ตอนที่ 77 รายการอาหารของเหลาเฟิงฟู่

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นทันทีที่เสียงประกาศจบลง บรรดาชาวบ้านที่มามุงดูการแข่งขันของสองเหลาอาหารชื่อดังต่างพากันเงียบเสียงเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการปรุงอาหารของผู้แข่งขัน หนิงอ๋องแย้มรอยยิ้มให้กำลังใจจางอี้หมิงเมื่อเด็กน้อยเพียงหนึ่งเดียวก้มศีรษะคารวะทำความเคารพไปยังที่นั่งของแขกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย

อดีตพ่อครัวหลวงอย่างเล่อหยุนเองก็ยิ้มย่อง รายการอาหารที่เขาเลือกนำมาปรุงในวันนี้คือ ปักษาล่องลม หรือ ไก่รมชา นั่นเอง ขั้นตอนการปรุงปักษาล่องลมนั้นก็ไม่ยุ่งยาก

วัตถุดิบน้อยอย่างแต่กลับมีรสชาติที่น่าทึ่ง เล่อหยุนใช้ไก่ทั้งตัว ล้างทำความสะอาดและใช้ผ้าขาวซับน้ำให้ตัวไก่แห้งสนิท ตามด้วยสมุนไพรฮวาเจียว ขิง ต้นหอม ใส่ลงไปในตัวไก่เสร็จแล้วจึงกลัดด้วยไม้เสี้ยนเพื่อให้เครื่องเทศอยู่ในตัวไก่ไม่หลุดออกมา

หลังจากนั้นใช้เกลือเม็ดมาทาทั่วทั้งตัวไก่แล้วตามด้วยพริกหอมฮวาเจียวอีกครั้ง ก่อนนำไปพักไว้ให้ตัวไก่ได้ดูดซับเอาเครื่องเทศเข้าไป ทางเหลาอาหารเฟิงฟู่ทำปักษาล่องลมทั้งหมด 5 ตัว ในระหว่างที่รอหมักไก่ให้เข้าที่ พ่อครัวหลายคนของเหลาเฟิงฟู่ก็เดินมายืนชมพ่อครัวเหลาอาหารซิ่งฝูพลางส่งเสียงเยาะเย้ยถากถางไม่หยุด

“อาปิน เจ้าดูเหลาอาหารซิ่งฝู จนป่านนี้แล้วข้ายังมิเห็นทางฝ่ายนั้นตระเตรียมวัตถุดิบอาหารอันใดเลย สงสัยจะไม่มีรายการอาหารปรุงในวันนี้เสียแล้ว”

ผู้ช่วยอดีตพ่อครัวหลวงเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่มด้วยน้ำเสียงขบขันกับการกระทำของพ่อครัวเหลาอาหารคู่แข่ง เนื่องจากพวกเขาเห็นอีกฝ่ายทำเพียงนั่งปอกหนานกวา (แตงกวา) และไม้ไผ่อันเล็ก ๆ มาตลอดเวลากว่าหนึ่งชั่วยาม

“หึ หึ หึ สงสัยว่าเจ้าจะเดาถูกนะอาอี คงจะกลัวท่านเล่อหยุนจนทำอันใดไม่ถูกเสียแล้ว” ชายที่ถูกถามรับคำที่เพื่อนส่งมาให้อย่างออกรส อู๋หมินได้ยินเช่นนั้นจึงตั้งใจจะกล่าวโต้ตอบ แต่ได้อู๋เจ๋อคว้าแขนหลานชายเอาไว้เสียก่อน

“อาหมิน เจ้าอย่าวู่วาม กลับมาทำหน้าที่ของเจ้า” อู๋เจ๋อตักเตือนหลานชาย อู๋หมินจึงจำใจกลับมาทำงานในส่วนของตนเองต่อไปด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ทำอันใดมิได้

คอยดูเถิด เหลาอาหารซิ่งฝูจะต้องไม่ถูกหัวเราะเยาะเช่นนี้ไปตลอดแน่

“อาอี อาปิน เหตุใดเจ้าจึงได้ทำตนเยี่ยงนั้น ใครไม่รู้จะหาว่าข้ารังแกเด็กได้ เจ้านี่ไม่เอาไหนเลยเสียจริง” เล่อหยุนกล่าวอย่างเรียบนิ่ง ถึงแม้ปากจะเอ่ยห้าม แต่ใครได้ฟังก็เข้าใจว่าเป็นการห้ามปรามไปเช่นนั้นเอง หาได้จริงใจตามคำห้ามนั้นไม่

“ขอรับท่านเล่อหยุน” อาอีและอาปินเอ่ยรับคำ แต่ก็หาได้รับคำด้วยความจริงใจมากมายนัก พวกเขาปรายตามองคู่แข่งอีกครั้งก่อนที่จะกลับไปในกลุ่มของตนเอง เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วยามครึ่ง เล่อหยุนจึงนำไก่ที่หมักไว้นั้นขึ้นไปนึ่งให้สุก ในช่วงนี้ทางเหลาอาหารเฟิงฟู่เริ่มทำการหุงข้าวและจัดเตรียมสิ่งของจัดตกแต่งจานให้ดูสวยงาม

สมกับเป็นอดีตพ่อครัวหลวง การตกแต่งอาหารรวมถึงรสชาติ เล่อหยุนก็นำเอาความรู้มาปรับใช้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ทำให้เถ้าแก่เหลาอาหารเฟิ่งฟูเกาจ้านต้องผิดหวัง

ทางด้านเหลาอาหารซิ่งฝูเองนั้น พวกเขาปลอกหนานกวาและเหลาไม้ไผ่ รวมถึงหุงข้าวจวนจะเสร็จแล้ว

“พี่ชายหมิน ข้าวทั้งหมดหุงเสร็จแล้วใช่หรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงหันไปเอ่ยถามผู้ช่วยท่านลุงอู๋เพื่อความมั่นใจ

“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชายน้อย นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”

“เช่นนั้นพวกท่านเริ่มทำการฝานแตงกวาได้เลยขอรับ แล้วอย่าลืมปั้นข้าวให้เป็นก้อนดั่งเช่นที่เราฝึกกันมาด้วยนะขอรับ” จางอี้หมิงเอ่ยสำทับอีกครั้ง

ผ่านไปครึ่งชั่วยามไก่นึ่งของทางเหลาอาหารเฟิ่งฟูก็สุกได้ที่ เล่อหยุนจึงทำการรมชาเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อคำนวณเวลาโดยประมาณแล้ว ฝั่งของเขาจะเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดถึงหนึ่งชั่วยาม

การรมชาทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ก่อนทำการรมชา เล่อหยุนนำน้ำผึ้งผสมด้วยซีอิ๊วมาทาลงไปบนตัวไก่ที่นึ่งสุกแล้วเพื่อให้ตัวไก่มีสีสันสวยงาม หลังจากนั้นจึงนำข้าวสาร น้ำตาล และใบชาชั้นดีลงไปคั่วในหม้อจนน้ำตาลเริ่มละลาย เมื่อควันเริ่มลอยออกมาจึงนำหม้อนึ่งไก่ลงไปอบด้วย เขาใช้เวลาประมาณ 60 ลมหายใจ ก่อนจะยกหม้อลงจากเตาและทำการรมควันแบบนั้นไปอีกหนึ่งเค่อ เพียงเท่านี้ก็จะได้ปักษาล่องลมที่มีสีสันน่ากินและรสชาติล้ำเลิศแล้ว

เล่อหยุนตกแต่งอีกเพียงเล็กน้อย เขาทำการตัดชิ้นส่วนของปักษาล่องลมให้พอดีคำ ง่ายต่อการชิมของคณะผู้ตัดสิน นอกจากนำไปส่งให้กับคณะผู้ตัดสินแล้ว อาหารอีกหนึ่งชุดถูกนำไปขึ้นโต๊ะให้กับแขกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายได้ทดลองชิมเช่นกัน

“ไก่ชิ้นนี้อร่อย นุ่ม หอมกลิ่นชาเมื่อกินกับข้าวร้อน ๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว”

“ในเมืองหน้าด่านเช่นนี้ เพียงอาหารที่อร่อยและใช้วัตถุดิบน้อย ก็เป็นสิ่งที่พ่อครัวต้องคิดถึงเช่นกัน ปักษาล่องลม ถือว่าได้คุณสมบัติครบในข้อนี้”

“เครื่องเคียงและน้ำจิ้มก็ถือว่าใช้ได้ เข้ากันกับปักษาล่องลมยิ่งนัก”

เล่อหยุนยกมือคารวะรับคำชมด้วยใบหน้าเย่อหยิ่งยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินจากคณะผู้ตัดสินต่างเอ่ยคำชมตนเอง ไม่มีใครให้คะแนนด้านลบเลยแม้แต่คนเดียว

ทางด้านชาวบ้านชาวเมืองก็มิต่างกัน หลังจากที่ได้เห็นฝีมือการปรุงอาหารของเล่อหยุน รวมทั้งคำวิจารณ์ของผู้ตัดสินก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมา

เมื่อเวลาใกล้ยามอู่กระชับเข้ามาทุกที กลิ่นหอมของไก่รมชายิ่งทำให้ชาวเมืองรู้สึกหิวขึ้นมาแต่ก็ยังถือว่าพอทนได้ เพราะยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยามจะหมดเวลาแข่งขัน

“เป็นรายการอาหารที่น่าสนใจจริง ๆ สมแล้วที่เป็นพ่อครัวหลวงมาก่อน” หนึ่งในบรรดาแขกทั้งหลายเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นรายการอาหารที่เหลาเฟิงฟู่นำมาแข่งขันในวันนี้

“น่าสงสารเหลาอาหารซิ่งฝูยิ่ง เช่นนั้นเหลาอาหารซิ่งฝูจะเอาอาหารอันใดมาสู้กันเล่า” พ่อครัวจากเหลาอาหารในเมืองหลวงแห่งหนึ่งเอ่ย

“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไป พวกเจ้ามิได้ยินข่าวเรื่องเหลาอาหารซิ่งฝูในเวลาครึ่งปีนี้หรอกหรือ หากว่าไม่แน่จริงคงไม่รับคำท้าเป็นแน่ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร” ท่านเจ้าเมืองเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นจึงเลิกวิจารณ์

ระหว่างที่ไม่มีอันใดทำกันแล้ว ทางเหลาอาหารเฟิงฟู่ก็หันมาดูการปรุงอาหารของเหลาอาหารซิ่งฝู จนถึงเวลานี้พ่อครัวคู่แข่งนอกจากหุงข้าว ปั้นข้าวเป็นก้อนเล็ก ๆ ปอกและฝานหนานกวา รวมทั้งเหลาไม้ไผ่แล้วก็หาได้ทำอันใดไม่

แม้แต่เล่อหยุนเองที่เป็นถึงอดีตพ่อครัวหลวงก็หาคาดเดารายการอาหารที่คู่แข่งจะทำการปรุงได้ไม่

พวกเจ้าคิดจะทำรายการอาหารอันใดกันแน่ เล่อหยุนคิดในใจขณะจ้องมองไปยังฝั่งพื้นที่ของเหลาอาหารคู่แข่ง

“อาอี เจ้าว่าพวกนั้นจะทำรายการอาหารอันใดกันแน่” อาปินเอ่ยถามสหายอย่างสงสัย

“แล้วข้าจะรู้หรือไม่ ข้ากับเจ้าก็ยืนมองพร้อมกันที่นี่” อาอีเอ่ยขัดเพื่อนพ่อครัวด้วยกันไปหนึ่งครา

เล่อหยุนหันมามองลูกน้องสองคนคุยกัน เขาส่งสายตาคาดโทษไปให้จึงทำให้อาอีกับอาปินเงียบเสียงลงไป

...

อาหารของเหลาอาหารเฟิงฟู่เสร็จเรียบร้อยทางผู้ตัดสินได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทางด้านเหลาอาหารซิ่งฝูยังมิได้ลงมือทำอันใด มีเวลาเหลือเพียงแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น อาจารย์เทียนถึงกับเสียกิริยาท่าทางลุกลี้ลุกลน พลางเปรยออกมาเล็กน้อย

“เถ้าแก่หลินเหตุใดท่านจึงดูไม่วิตกกังวลเช่นนี้”

“แล้วท่านอาจารย์เทียนจะให้ข้าวิตกกังวลเรื่องใดกันเล่า” เถ้าแก่หลินไห่เอ่ยถามกลับไปอย่างอ่อนโอน มิได้มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนอันใดเลย

“เจ้ามิเห็นหรือว่าเหลาอาหารซิ่งฝูยังมิได้ทำอันใดเลย นอกจากเหลาไม้ไผ่ ปอกหนานกวา หุงข้าวและปั้นข้าวเท่านั้น ทว่าเหลาอาหารเฟิงฟู่ทำเสร็จเรียบร้อยและนำไปให้คณะผู้ตัดสินตรวจสอบแล้ว เหตุใดเจ้าจึงใจเย็นอยู่เช่นนี้” ท่านอาจารย์เทียนเอ่ยร่ายยาวอย่างวิตกกังวล จนหนิงอ๋องอดมิได้เอ่ยปรามไปหนึ่งครา

“ข้ามิกังวลแม้แต่น้อย คราแรกข้าก็ปฏิเสธอยู่แล้ว หากแต่หมิงหมิงน้อยเป็นผู้อยากเข้าร่วมการแข่งขันนี้เอง แล้วข้าจะทำเช่นไรได้ ข้านั้นชอบตามใจหลานยิ่งนัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หลินไห่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ท่านอาจารย์ ข้าเชื่อว่าน้องชายหมิงต้องมีแผนการอยู่แน่นอน” อ๋องน้อยเอ่ยเบาๆ

“ท่านอาจารย์เทียน อย่าได้วิตกกังวลไปเลย ข้าเชื่อในความสามารถของเด็กน้อยนั่น หากไม่เชื่อ ท่านอาจารย์ก็คอยดูต่อไปเถอะ” หนิงอ๋องว่า ทว่ารับสั่งยังไม่จบ เหล่าพ่อครัวของเหลาอาหารซิ่งฝูก็มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ของฝ่ายตนแล้ว

อาหารที่ใช้เวลาทำเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม แต่จางอี้หมิงได้คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว พวกเขาจะต้องชนะอย่างแน่นอน

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ