ตอนที่ 86 แผนการ

วันเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกินสำหรับจางอี้หมิง เขาพักรักษาตัวอยู่ที่จวนอ๋องมาสักระยะแล้ว แม้อาการจะดีขึ้นแต่ท่านหมอกู้ก็ยังไม่วางใจ เหตุเพราะบาดแผลนั้นยังเด่นชัดอยู่แม้จะไม่ฉกรรจ์เช่นเดิม ดังนั้นเด็กน้อยจึงได้แต่เบื่อหน่าย อยากกลับไปทำงานที่คิดเอาไว้จะแย่

ทุกสองวันจางอี้เทาและหลี่อ้ายจะเดินทางเข้ามาในเมืองไห่ถังเพื่อเยี่ยมบุตรชายและรับงานต่าง ๆ ที่อี้หมิงวางแผนไว้กลับไปทำ รวมทั้งนำปัญหาที่พบเจอในการทดลองกลับมาปรึกษาด้วย

จางอี้เทาได้เกลี่ยกล่อมบ้านซุนให้เข้าร่วมกับบ้านจางเพื่อเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำงานด้วย แน่นอนว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดจางอี้หมิง เพราะแต่เดิมการผลิตหัวเชื้อน้ำตาลผัก บ้านซุนก็เป็นผู้ผลิตอยู่แล้ว

เด็กน้อยอธิบายให้เข้าใจว่าหัวเชื้อน้ำตาลผักนั้นมีมูลค่าน้อยกว่าการผลิตน้ำมันลูกหนาม อีกทั้งเรื่องการผลิตเกลือ เด็กน้อยยังมิวางใจผู้ใดแต่ครั้นจะให้ทำเอง สมาชิกบ้านจางที่สามารถเป็นแรงงานได้ก็มีเพียงแค่สองคนคือจางอี้เทาและหลี่อ้ายเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงคิดเกลี่ยกล่อมให้บ้านซุน หลวนซาน อาห้าว และคนหนุ่มจำนวนห้าคนที่ได้เคยร่วมฝ่าฟันภัยหนาวด้วยกันมาเป็นผู้นำสอนชาวบ้าน โดยการปลุกระดมให้ชาวบ้านหลัวถงทราบถึงความสำคัญ เงินทองที่จะได้จากการผลิตน้ำมันลูกหนามและถ่านที่จะส่งไปขายยังแคว้นเหลียงในอนาคต

การดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปด้วยดี เหลือเพียงอย่างเดียวคือการผลิตเกลือและเพิ่มข้อกฎหมายที่จะต้องให้ชาวบ้านค้าขายได้อย่างอิสระ ซึ่งจางอี้หมิงทราบมาว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันนัดพูดคุยวางแผนเกี่ยวกับการผลิตเกลือ ตามที่ท่านเจ้าเมืองได้ส่งสารมาแจ้งไว้

ทั้งนี้บาดแผลของเด็กชายก็หายวันหายคืน อาจจะเพราะยังเป็นเด็ก ร่างกายจึงฟื้นฟูได้ง่ายอีกอย่างหมอกู้ก็ดูแลท่านอ๋องน้อยจนจางอี้หมิงแทบจะไม่ได้ทำอันใดด้วยตนเองแล้ว

“เชิญขอรับท่านเจ้าเมือง คุณชายหวง” จางอี้หมิงเอ่ยเชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนนั่งลงเพื่อร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับข่าวสารที่ท่านเจ้าเมืองไปสืบความมาจากในเมืองหลวง

“เป็นเช่นไรบ้างขอรับ คิดว่าการถนอมอาหารจะมีหนทางชนะการแข่งขันในครั้งนี้หรือไม่” จางอี้หมิงเอ่ยถามเมื่อแขกผู้มาเยือนนั่งลงแล้ว

“ท่านอ๋องน้อย ข้าว่าการถนอมอาหารที่ท่านอ๋องน้อยคิด มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะชนะการแข่งขันขอรับ จากการไปเมืองหลวงในครั้งนี้ ทุกเมืองที่ข้าได้ข่าวมาต่างก็นำภาพวาดและของมีค่าเข้าร่วมการแข่งขันทั้งนั้น มีเพียงเมืองไห่ถังที่แตกต่างจากเมืองอื่น” ท่านเจ้าเมืองตอบคำถาม

“แล้วท่านเจ้าเมืองได้ลองสอบถามเกี่ยวกับการผลิตเกลือหรือไม่ขอรับ”

“ท่านอ๋องน้อย ข้าราชสำนักเป็นฝ่ายควบคุมการผลิตเกลือ ขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ ถูกเก็บเป็นความลับ หน่วยทหารที่ทำการผลิตก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แหล่งผลิตเกลือก็มีเพียงไม่กี่แห่ง การจะเข้า-ออกสถานที่นั้นก็ยิ่งกว่าคุกมืด รายได้จากเกลือที่ผลิตถูกแบ่งให้ผู้ถือครองสูตรราวสี่ส่วนสิบ ถ้าหากว่าเราเสนอให้การค้าขายเกลืออย่างอิสระ คาดว่าผู้ที่เสียผลประโยชน์คงมิยอมอยู่นิ่งเฉยเป็นแน่ขอรับ” ท่านเจ้าเมืองออกความเห็น

“ท่านเจ้าเมือง แล้วแคว้นจ้าวขาดแคลนเกลือหรือไม่ขอรับ”

“ท่านอ๋องน้อย มิว่าแคว้นไหนก็ขาดแคลนเกลือขอรับ ยิ่งแคว้นจ้าวกับแคว้นเหลียงยิ่งขาดแคลนหนักเนื่องจากสภาพอากาศของแคว้น

แคว้นจ้าวมีแต่ทะเลทราย อากาศร้อน อาหารขาดแคลนเช่นเดียวกับแคว้นเหลียง คงมีแต่แคว้นฉินของพวกเราที่อาหารอุดมสมบูรณ์ แต่อาหารที่ผลิตขึ้นมาก็ใช่ว่าจะมากเพียงพอส่งขายออกไปให้แคว้นจ้าวกับแคว้นเหลียงได้” ท่านเจ้าเมืองอธิบายให้เด็กชายเข้าใจ

“ปัญหาของเราคือไม่สามารถผลิตเกลือออกมาขายได้อย่างอิสระ เพราะอาจจะไปขัดผลประโยชน์ของราชสำนักและกลุ่มผู้ถือครองสูตรการผลิตเกลือ

หากทุกแคว้นขาดแคลนเกลือ ขาดแคลนอาหาร ดังนั้นการถนอมอาหารจึงเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างแท้จริง ถ้าเราสามารถทำให้แคว้นจ้าวระบุความต้องการสินค้าเป็นเกลือ เช่นนี้ก็ไม่เป็นปัญหาแล้วใช่หรือไม่ขอรับ กลุ่มผู้ถือครองสูตรการผลิตเกลือต่อให้มีสูตรแต่ไม่มีวัตถุดิบเพียงพอกับปริมาณเกลือที่ต้องการผลิตเป็นจำนวนมากถึงเพียงนั้น เช่นนี้อาจจะเป็นหนทางออกก็เป็นได้”

จางอี้หมิงหวนคิดไปถึงวิธีการผลิตเกลือของยุคนี้ หากให้คาดการณ์ก็คงเป็นการผลิตจากเกลือสินธุ์เทาที่ต้องขุดบ่อน้ำขึ้นมา แต่การที่น้ำจะออกจากบ่อและมีปริมาณเพียงพอให้ผลิตได้จำนวนมากก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งต่างจากการผลิตเกลือสมุทรของเขาที่ทั้งง่ายและน้ำทะเลก็มีให้ใช้ไปตลอดชาติก็ไม่หมด

“ปัญหาคือเราจะทำเช่นไรให้แคว้นจ้าวระบุสิ่งที่ต้องการมาได้เล่า” คุณชายหวงเอ่ยถามเสียงนุ่ม

“หรานเอ๋อร์คงลืมไปว่าอ๋องน้อยอี้หมิงเป็นถึงอ๋องน้อยของแคว้นเหลียง มีบิดาบุญธรรมที่เป็นหลานชายคนโปรดของจักรพรรดิแคว้นจ้าว เพียงท่านอ๋องน้อยส่งสารไปถึงท่านอ๋อง คาดว่าไม่น่าเกินเดือน แคว้นจ้าวจะต้องส่งสารกลับมายังแคว้นฉินเป็นแน่ เช่นนี้แล้วราชสำนักจะทำอันใดได้ นอกจากต้องป่าวประกาศหาผู้ที่สามารถผลิตเกลือส่งให้ราชสำนักเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเป็นเครื่องบรรณาการ ผู้ถือครองสูตรการทำเกลือเดิมก็คงทำอันใดมิได้เช่นกัน จริงหรือไม่ท่านอ๋องน้อย” หวงอี้กล่างสิ่งที่ตนวิเคราะห์ จนจางอี้หมิงคิดชื่นชมในใจ

แม้จะมากอายุแต่ก็เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ชายหนุ่มอย่างหวงห่าวหรานมองมิเห็น สมแล้วที่เป็นถึงเจ้าเมืองไห่ถัง ความคิด การคาดการณ์ต่าง ๆ ช่างเฉียบคม

“ถูกต้องแล้วขอรับท่านเจ้าเมือง แทนที่เราจะเข้าไปขอร้องราชสำนัก เหตุใดเราไม่ให้ราชสำนักเป็นฝ่ายขอร้องพวกเราแทน เช่นนี้นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาดการค้าขายเกลือจากเจ้าของสูตรเดิมกับราชสำนักได้แล้ว เรายังสามารถชนะการแข่งขันการหาเครื่องบรรณาการรวมทั้งสร้างอาชีพให้ชาวเมืองไห่ถังได้อีกด้วย” จางอี้หมิงยกยิ้มและกล่าวต่อ

“แต่ว่าแผนการนี้จะสำเร็จมิได้หากไม่ได้ท่านเจ้าเมืองออกหน้า”

“ท่านอ๋องน้อยต้องการให้ข้าทำเช่นไร ได้โปรดแจ้งข้ามาได้เลยขอรับ”

ท่านเจ้าเมืองถามขึ้นด้วยความกระตือรือร้น เพราะถ้าเกิดว่าเมืองไห่ถังชนะการแข่งขัน นั้นย่อมหมายถึงภาษีที่จะได้ละเว้นไม่ต้องส่งเข้าคลังหลวงทั้งปี

“แผนการเป็นเช่นนี้นะขอรับ ข้าจะส่งสารไปยังหนิงอ๋อง อธิบายผลดีผลเสียของแผนการนี้ให้ท่านอ๋องรับทราบ จากนั้นเพียงแค่รอจนกว่าทางวังหลวงจะประกาศหาผู้ที่สามารถผลิตเกลือส่งให้กับทางราชสำนักได้ หลังจากนั้นขอให้ท่านเจ้าเมืองเดินทางเข้าวังหลวง เป็นตัวแทนเมืองไห่ถัง ขอรับคำสั่งผลิตเกลือทั้งหมดเพื่อส่งให้เป็นเครื่องบรรณาการแคว้นเจ้า

โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ ให้ทางราชสำนักยกเลิกกฎการค้าขายเกลือผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวให้เมืองไห่ถังหรือผู้ที่รู้วิธีการผลิตเกลือสามารถผลิตเกลือและค้าขายได้อย่างอิสระ โดยที่เมืองไห่ถังจะจ่ายภาษีส่งเข้าท้องพระคลังเป็นจำนวนห้าส่วนสิบของราคาเกลือที่ขายได้” จางอี้หมิงอธิบาย ทว่ายังพูดไม่ทันจบ ท่านเจ้าเมืองถึงกับเสียมารยาทเอ่ยถามขัดกลางปล้องขึ้นมา

“ท่านอ๋องน้อย แต่เดิมผู้ถือครองสูตรจ่ายเพียงสี่ส่วนสิบ แต่นี้ท่านอ๋องน้อยถึงกับยอมจ่ายห้าส่วนสิบ เช่นนี้มิมากไปหรือขอรับ แล้วจะเอากำไรจากตรงไหน” ท่านเจ้าเมืองขมวดคิ้ว เขายังมองมิออกถึงข้อดีหากจะยอมจ่ายถึงครึ่งหนึ่งของราคาค้าขาย

“ขอท่านพ่ออย่าได้ตื่นตระหนกไปขอรับ ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องน้อยต้องมีวิธีการรับมืออยู่แล้วเป็นแน่ จริงหรือไม่ขอรับท่านอ๋องน้อย” คุณชายหวงเอ่ยเตือนบิดาให้หยุดตื่นตระหนกแล้วฟังความเห็นของด็กชายตรงหน้าต่อไป

“ถูกแล้วขอรับคุณชายหวง เกลือที่เราผลิตได้มันไม่มีต้นทุนอันใดมากมาย ราคาไม่จำเป็นต้องขายแพง ในเมื่อสินค้าราคาถูก กำไรก็ได้น้อย ดังนั้นภาษีที่ส่งให้ราชสำนักก็เสียน้อยตามไปด้วย แต่กำไรที่ขาวเมืองไห่ถังจะได้มาจากสินค้าที่มาจากการถนอมอาหารจากเกลือต่างหากเล่าขอรับที่มาก ในเมื่อเราต้องการให้เกลือราคาถูก สิ่งที่ต้องทำคือการผลิตเกลือออกมาให้ได้มากที่สุด ในเมื่อสูตรการผลิตเกลือมีแต่ข้าและชาวเมืองไห่ถังที่รู้ แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธการจ่ายภาษีให้กับราชสำนักได้

ถ้าหากว่าสูตรรั่วไหลออกไป มีคนเมืองอื่นรู้วิธีการผลิตเกลือ และในเมื่อกฎหมายให้ค้าขายเกลือได้อย่างอิสระ เช่นนี้การที่เมืองไห่ถังส่งภาษีน้อยลงก็หาใช่ความผิดของเมืองไห่ถังใช่หรือไม่ท่านเจ้าเมือง”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่านอ๋องน้อย ข้าตกใจแทบแย่ที่ได้ฟังว่าเมืองไห่ถังต้องจ่ายภาษีค้าเกลือห้าในสิบส่วนของกำไร แต่เมื่อได้ฟังแผนการของท่านอ๋องน้อยแล้ว ข้าขอนับถือท่านอ๋องน้อยจากใจจริงขอรับ เป็นวาสนาของชาวเมืองยิ่งนักที่ได้คนมีความสามารถเช่นท่านอ๋องน้อยมาอาศัยอยู่ในเมืองไห่ถังนี้”

“ท่านเจ้าเมืองก็ชมข้าเกินไป สิ่งที่ข้าทำทั้งหมดจะไม่สามารถสำเร็จได้หากว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือของท่านเจ้าเมือง ข้าเองก็ต้องขอขอบคุณท่านเจ้าเมืองเช่นกัน” จางอี้หมิงกล่าวขึ้นยิ้ม ๆ

“หากสามารถทำให้เมืองไห่ถังกลายเป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งในแถบชายแดนนี้ได้ ข้าก็นอนตายตาหลับแล้ว เจ้าเมืองคนไหนอยากก้าวหน้าไปทำงานในเมืองหลวงก็ช่างเขาเถอะ แต่ข้าหวงอี้ขอเป็นเจ้าเมืองชายแดนเช่นนี้แหละ ขอเพียงมีท่านอ๋องน้อยอยู่ที่นี่ด้วย ข้าก็มิกลัวอันใดอีกแล้ว”

ท่านเจ้าเมืองถึงกับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขาแก่จนผมจะกลายเป็นสีขาวทั้งหัวอยู่แล้ว ยังมิเคยได้พบกับเด็กคนไหนที่มีปัญญาล้ำเลิศถึงเพียงนี้ ช่างโชคดีจริง ๆ อย่างน้อยในอนาคตเมื่อหรานเอ๋อร์รับตำแหน่งต่อจากเขา บุตรชายจะได้มีที่ปรึกษาที่ดี

“ท่านเจ้าเมือง ข้าได้ตกลงกับครอบครัวแล้วว่าพวกเราจะถือเอาเมืองไห่ถัง หมู่บ้านหลัวถงเป็นที่ลงหลักปักฐานแน่นอนแล้ว ข้าก็อยากให้เมืองไห่ถังเจริญรุ่งเรือง ไม่น้อยหน้าเมืองอื่นหรือเมืองหลวงขอรับ ต่อไปในภายภาคหน้าคงต้องพึ่งพาท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับ” จางอี้หมิงยกมือคารวะท่านเจ้าเมืองหนึ่งครั้งอย่างนอบน้อมแม้ตนจะมีฐานะที่สูงกว่า

อานนท์วางแผนทั้งหมดตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนี้แล้ว เขาสู้ยอมอดทน ค่อย ๆ ต่อชิ้นส่วนของแผนการต่าง ๆ เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น...

นั่นคือการทำความหวังของท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านย่า ที่ปรารถนาจะนำป้ายวิญญาณของท่านปู่กลับมายังหมู่บ้านหลัวถงให้ได้

การที่จะกลับไปยังเมืองหลวง ครอบครัวจางต้องยิ่งใหญ่ มีกำลังและอำนาจเพียงพอที่จะต่อกรกับบ้านหลัก นั่นคือต้องทำให้ฮูหยินใหญ่เสียใจจนกระอักออกมาเป็นเลือดที่กล้าไล่ครอบครัวรองของเขาออกจากเมืองหลวง

รอก่อนนะฮูหยินใหญ่ เมื่อถึงเวลาข้าจะไปเยือนบ้านตระกูลหลักอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ