจะสิงผมอยู่แล้ว แต่ขอบคุณนะที่ช่วยเคลียร์ปัญหายุ่ง ๆ วันนี้ และก็ช่วยคุยกับลูกค้าจนเขายกกองวันนี้แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรเลย คุณคอนเน็คชั่นดีจริง ๆ เลยนะเนี่ย ใครจะไปรู้ว่าคุณกับลูกค้าเป็นแฟนกันล่ะ”

“แฟนเก่า” ราเชนทร์เน้นเสียงแล้วจ้องหน้าดรีมอย่างต้องการจะบอกให้เจ้าตัวรู้เป็นนัยว่าเขายังโสด คนนั้นเป็นแค่แฟนเก่าเท่านั้น

“เออนั่นแหละ ยังไงผมขอบคุณมาก ๆ เลยนะ ไม่งั้นไอ้ชลแย่แน่เลย มันยังเด็กไม่เคยถ่ายงานแถมยังไม่เคยดื่มอะไรพวกนี้ด้วย”

“อ้าวไม่ได้รุ่นเดียวกันเหรอ”

“อ๋อ เออใช่ ๆ รุ่นเดียวกันแหละ ชลมันเหมือนเด็กไงหัวอ่อนอะไรแบบนั้น อย่าสนใจคำพูดอะไรผมเลยน่า รีบไปหาไทม์กับชลกันเถอะ”

“แค่เป็นเรื่องคุณ ผมสนใจทั้งนั้นแหละ” เชนพึมพำพูดเบา ๆ

“ว่าไงนะคุณ” ดรีมหันมาถามแบบไม่ได้ตั้งใจนัก

“เปล่านี่” ราเชนทร์เอ่ยห้วนแล้วรีบเดินฉับ ๆ นำหน้าไปกินอาหารเช้าของทางโรงแรม

‘เฮ้อเกือบไปแล้ว ผมนี่ปากรั่วทุกทีเลยสิน่าเอาจริง ๆ ไอ้คุณเชนมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนะ แต่มันชอบทำตัวนิ่งเกินไปสักหน่อยจนน่ารำคาญ ส่วนผมเป็นพวกชอบพูดชอบคุยพอเดินกับมันแล้ว เหมือนผมพูดกับเสาไฟฟ้าอย่างนั้นล่ะ นี่ก็ไม่เข้าใจทำไมมันถึงชอบไปไหนมาไหนกับผม ทั้งที่มีหนุ่มน้อยสาวน้อยอยากไปไหนมาไหนด้วยจะตาย หรือว่ามันเอาผมมาเป็นไม้กันหมา เออไม้กันหมาแหละ ต้องใช่แน่ ๆ ผมทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ทแบบนี้ ถึงจะตัวเล็กกว่าไอ้เชนมันหน่อยแต่ก็ยังหล่ออยู่ดีแหละ’ ดรีมคิดในใจพลางตักอาหารเข้าปาก

ห้องสายชล

“อ้าวคุณไทม์ พี่ดรีมไปไหนอะ” สายชลรีบลุกพรวดขึ้นมา ทำให้รู้สึกหน้ามืดจนต้องล้มตัวลงนอนอีกที

“ทีเมื่อคืนยังเรียกพี่ไทม์เสียงหวานอยู่เลย” ไทม์พูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม บิดผ้าขนหนูในมือแล้วเปลี่ยนผืนใหม่วางบนหน้าผากสายชลอย่างเบามือ ทำให้สายชลใบหน้าแดงก่ำลามมาถึงใบหู มือบางคลี่ผ้าที่วางบนหน้าผากมาคลุมทั้งหน้าด้วยความอาย

“เป็นอะไรไปครับน้องชล” รัตติกาลเลื่อนใบหน้าเข้ามาที่ข้างแก้ม ลมหายใจแผ่วเบาแต่อบอุ่นทำให้หัวใจสายชลเต้นไม่เป็นระส่ำ เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง รวมถึงส่วนตรงนั้นด้วยที่ร้อนวูบวาบเสียวซ่าน ภาพที่ไทม์กอดจูบซุกไซ้เมื่อขึ้นค่อย ๆ ลอยเข้ามาเป็นฉาก ไทม์เห็นแบบนั้นก็ดึงผ้าออกพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่ ๆ

“ทำไมหน้าแดง เมื่อคืนยิ่งกว่าหอมแก้มอีกนะ นอนซะเด็กดื้อ” ไทม์แกล้งเอามือลากไปที่หน้าท้องชล แต่ก็ถูกสายชลปัดมือออกแล้วห่มผ้าม้วนเป็นก้อนกลม

“พี่ไทม์กลับห้องไปก่อนก็ได้ ผมอยู่ได้ เดี๋ยวพี่ดรีมก็มาแล้ว”

“ให้พี่ได้ดูแลสายชลได้ไหม” ไทม์กุมมือบางขึ้นมาพลางแนบแก้มลงกับฝ่ามือ

“ฮะ อะไรนะ” สายชลทำตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน หน้าร้อนผ่าวใบหูแดงจัด

“ฟังไม่ผิดหรอก พี่ชอบสายชลนะ คือ...” รัตติกาลลูบท้ายทอยแก้เขิน แต่ไม่ทันตั้งตัวสายชลก็เอื้อมมือขึ้นมาปิดปากไทม์ สายตาสอดประสานกันภายใต้ความเงียบมีเพียงเสียงแอร์เท่านั้นที่ยังก้องอยู่ในความเงียบงัน ไทม์จับมือสายชลออกแล้วนำมาวางไว้ที่อกแกร่งด้านซ้าย ทั้งห้องเงียบเสียจนได้ยินเสียงหัวใจของคนทั้งคู่

“ดะ เดี๋ยวก่อน ๆ เราเพิ่งรู้จักกันไม่นานเองนะ ถ้าพี่จะมาดูแลเพราะเรื่องเมื่อคืน ไม่เป็นไรครับ ผมทำตัวรุ่มร่ามเอง” คนตัวเล็กรีบพูดเลิ่กลั่กจนเสียบรรยากาศ สายชลไม่กล้าให้บรรยากาศมันเป็นใจเกินไปหรอก เพราะตอนนี้มั่นใจเลยว่าเขาเริ่มจะหวั่นไหวให้สายตาและท่าทางอบอุ่นนี้ไปแล้ว แต่เขาก็ต้องเผื่อใจมาก ๆ เพราะพี่ไทม์อาจมองเขาเป็นแค่คนคั่นเวลาก็ได้ เขาทั้งหล่อ ดูดี และยังเป็นเจ้าของแมกาซีนดัง ไม่มีทางมาสนใจเด็กแบบเขาหรอก ผมคิดแล้วก็อดเศร้าไม่ได้จนเผลอทำหน้าหงอยออกไปแบบไม่รู้ตัว

“สายชล ฟังพี่ก่อนอย่าสิครับ” รัตติกาลโน้มใบหน้าลงมาประกบปากจูบสายชลแผ่วเบา มือหนาประคองแก้ม พลางใช้นิ้วโป้งค่อย ๆ ลูบไล้พวงแก้มเนียนด้วยความเอ็นดู

“ถ้าน้องชลว่ายังเร็วไปงั้นพี่ขอจีบชลนะ...” สายชลตกใจกับคำพูดของไทม์ที่พูดออกมาว่าจะขอจีบ ตอนนี้สมองคนตัวเล็กขาวโพลนเพราะความเขินอาย หัวใจที่เต้นระรัวทำให้สายชลนิ่งเงียบราวกับถูกสะกด รอยยิ้ม แววตา และกลิ่นหอมจาง ๆ จากคนตรงหน้า ช่างหน้าหลงใหลมาก 

“น้องชลไม่ตอบ พี่ถือว่าตกลงแล้วนะครับ น่ารักมาก” รัตติกาลเอ่ยสรุปแล้วก้มลงมาจุมติตอบอุ่นที่เปลือกตา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา

‘อะไรวะเนี่ย ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกับฝัน นี่ฝันอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย เมื่อคืนเราทำอะไรลงไป วันนี้พี่ไทม์ยังมาขอจีบอีก งงไปหมดแล้ว นี่เราปล่อยตัวปล่อยใจก่อนจะจีบกันอีกเหรอวะ พี่ไทม์เขาต้องสมองกลับไปแล้วแน่ ๆ คนโปรไฟล์ดีอย่างเขากับเด็กโนเนมอย่างเรา ปวดหัวจริง ๆ แต่ว่าไปแล้วพี่ไทม์อบอุ่นจริงๆนะ’ ขณะนั่งคิดทบทวนภาพที่ไทม์กอดจูบเขาก็ลอยมาในหัวอีกครั้ง ทำเอาคนตัวบางเขินจนต้องมุดผ้าหนี แต่เมื่อนึกถึงงานที่ต้องถ่ายก็ต้องรีบเรียกสติ

“พี่ไทม์ นี่กี่โมงแล้วครับ เรามีงานวันนี้อะ”

“อ๋อ วันนี้ยกกองไปก่อนนะ ให้ไอ้เชนกับคุณดรีมจัดการให้แล้ว ส่วนวันนี้เวลาของเรายังอีกยาวแมวน้อยของพี่” รัตติกาลลุกจากโซฟาเดินตรงมายังคนร่างบางพร้อมกับสายตาหวานหยดย้อย แขนแกร่งคร่อมลงมาที่คนร่างเล็กแล้วฉวยโอกาสจูบที่ริมฝีปากอย่างนุ่มนวล

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ