หน้าเหลาอาหารซิ่งฝูในตอนนี้มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินวนเวียนไปมาอย่างร้อนใจ ซีฮันชะเง้อคอมองหาสองพ่อลูกเจ้าของสูตรอาหาร และเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินกลับมาแล้วจึงรีบปรี่เข้าไปหาโดยไม่รอให้จางอี้เทาและจางอี้หมิงเดินมาถึงหน้าเหลาอาหารเสียด้วยซ้ำ บุรุษบ้านจางต่างวัยขมวดคิ้วพร้อมกันด้วยความสงสัย
เกิดเหตุอันใดขึ้นระหว่างที่พวกเขาสองคนพ่อลูกไปขายผ้าปักเช่นนั้นหรือ
“พี่อี้เทา หมิงหมิงน้อย พวกเจ้ากลับมาแล้ว รีบขึ้นไปหาเถ้าแก่และท่านลุงอู๋โดยเร็วเถอะ” ซีฮันไม่ปล่อยให้สองพ่อลูกเอ่ยถามอันใด เขารีบบอกออกไปทันที
“อาฮัน เกิดอันใดขึ้นเช่นนั้นหรือ” อี้เทาถามออกไปด้วยความข้องใจ
“เถ้าแก่น่ะสิ ร้อนใจอยากให้พวกเจ้ารีบกลับมาตั้งนานแล้ว เจ้าไม่รู้อันใดเสียแล้วว่าพะโล้มันส่งกลิ่นรบกวนทุกคน ลูกค้าที่มากินอาหารที่เหลาโวยวายเสียงดังยกใหญ่” ซีฮันบอกด้วยเสียงเครียดขรึม
“พะโล้ส่งกลิ่นรบกวนลูกค้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน” อี้หมิงพึมพำกับตนเองเบา ๆ
หรือว่ามีปัญหาในขั้นตอนการปรุง แต่เขาจำได้ว่าในการปรุงพะโล้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการหมักไปจนถึงการตุ๋น ก่อนที่เขาจะออกจากร้านไป มันไม่มีขั้นตอนไหนผิดพลาดนี่นา
“พวกเจ้าอย่าเพิ่งถามอันใดให้มากความเลย รีบตามข้าขึ้นไปพบเถ้าแก่กับท่านลุงอู๋ก่อนเถอะ” ซีฮันเอ่ยเร่งสองพ่อลูกอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองคนเงียบเสียงลงและเร่งฝีเท้าเดินตามไปทันที
เสียงถกเถียงดังเซ็งแซ่ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างทางเดินผ่านเข้าไปในเหลาอาหาร จางอี้หมิงมองไปรอบตัว เขารู้สึกเหมือนว่ามีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทขนาดหย่อม ๆ อยู่บริเวณโถงกลางชั้นล่างสุดของเหลาอาหาร
“พี่ซีฮัน เกิดอันใดขึ้นขอรับ หรือนี่คือปัญหาที่พี่พูดไว้ก่อนหน้านี้” จางอี้หมิงกระตุกชายแขนเสื้อของเสี่ยวเอ้อร์หนุ่มแล้วป้องปากกระซิบถาม
ซีฮันยังไม่ทันตอบคำถามของจางอี้หมิง เถ้าแก่หลินที่เห็นสองพ่อลูกบ้านจางเดินมาแต่ไกลจึงเดินเข้ามาหา
“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดพวกเจ้าสองคนพ่อลูกก็กลับมาเสียที หากเจ้ามาช้ากว่านี้เพียงหนึ่งเค่อ ข้าคงได้ไปนอนในโรงหมอแล้ว” หลินไห่ถึงกับยกมือขึ้นลบน้ำตาป้อย ๆ
“เกิดอันใดขึ้นหรือขอรับท่านปู่ พี่ซีฮันบอกว่ากลิ่นของอาหารมีปัญหา” เป็นอี้หมิงที่เอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อชายชราเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตนเอง
ตอนเดินเข้ามาในเหลาอาหาร เด็กน้อยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของพะโล้ ซึ่งมันก็ปกติดี ยิ่งเดินใกล้ห้องครัว กลิ่นของพะโล้ก็เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น
กลิ่นมันก็ไม่ได้เหม็นนี่นา
“ใช่แล้ว กลิ่นมันมีปัญหา หมิงหมิงน้อย ลองมองไปรอบๆ ดูสิ ลูกค้าเหล่านี้ล้วนเจอกับปัญหาเรื่องกลิ่นอาหารที่เจ้าทำทั้งนั้น จนข้าไม่รู้จะทำเช่นใดแล้ว”
“มันเกิดปัญหาอันใดขึ้นเล่าขอรับ”
จางอี้หมิงเกือบทนไม่ไหว ตัวเขาถามไปกี่ครั้งคนของเหลาซิ่งฝูก็บอกแต่เพียงกลิ่นมีปัญหารบกวนลูกค้า แต่ก็ไม่บอกเสียทีว่ามีปัญหาเช่นไร แล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้เรื่องกันเล่า...
“ลูกค้าทั้งหมดนี้ได้กลิ่นอาหารที่เจ้าทำแล้วต้องการที่จะลิ้มลอง ปู่ได้บอกไปแล้วว่าเหลาอาหารซิ่งฝูกำลังทดลองสูตรอาหารชนิดใหม่ ยังไม่พร้อมที่จะขาย แต่เพราะกลิ่นอาหารมันช่างล่อลวงให้พวกเขาอยากลิ้มลองมากเหลือเกิน”
“ยิ่งเวลานี้เป็นเวลามื้ออาหารของพวกเขา ลูกค้าทั้งหลายจึงประท้วงปู่อยู่เช่นนี้อย่างไรเล่า ทั้งที่ปู่ก็บอกไปแล้วว่าอาหารที่ทดลองปรุงขึ้นมานั้นมีปริมาณน้อย ไม่สามารถแจกจ่ายให้ชิมได้ทุกคน”
หลินไห่ถึงกับยกมือขึ้นมานวดบริเวณขมับข้างขวาเบา ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้เขาไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรแล้ว จะไล่ลูกค้าออกไปก็ทำไม่ได้ จะให้ชิมกันทุกคนก็มีปริมาณไม่เพียงพอ ที่สำคัญ เหลาอาหารของเขายังไม่มีใครได้ชิมรสชาติของอาหารเลยสักคน พะโล้ที่ปรุงอยู่นั่นอาจจะแค่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศเพียงเท่านั้น รสชาติอาจจะไม่ได้ดีเหมือนกลิ่นที่กระจายออกมาก็เป็นได้
“โธ่ ท่านปู่ ข้าก็นึกว่าเรื่องอันใด ทำข้าตกใจไปหมดแล้ว”
อี้หมิงถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก กลิ่นมีปัญหาเพราะมันหอมมากจนทำให้บรรดาท่านตา ท่านปู่ทั้งหลายที่มากินอาหารที่นี่ต้องการลิ้มลองนี่เอง เขาก็นึกว่ามีกลิ่นเหม็นอันใด
“เถ้าแก่หลิน ท่านตกลงได้หรือยัง”
เฉินเจีย คหบดีค้าผ้ารายใหญ่ของเมืองไห่ถังได้เอ่ยถามขึ้น เขาเป็นชายชราที่มีร่างกายใหญ่โต พุงนั้นยื่นออกมาเกินหน้าผากไปมากโข ชุดที่สวมใส่ก็สวยงามและประณีต จัดเป็นเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไห่ถังก็ว่าได้
“เถ้าแก่หลิน หากวันนี้พวกข้าไม่ได้ชิมอาหารชนิดใหม่ของเหลาซิ่งฝูก็อย่าหาว่าพวกข้าใจร้ายนะ” ฉีหมิงกล่าว เขาเป็นหัวหน้ามือปราบแห่งเมืองไห่ถัง เป็นไม้เบื่อไม้เบากับเฉินเจียมานาน
เนื่องจากในอดีต ทั้งสองคนเคยหลงรักหญิงสาวคนเดียวกัน แต่หญิงนางนั้นเลือกที่จะแต่งงานกับคหบดีเฉินเจียซึ่งมีรูปลักษณ์น่าเกลียดกว่า เพียงเพราะนางไม่อยากตกระกำลำบากกับฉีหมิงนั่นเอง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งสองคนจึงไม่ถูกชะตากันอีกเลย ทว่าพวกเขาทะเลาะกันด้วยเพียงวาจาเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ฉีหมิงก็แต่งงานออกเรือนมีครอบครัวเป็นของตนเองเช่นกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรวันนี้ถึงมากินอาหารที่นี่พร้อมกันได้
เสียงที่แย่งกันกล่าวออกมาอีกหลายเสียงดังลั่นยิ่งทำให้เถ้าแก่หลินถึงกับกลุ้มใจ ชายชราคาดว่าผมคงหงอกไปอีกหลายเส้นในวันนี้
“ท่านปู่ไว้ใจข้าหรือไม่ขอรับ รบกวนท่านปู่แจ้งแก่ลูกค้าทุกท่านว่าขอเวลาเหลาอาหารซิ่งฝูเพียงสองเค่อ แล้วท่านปู่จะจัดการเรื่องครั้งนี้ให้เป็นอย่างดีขอรับ” จางอี้หมิงได้ฟังปัญหาดังกล่าวแล้วจึงดึงแขนเสื้อท่านปู่หลินและกระซิบบอกความให้รู้ทันที
“เจ้ามีหนทางแก้ปัญหาแล้วเช่นนั้นหรือ หมิงหมิงน้อย”
“ใช่แล้วขอรับ ขอท่านปู่วางใจข้าได้ รับรองว่าวันนี้เราจะไม่เสียลูกค้าสักคนขอรับ”
“ได้ ๆ ปู่เชื่อใจเจ้า”
หลินไห่ได้ฟังดังนั้นจึงรีบเดินกลับเข้าไปในกลุ่มลูกค้า เขาแจ้งตามที่จางอี้หมิงบอก เมื่อเห็นว่าท่านปู่บอกความแก่ลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยจึงส่งสัญญาณให้เก้าแก่หลินเดินตามตนเองเข้าไปที่ครัว
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?