ตอนที่ 11 กบจำศีลใครกัน ไม่มีหรอก !?

“คุณเลือดออกนี่ รถผมอยู่ตรงนี้เอง เดี๋ยวพาไปโรงพยาบาลนะ” ชายร่างสูงพยุงคนตัวเล็กพร้อมกับช่วยเก็บกระเป๋ามาถือไว้ให้

“เอาผ้าเช็ดหน้าผมซับเลือดไว้ก่อนนะครับ ผมขอโทษอีกครั้งนะ” ชายแปลกหน้ามองหน้าสายชลแล้วทำสีหน้าตกใจ

“สายฟ้าเหรอ” ร่างสูงพูดพลางขมวดคิ้ว

“เอ่อ บอกว่าอะไรนะ สายฟ้า !?” สายชลตกใจเมื่อจู่ ๆ มีคนทักเขาว่าสายฟ้า

หรือว่า… นี่ข้ามเวลามาอีกแล้วเหรอ ผมยังไม่ทันได้หลับเลยนี่นา แล้วก็ไม่เห็นเหมือนในหนังด้วย ไหนอุโมงค์เวลา อ่านการ์ตูนมาเขาว่ากันว่าต้องมีอุโมงค์ตัวหนอนไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวก่อนนะเรียบเรียงสติก่อน เมื่อกี๊ยังอยู่ที่ร้านกาลเวลา แล้วเพิ่งออกจากร้านมาจู่ ๆ ก็ข้ามเวลามาแบบนี้เลยเหรอ ง่าย ๆ แบบนี้ !?

“เอ่อ คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวผมรีบพาไปโรงพยาบาลนะ” ชายแปลกหน้าพูดพลางทำหน้างง

“ไม่” สายชลพูดเหมือนคนละเมอ

“ไม่ไปได้ยังไง เลือดคุณไหลเยอะมาก แล้วยังดูเบลออีก” ชายร่างสูงเผลออมยิ้มกับท่าทางมึนงงของคนตัวเล็ก

“ไม่ ผมไม่ใช่สายฟ้า ผมชื่อสายชล”

“เอ้า สายชลก็สายชลครับ”

“ว่าแต่คุณชื่ออะไร”

“ผมชื่อราชันย์ เรียกผมซันก็ได้นะครับ ดูเหมือนเราจะรุ่นใกล้ ๆ กันเลย” เขากระตุกรอยยิ้มหวานด้วยสีหน้าเป็นมิตร

“คุณซัน รู้จักพี่ดรีมไหม” สายชลพูดด้วยน้ำเสียงสับสน

“ใช่ คุณดรีม บริษัท สกายดรีม แชร์ริ่ง หรือเปล่า” ซันถามพลางทำหน้าใช้ความคิด

“ใช่ ๆ ๆ ใช่ครับ” สายชลพยักหน้าแรง ๆ ทำให้ละอองน้ำจากผมที่เปียกฝนกระเด็นมายังคนข้าง ๆ

“เอ่อ ขอโทษครับ” สายชลเอามือลูบผมแก้เขิน

“ผมโทร.ไปหาคุณดรีมให้นะ ว่าแต่คุณจะไปบริษัทหรือไปโรงพยาบาล” ซันพูดพลางกดโทร.ออกหาคุณดรีม

“ไปหาพี่ดรีมครับ” สายชลพูดด้วยท่าทางดีใจ ราวกับมีหูมีหางกระดิก สร้างรอยยิ้มให้กับซันอย่างมาก

“น่ารัก…” ซันพึมพำพร้อมกับขับรถชำเลืองมองสายชลตลอดทาง

ระยะทางไม่ไกลนักแต่ด้วยจราจรที่ค่อนข้างติดขัด เนื่องจากถนนปิดไปถึง 2 เลน ซันเล่าว่าถนนเส้นนี้ซ่อมมาหลายรอบ ทำไปสักพักก็ทุบอีกไม่รู้ว่าอีก 3 ปีจะเสร็จหรือเปล่า

ทั้งสองคนพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันจนเพลิน สายชลรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วซันเป็นคนที่เรียกได้ว่าตลกเลยทีเดียว อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อนเพิ่มจะได้ไม่เหงาเวลาอยู่ที่นี่ ซันบอกว่าจะพาเขาไปเที่ยวด้วย น่าแปลกมากที่เราค่อนข้างสนิทกันไว อันที่จริงแล้ว ซันเป็นน้องชายของคุณราเชนทร์ผมเลยรู้สึกไว้ใจเขา อยากจะถามถึงพี่ไทม์เหมือนกันแต่ก็ยังไม่ค่อยกล้าสักเท่าไร ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เราก็มาถึงบริษัทของพี่ดรีม

“เฮ้ย… ไอ้ชล สายชลมึงจริง ๆ เหรอ” ดรีมเดินกึ่งวิ่งเข้ามาโผกอดน้องตัวเล็ก

“พี่ดรีม ผมมีเรื่องอยากถามครับ” สายชลรีบแย่งพูด

“กูก็มีเรื่องจะถามมึงเยอะเลย ไอ้ตัวดีจะไปไม่บอกกูเลย ตอนนี้กูเริ่มเชื่อมึงละ”

“คิดว่าเชื่อตั้งแต่แรกแล้วซะอีก” สายชลพูดไปพลางทำหน้างอน

“แหมมันน่าเชื่อไหมล่ะ มึงเป็นกู มึงจะเชื่อไหม” ดรีมกอดคอสายชลพลางเดินไปยังทางเข้า

“เออ นั่นสิเนอะ” สายชลหัวเราะ

“พี่ไทม์ล่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง” สายชลโพล่งถามด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ

“ไอ้เด็กแสบมานี่เลย เรามีอะไรต้องคุยกันเยอะเลยเข้ามาข้างในก่อน” ดรีมเดินกอดคอเด็กน้อยที่ไม่ได้เจอแสนนานเข้าไปยังบริษัท

เมื่อสายชลเข้ามานั่งในห้องทำงานของดรีมก็เริ่มรื้อตู้หาขนมกินเล่น จนคนที่โตกว่าถึงกับหัวเราะด้วยท่าทีที่ไม่เปลี่ยนไปสักนิดของคนตัวเล็ก

“ว่าแต่พี่สายฟ้าอยู่ไหมครับ” สายชลพูดพลางหันมองรอบ ๆ บริษัท

“เรื่องชลกับสายฟ้านี่มันยังไง สายฟ้ามันก็อยากจะคุยกับชลเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่รู้จะไปตามเจอกันที่ไหน ตอนนี้มันไปถ่ายโฆษณาที่เขาใหญ่อีก 2 วันถึงจะกลับ”

“ครับ” สายชลยิ้มหวานพร้อมกับกินช็อกโกแลตแท่งเล็ก ๆ

“ในห้องกูมีขนมด้วยเหรอวะ” ดรีมมอง ขมวดคิ้วแล้วบ่นพึมพำ

“อ๋อ ผมซ่อนเอาไว้เองแหละครับ” สายชลพูดพลางกินขนมแก้มป่อง

“ไอ้ห่า ดีนะมดปลวกไม่แดกหัวกูไปซะก่อน เสือกเอาวางไว้ใกล้โต๊ะทำงานกูด้วย” ดรีมขมวดคิ้วบ่นอย่างเอ็นดู

“ว่าแต่หายไปตั้งครึ่งปีกว่าเลยนะ พี่คิดว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว” ดรีมพูดพลางเปิดตู้ใบขนาดย่อม ๆ ข้างโต๊ะทำงาน

“พี่ว่ายังไงนะ… ครึ่งปี” สายชลทำหน้าตกใจ

“อื้ม ใช่แล้วเด็กน้อย อยู่ ๆ ก็หายไปวันนั้น คนอื่นเค้าตามหากันให้ยุ่งเลย จะไปก็บอกกันก่อนสิ เป็นห่วงแทบแย่” ดรีมส่งสายตามองเด็กน้อยที่กินขนมอย่างเป็นห่วง

“จริง ๆ แล้วผมกลับบ้านไปไม่ถึง 3 วันเลยนะพี่”

“บ้าน่า แกหายไปครึ่งปีกว่าแล้วจริง ๆ นะ ช่างเถอะ อ้าวนี่ของใช้ของชล พี่เก็บไว้ให้เผื่อวันนึงได้เจอกัน แล้วก็เจอจริง ๆ ด้วย” ดรีมหยิบโทรศัพท์ แล็บท็อป และของใช้ส่วนตัวพร้อมกับจดหมายอีกหลายซอง

“เดี๋ยวนะพี่ นี่มันซองอะไร” สายชลหยิบซองจดหมายพลิกดูไปมา

“อ๋อ ของไอ้ไทม์มันอะ” ดรีมตอบ

“แล้วมาอยู่นี่ได้ไงครับ”

“ไทม์เขียนไว้ให้ชลตอนที่ชลหายไป จริง ๆ แล้วพี่ก็พอจะดูออกว่าจีบกันอยู่ แต่ไม่คิดว่ามันจะเฮิร์ตขนาดนั้น ตัวพี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่พี่ก็ไม่ได้บอกความลับของชลหรอกนะ พี่หวังว่าวันนึง… สายชลจะกลับมาเคลียร์เรื่องนี้เอง” ดรีมพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมผิดวิสัยของเจ้าตัว

“แล้วตอนนี้พี่ไทม์…”

“ก็คงทำงานอยู่ที่บริษัทมั้งนะ ให้พี่โทร.หาให้ไหมหรือจะโทร.เองล่ะ” ดรีมหยิบโทรศัพท์พลางกดเตรียมโทร.ออก

“ไม่เป็นไรพี่ดรีม เดี๋ยวผมโทร.หาเองดีกว่า”

ดรีมเปิดโปรแกรมแชทสีเขียว ทักหาเพื่อนคนสนิท แล้วเลือกรายชื่อที่มีรูปประจำตัวในลุคเพลย์บอย ‘ราเชนทร์’

ดรีม ดนัย : ไงมึง

ราเชนทร์ : คิดถึงกูเหรอ

ดรีม ดนัย : สัตว์ กูมีเรื่องสำคัญ

ราเชนทร์ : มีอะไรสำคัญกว่ากูอีกเหรอ

ดรีม ดนัย : สายชลอยู่กับกูแล้วนะ

ราเชนทร์ : อีก 40 นาทีถึงนะเบบี๋

ดรีม ดนัย : บี๋พ่อง เค รีบมา

“พี่ดรีมผมขอยืมชาร์จโทรศัพท์หน่อยนะ เปิดไม่ติดอะ”

“อยู่แถว ๆ ลิ้นชักตู้ข้างโต๊ะอะชล หาเอาเองนะเดี๋ยวพี่รีบเคลียร์ปัญหาแป๊บนึง ชลอยู่เองได้ใช่ไหม” ดรีมเดินมาลูบหัวคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู

“อยู่ได้ครับสบายมาก พี่จะไปข้างนอกเหรอ”

“อยู่ในบริษัทนี่แหละ มีอะไรโทร.หาพี่ได้ตลอด บอกเลขาฯ ก็ได้นะ คุณดาวคนเดิมนั่นแหละ” ดรีมพูดไปหยิบเอกสารต่าง ๆ ไป เพราะเขามั่นใจว่าเดี๋ยววันนี้ต้องคุยเรื่องตัวแสบอีกเยอะ สายฟ้าก็ไม่อยู่จึงต้องรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย จะได้สบายใจ

[รัตติกาล – ไทม์]

ภายในห้องประชุม นิตยสาร ไทม์ อะเวย์ แมกาซีนดังที่วัยรุ่นและวัยทำงานต่างจับตามองและให้ความสนใจ อีกทั้งยังเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงอีกด้วย

บริษัท ปุญคีตะ เอนเทอร์เทนเมนต์ เป็นบริษัทสื่อของพ่อคุณไทม์ แต่ด้วยความที่คุณแม่เสียชีวิตเมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้คุณพ่อทำใจยอมรับไม่ได้ จึงสละตำแหน่งให้กับลูกชายคนโต แล้วมักจะออกไปเที่ยวรอบโลกมากกว่า นาน ๆ ครั้งถึงกลับมาประเทศไทย

บจก.ปุญคีตะ เอนเทอร์เทนเมนต์ มี 3 ส่วนใหญ่ ส่วนแรกคือนิตยสารทั้งสิ่งพิมพ์และออนไลน์ ส่วนที่สองคือพวกงานอีเวนต์ที่ไทม์ให้คุณราเชนทร์ร่วมเป็นผู้ดูแลอีกทั้งยังควบตำแหน่งผู้บริหารช่วยเขา หลังจากที่สายชลหายไป ไทม์ก็ค่อนข้างเก็บตัวเงียบ แต่งตั้งให้ราเชนทร์เพื่อนคนสนิทเป็นประธานบริหาร พร้อมกับแต่งตั้งน้องสาวให้คุมในส่วนงานสตูดิโอเพลงและมาร์เกตติ้งทั้งหมด โดยเขาถอยออกมาคุมทุกอย่างห่าง ๆ

“คุณรัตติกาล หรือไทม์ อดีตนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมักจะลุยงานเอง ในวงการจึงมักจับตามอง ทั้งเดินแบบ ออกงานอีเวนต์ อีกทั้งยังมีซิงเกิ้ลเพลงกับค่ายของตัวเองด้วย อื้ม เจ๋งเป็นบ้าเลยวะ” ราเชนทร์เปิดประตูพร้อมกับแซวเพื่อนสนิทเสียงดัง

“เรียกได้ว่าเก่งครบเครื่อง แต่ช่วงหลังมานี้หายหน้าหายตาจากวงการไปขลุกตัวทำนิตยสารอย่างเดียว เอ๊ะ เป็นเพราะอะไรกันนะ” ราเชนทร์เปิดไอแพดอ่านข่าวบันเทิง พลางทำเสียงล้อเลียนไทม์

ปัง !!! ไทม์ปิดแฟ้มเสียงดัง พร้อมกับมองเชนด้วยสายตาหาเรื่อง

“มึงมีอะไร ว่างมากหรือไง”

“โอ๊ยไม่กล้าว่างหรอกครับท่านกรรมการผู้จัดการ ที่คุณมึงให้งานผมก็แทบจะไม่มีเวลาไปควงใครแล้ว กูคิดผิดหรือเปล่าวะที่มาช่วยมึงเนี่ย”

“แล้วมีอะไร มากวนประสาทกูทำไม”

“ก็อยากมาหาเพื่อนไม่ได้เหรอ” เชนพูดทีเล่นทีจริง พลางลากเก้าอี้หน้าโต๊ะเจ้าของบริษัทมานั่งแล้วเอามือทั้งสองเท้าคาง จ้องมองเพื่อนสนิท

“ทำยังกับกบจำศีลไปได้” เชนกล่าวพลางยิ้มใส่

“อย่ามากวนประสาท กูอยากอยู่คนเดียว”

“อยากอยู่คนเดียวจริงอะเพื่อน” เชนพูดหยอกเย้า

“อื้ม” ไทม์ถอนหายใจ แล้วจ้องเพื่อนด้วยสายตาคาดโทษ

“โอเค้ ก็ได้ งั้นวันนี้บ่ายกูลางานนะ”

“งานมึงล่ะ”

“เดี๋ยวกูให้ซันช่วยทำแทน กูจะไปหาคุณดรีม” เชนทำหน้ายิ้มพริ้มเมื่อเผลอนึกถึงท่าทางกวนประสาทของอีกคน

“มึงกับคุณดรีมนี่ถึงไหนกันแล้ว”

“ไม่บอก” เชนนั่งกอดอกยิ้ม

“แล้วแต่เรื่องของมึงแล้วกัน จะไปได้ยังกูอยากอยู่คนเดียว”

“ไปก็ได้”

“ว่าแต่มึงเจอ…”

“เจอ…!?” เชนหันกลับมาแล้วลากเสียงแซว

“เออไม่มีอะไร ปิดประตูให้กูด้วยนะ”

“ไม่ปิด เปิดรับแขกบ้างจะได้ไม่อุดอู้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“พี่เชน ๆ” ราชันตะโกนเรียนราเชนทร์เสียงดัง จนพนักงานต่างยิ้มด้วยความเอ็นดู ถึงนิสัยและใบหน้าซันจะดูเด็ก แต่จริง ๆ อายุเกือบจะ 30 แล้ว ซันอัธยาศัยดี ทำงานเก่งมาก วาจาและการต่อรองเป็นเลิศเลยก็ว่าได้

“เออ กูกำลังจะหาตัวมึงพอดี หายไปไหนมาทั้งวัน”

“เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งบ่น” ซันยกมือห้ามประหนึ่งพระพุทธรูปปางห้ามญาติ

“วันนี้ผมเจอเนื้อคู่มาด้วย”

“เนื้อคู่อะไรมึง คนก่อนกูก็เห็นพูดแบบนี้” เชนพูดพลางขำความเจ้าชู้ของน้องที่ไม่ค่อยจะต่างกับตนเองสักเท่าไร

“ไม่พี่ คนนี้จริงจัง คนสุดท้าย เฟิร์สเลิฟ รักแรกพบเลยพี่ ให้แม่ไปขอเลยดีไหม” ซันพูดพลางทำหน้าเคลิบเคลิ้ม

“อย่าให้เสียงานแล้วกัน”

“เมื่อกี้ผมเพิ่งไปส่งเขามาด้วย โลกแม่งอย่างกลม คนอะไรไม่รู้โคตรน่ารัก ดูเลิ่กลั่กแต่ก็อ่อนโยน นัยน์ตาสีเทาที่สำคัญอยู่ที่บริษัทพี่ดรีมด้วย คนกันเองแท้ ๆ ทำไมไม่เคยเจอเลย”

“เดี๋ยวที่บริษัทดรีมงั้นเหรอ”

“ใช่พี่ น่ารักมากด้วย ชื่อเราก็เข้ากันนะ ซันกับชล น้ำกับพระอาทิตย์ คู่กัน คู่กัน”

“เดี๋ยวนะ ซันบอกว่าเจอใครนะ” เสียงไทม์ดังลั่นออกมายังหน้าห้อง พร้อมกับพุ่งตัวมายังซัน จนเด็กหนุ่มทำหน้าเหวอ

“มีไรเปล่าพี่ไทม์ ก็เจอคนผู้ชายคนนึง โคตรน่ารัก ชื่อสายชล ทำงานบริษัทพี่ดรีม”

“ทำไมเหรอพี่” ซันทำหน้างง

“เชน เดี๋ยวกูไปบริษัทคุณดรีมด้วย มึงจะไปใช่ไหม” ไทม์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ไหนว่าไม่อยากเจอกู ไม่อยากไปไหนไง”

“เร็ว รีบไปกัน อย่ามาพูดมาก”

“ว่าจะไปอยู่แล้ว ดูมึงเหมือนไม่สนใจเลยไม่บอก” ราเชนทร์ยังคงทำตัวไม่ทุกข์ร้อน

“ไอ้… เฮ้อมึงนี่ ไปเร็ว”

“ไม่จำศีลแล้วเหรอ” ราเชนทร์เอ่ยแซว

“อย่าพูดมาเร็วตามมา”

“อ้าวพวกพี่จะไปไหนกัน” ซันทำหน้างง

“ไปบริษัทดรีมอะ ซัน... พี่ฝากงานหน่อยนะ แต่ก็เคลียร์ให้จนหมดแล้วแหละ อยู่สแตนด์บายที่นี่แหละ”

“เดี๋ยวพี่เชน ไปบริษัทพี่ดรีมเหรอ ไปด้วยดิ อยากเจอชล” ซันรีบแย่งพูด

“มึงเงียบไปเลย กลับไปทำงานไป”

“อะไรกัน อยู่ ๆ ก็ไปกันหมด พี่ณพร พอจะรู้ไหมทำไมอยู่ ๆ พี่ไทม์ถึงออกจากถ้ำได้ ผมอยู่มาครึ่งปีไม่ค่อยเห็นพี่ไทม์จะอยากออกไปไหนเลย” เด็กหนุ่มหันหน้าหาคุณณพรเลขานุการหน้าห้องพี่ไทม์ แต่กลับโดนสายตาพิฆาต

“ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่ธุระของเรานะคะ” ณพรขยับแว่นหนึ่งทีแล้วก้มหน้าพิมพ์งานต่อ

“บรรยากาศตึงเครียดไปดีกว่า” ซันเดินออกจากหน้าห้องไทม์ ไปยังแผนกของตัวเอง

“อ้าวซัน ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอเลย” แพรววาวพูดพลางเดินเข้ามากอดแขนซัน ซันค่อย ๆ แกะมือบางของสาวน้อยออก

“ซันบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่ากอดแขนแบบนี้ มันดูไม่ดีนะแพรว”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย” แพรววาวทำหน้างอน

“ซันไปทำงานก่อนนะ โอ๊ย ๆ งานยุ่งมากเลย” ซันพูดพลางรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

รัตติกาลกับราเชนทร์รีบขึ้นรถเมอร์ซิเดสเบนซ์คันหรู พร้อมกับอารมณ์ที่ทั้งฉุนเฉียวและตื่นเต้นของไทม์

“เชน มึงรู้เรื่องนี้มานานแล้วเหรอ” ไทม์หันมองหน้าเชนแบบคาดคั้นเอาคำตอบ

“เรื่องอะไร” ราเชนทร์ขับรถพลางทำหน้าอมยิ้ม ขณะที่เหลือบตามองไทม์ที่ดูท่าทางเลิ่กลั่กเกินกว่าเหตุ

“ก็เรื่องที่ชลอยู่กับดรีมตอนนี้ไง”

“กูรู้ก่อนที่จะเข้าไปหามึงในห้องแป๊บเดียวเอง” ราเชนทร์พูดขณะขับรถไปด้วย ก่อนจะเอื้อมมือหยิบแบงค์ร้อยจ่ายค่าผ่านทางด่วน ดูสภาพอารมณ์ไทม์ตอนนี้ต้องทางด่วนเท่านั้น ถ้าเทเลพอตวาร์ปได้ คงทำไปแล้ว คิดแล้วก็อดอมยิ้มขำเพื่อนไม่ได้

“แล้วทำไมไม่รีบบอกกู” ไทม์ขมวดคิ้วเข้ม ๆ จนใบหน้าดูยุ่งเหยิง

“ก็เผื่อชลจะบอกมึงเองไง เซอร์ไพรส์กว่าเยอะ”

“มึงก็รู้ว่ากูพยายามตามหาอยู่ครึ่งปีละนะ” รัตติกาลเอ่ยพลางทอดสายตาออกไปยังท้องฟ้าด้วยสีหน้าที่มีความหวัง

“เออกูรู้ ถ้ามึงรักเขาขนาดนั้นทำไมไม่คบกันไปเลยวะไทม์”

“จริง ๆ ตอนนั้นมันก็ดีนะมึง แต่อยู่ ๆ ชลก็หายไปเลย หายไปแบบไม่ทันให้กูตั้งตัวเลย” ไทม์ถอนหายใจ แสดงสีหน้าเจ็บปวด

“เอาน่ามึง นี่ไงเดี๋ยวได้เจอกันแล้ว แล้วอย่าไปทำตัวงี่เง่าใส่น้องมันล่ะ”

เพียงเวลาไม่ถึง 15 นาทีก็มาถึงยังหน้าออฟฟิศดรีม รถหรูแล่นเข้าไปจอดที่จอดรถของลูกค้าหน้าบริษัท ชายร่างโปร่งทั้งสองคนเดินฝ่าความร้อนยามบ่ายด้วยความรีบร้อน แต่ดูแล้วไทม์น่าจะใจร้อนกว่าแดด เพราะตั้งแต่เดินลงจากรถก็แทบจะพุ่งเข้าไปราวกับเป็นบริษัทของตัวเอง

“ไงไอ้เชน ไหนบอก 40 นาที นี่ชั่วโมงนึงเลยนะ”

“คิดถึงกูขนาดนั้นเลยเหรอ” เชนก้มลงไปกระซิบข้างหูดรีม

“สัตว์” ดรีมสบถออกมา พานให้คนร่างสูงกว่าหัวเราะด้วยความชอบใจ

“เอ่อ สวัสดีครับ คุณไทม์” ดรีมยกมือไหว้ แล้วยิ้มหวานให้

“ยิ้มหวานเกินไปแล้วดรีม” เชนมองสายตาดุ

“จะทำไมกู” ดรีมยังคงยิ้มหวานต่อ

“เข้าไปข้างในกันคุณไทม์ สายชลอยู่ในห้องทำงานผม ป่านนี้กินขนมเต็มโต๊ะแล้วแน่ ๆ” ดรีมยิ้มหวานครั้นนึกถึงเด็กน้อยแล้วอดเอ็นดูไม่ได้

“มึงยิ้มหวานเรี่ยราดมาก” เชนบ่นพึมพำ

“เสือก” ดรีมหันไปพูดแต่ไม่ออกเสียง แล้วขยิบตาให้เชน

บานประตูเปิดออก สายชลเงยหน้าไปยังคนที่มาใหม่แล้วสบสายตาเข้ากับพี่ไทม์ ในขณะที่กำลังดูดน้ำช็อกโกแลตปั่นอย่างอร่อย ไทม์ก้าวเท้ายาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงคนตัวเล็ก

“สบายดีไหม พี่เป็นห่วงชลมากเลย” ไทม์เดินเข้าไปประชิดตัวสายชล แต่ก็ไม่กล้ากอด ถึงแม้เขาจะคิดถึงคนตัวเล็กมากก็ตาม

สายชลที่นั่งอยู่ช้อนสายตามองยังไทม์ มือบางกระชับอ้อมกอดไปยังเอวหนาของคนตัวสูง ท่ามกลางบรรยากาศที่ธรรมดาเหมือนทุกวัน แต่วันนี้เป็นวันที่แสนพิเศษอีกวัน

“เอ่อ ยังไงดีคะ คุณดรีม คุณเชนจะเข้าไปด้วยไหมหรือให้ปิดประตูเลยดีคะ” คุณดาวสาววายตัวยงพูดพลางมองสายชลกับไทม์กอดกัน แล้วจิ้นตัวบิด

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ