ตอนที่ 99 มีหรือไม่

จางอี้เทาและหลี่อ้ายก้าวลงจากรถม้าพร้อมกันเมื่อม้าวิ่งเข้ามาหยุดถึงหน้าเรือนตระกูลจาง พวกเขาเพิ่งกลับมาจากโรงหมอ หลี่อ้ายถึงกับโวยวายสามีเสียงเบาเมื่อเขามิยอมให้นางได้เดินเอง

“ท่านพี่เจ้าคะ ปล่อยข้าลงเถอะเจ้าค่ะ ข้ามิเป็นอันใดแล้ว” หลี่อ้ายพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดของสามีที่กำลังอุ้มนางอยู่

“มิได้หรอก น้องหญิงยังดูเหนื่อยล้านัก ขอให้พี่ได้อุ้มน้องหญิงเดินเถิด” จางอี้เทาไม่ฟังคำของภรรยา เขายิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก หลี่อ้ายจึงได้แต่ใช้มือคล้องคอสามีเอาไว้อย่างอ่อนใจ

“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเพียงแค่ตั้งครรภ์ มิได้เจ็บป่วยอันใดนะเจ้าคะ” หลี่อ้ายเอ่ยประท้วงออกมาเสียงไม่ดังมากนัก ด้วยนางกำลังอับอายต่อองครักษ์ของบุตรชายที่เดินตามหลังมาอยู่

“ยิ่งน้องหญิงกำลังตั้งครรภ์พี่ยิ่งต้องคอยดูแลไม่ห่าง วันนี้ช่างเป็นวันที่ดียิ่งนัก พวกเราได้ป้ายวิญญาณท่านพ่อกลับมา และน้องหญิงยังมาตั้งครรภ์อีก อาซานเจ้าว่าจวนเราควรจัดงานมงคลเพื่อฉลองความสุขดีหรือไม่”

จางอี้เทาเอ่ยถามองครักษ์ของบุตรชายด้วยน้ำเสียงร่าเริง ใบหน้าของเขายิ้มน้อย ๆ อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข หลังจากที่ทั้งสามคนมานั่งในห้องโถงของจวนแล้ว

“ดีขอรับ คุณชายน้อยคงยินดีมากกว่าผู้ใด” อาชีเห็นด้วยและยังเอ่ยถึงจางอี้หมิงอย่างล้อเลียน

“นั่นสิ หมิงเอ๋อร์อยากมีน้องมานานแล้ว เห็นที่ครานี้คงสมใจเสียที” จางอี้เทาตอบรับความเห็นของอาชี

“ท่านพี่เจ้าคะ เราสองคนสามีภรรยามิได้อยู่ร่วมพิธีจะมีปัญหาอันใดหรือไม่เจ้าคะ” หลี่อ้ายถามขึ้น เมื่อนั่งลงได้สักพักแล้วนางจึงคิดขึ้นได้ว่าป้ายวิญญาณพ่อสามีสำคัญเพียงไหนกับสามีและนางหู

“น้องหญิงมิต้องเป็นกังวลไป หากหมิงเอ๋อร์บอกว่าเรียบร้อยก็จะเรียบร้อยตามนั้น”

“ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้ารู้สึกใจคอมิดีเลย รู้สึกวูบโหวงในอกอย่างไรก็ไม่ทราบ...” หลี่อ้ายบอกสามีเสียงอ่อนแรง

จางอี้เทามองภรรยาด้วยสายตาเป็นกังวล เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ เมื่อครู่นางยังมิมีอาการเหนื่อยล้าหรือว่าเป็นอาการของหญิงตั้งครรภ์กัน บัณฑิตหนุ่มได้แต่แปลกใจอยู่ในอก ทว่ายังมิทันจะได้หาสาเหตุต่อไป เสียงโวยวายก็ดังมาจากหน้าประตูจวนเสียก่อน

“อาปา คุณชายน้อย ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นเช่นไรบ้าง” หัวหน้าองครักษ์อีเอ่ยถามลูกน้องเสียงดัง พลางเร่งฝีเท้าอุ้มจางอี้หมิงเข้ามาในห้องโถง โดยมีองครักษ์อีกคนอุ้มนางหูตามมาด้วย

“เกิดอันใดขึ้น!”

เป็นจางอี้เทาที่ตั้งสติได้ก่อนเอ่ยถามเสียงดัง เขาหลงลืมอาการป่วยของภรรยาไปสิ้น หลี่อ้ายเองก็รีบผวาไปหาบุตรชายทันที ด้วยความตกใจเมื่อเห็นองครักษ์ซึ่งนาน ๆ จะได้เห็นทีกำลังอุ้มบุตรชายและมารดาสามีเข้ามาที่โถงของจวน นางถึงกับลืมตัวว่าตนเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่

“คุณชายน้อยกับฮูหยินผู้เฒ่าจางถูกวางยาพิษขอรับ ตอนนี้อาปาได้ให้ยาระงับพิษเบื้องต้นไปแล้ว แต่อาการยังน่าเป็นห่วง ต้องทำการรักษาทันทีขอรับ” หัวหน้าองครักษ์อีตอบ

“รีบนำหมิงเอ๋อร์และท่านแม่กลับไปที่ห้องก่อน มีใครตามท่านหมอหรือยัง” จางอี้เทาสั่งการทันที หลี่อ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ทำท่าจะล้มลง เดือดร้อนให้จางอี้เทาต้องรีบเข้าไปช่วยประคองภรรยาไว้

“น้องหญิง ต้องเข้มแข็งไว้นะ เจ้าอย่าเพิ่งเป็นอันใดไปตอนนี้ อย่าทำให้พี่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง น้องหญิงทำเพื่อหมิงเอ๋อร์กับท่านแม่ได้หรือไม่” จางอี้เทาเอ่ยกับภรรยาเสียงวิตก คิ้วของเขาขมวดกันเป็นปมไว้แน่น

“ท่านพี่พูดถูกแล้วเจ้าค่ะ ข้าขอโทษที่อ่อนแอ ตอนนี้หมิงเอ๋อร์ต้องการมารดาที่สุด ข้าจะมาอ่อนแอเช่นนี้มิได้ พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ ไปหาที่ห้องหมิงเอ๋อร์กัน” ด้วยพลังของความเป็นแม่ที่เป็นห่วงลูกน้อยของตนเอง หลี่อ้ายจึงฝืนทำตนให้เข้มแข็ง นางถูกประคองด้วยสามีเดินไปยังห้องของบุตรชาย

“น้องหญิง ถึงแม้จะห่วงหมิงเอ๋อร์แต่อย่าลืมว่าเจ้าก็มีเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย ต้องระวังตนเองให้มาก” จางอี้เทามิวายเอ่ยเตือนภรรยาเมื่อเห็นว่าหลี่อ้ายรีบเร่งจะเดินไปหาบุตรชาย

“เจ้าค่ะท่านพี่”

สองสามีภรรยาประคองกันและกันเดินตามเหล่าองครักษ์ไปที่ห้องของจางอี้หมิงและหูไป๋หง แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เมื่ออาปากับเหล่าองครักษ์กำลังช่วยกันยื้อลมหายใจของเจ้านายทั้งสองคนอยู่ พวกเขาและคนอื่นในจวนจึงได้แต่มารวมตัวกันที่หน้าเรือนของทั้งสองคน

“ท่านพี่ เหตุใดจึงยังมิมีผู้ใดออกมาอีกเจ้าคะ ข้าใจจะขาดแล้ว”

หลี่อ้ายผู้ซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของสามีเอ่ยถามจางอี้เทาเสียงแหบแห้ง เนื่องจากนางร้องไห้ตลอดเวลาที่นั่งรอฟังผลการช่วยชีวิตของบุคคลทั้งสองในห้องนั้น

“องครักษ์เหลียงไป๋เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ต้องช่วยท่านแม่และหมิงเอ๋อร์ได้แน่นอน”

จางอี้เทาปลอบโยนภรรยาเสียงเบาและคล้ายกับปลอบใจตนเองไปในที ทั้งที่วันนี้ควรมีแต่เรื่องดีแท้ ๆ เหตุใดเมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วยาม ครอบครัวของเขาถึงกลับมาอยู่ในสภาพเหยียบแม่น้ำเหลืองไปเสียได้

เวลาผ่านไปราวสามชั่วยาม ประตูห้องของผู้ป่วยก็เปิดออกด้วยฝีมือของอาปาและหัวหน้าองครักษ์อี ส่วนอาลิ่ว(6) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการรักษายังคงอยู่ในห้องคนป่วย หลี่อ้ายและจางอี้เทาเห็นเช่นนั้นจึงรีบลุกไปหาทั้งสองคนทันที

“ท่านองครักษ์ หมิงเอ๋อร์กับท่านแม่เป็นเช่นไรบ้าง” จางอี้เทาเอ่ยถามอย่างวิตกกังวล

“ท่านจาง พิษที่คุณชายน้อยและฮูหยินผู้เฒ่าได้รับนั้นรุนแรงยิ่งนัก ด้วยคนหนึ่งก็เป็นเด็ก อีกคนก็แก่ชรา คาดว่ายาที่ข้าให้ไปคงยับยั้งพิษได้เพียงแค่สามวันเท่านั้น” เป็นอาปาที่เอ่ยตอบสองสามีภรรยา หลี่อ้ายได้ยินดังนั้นก็ทำท่าจะล้มลงไปอีกครั้ง จางอี้เทาจึงรีบประคองภรรยาไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม

“ข้าได้สั่งให้องครักษ์สองคนเดินทางกลับไปยังเมืองไห่ถังเพื่อนำยาชุบชีวิตที่ฝากไว้ในจวนอ๋องกลับมาที่นี่แล้วเพราะเราไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนป่วยในตอนนี้ได้ แต่ว่า...” หัวหน้าองครักษ์อีเอ่ยแจ้งให้จางอี้เทาและทุกคนทราบ

“แต่ว่าเมืองหลวงกับเมืองไห่ถังใช้เวลาเดินทางไปกลับกินเวลาเกือบเดือน ท่านแม่กับหมิงเอ๋อร์คงรอให้องครักษ์นำยาชุบชีวิตกลับมาไม่ได้ใช่หรือไม่...”

หัวหน้าองครักษ์อียังพูดไม่ทันจบ จางอี้เทาก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน

“เป็นเช่นนั้นขอรับท่านจาง”

หลี่อ้ายและบ่าวรับใช้หญิงทั้งหลายเมื่อได้ยินเช่นนั้นต่างพากันร้องไห้ออกมา หากต้องกินเวลาไปเกือบเดือน ทั้งจางอี้หมิงและนางหูคงไม่มีทางรอดเป็นแน่

“ข้าว่าเราอาจจะยังมีความหวังนะขอรับ” เป็นอาซานที่เอ่ยขึ้น เมื่อเขาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วพบกับป้ายทองเว้นโทษตายที่ถืออยู่ในมือ

“อาซาน เจ้ารู้อันใดเร่งรีบบอกมา” หัวหน้าองครักษ์อีเอ่ยเร่งลูกน้องของตน

“ฮ่องเต้แคว้นฉินต้องมียาชุบชีวิตแน่นอนขอรับ เราเพียงไปขอยืมยาชุบชีวิตจากฮ่องเต้แคว้นฉินมาก่อน เมื่อองครักษ์จากเมืองไห่ถังกลับมาเราก็เอาไปคืน แต่ถ้าหากว่าองค์ฮ่องเต้ไม่ยอม เราเพียงใช้กำลังบังคับหรือยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ เช่นนี้คาดว่าคงจะขอยืมยามาก่อนได้ขอรับ”

“อาซาน เจ้าฉลาดมาก เช่นนั้นให้เจ้าไปกับข้า อย่าลืมนำหยกผ่านทางติดตัวไปด้วย” หัวหน้าองครักษ์อีเอ่ยขึ้นสั่งการอย่างรวดเร็ว เขายังไม่ลืมหันไปแจ้งแก่สองสามีภรรยาต่อด้วย

“ท่านจางพวกข้าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด อาปาและอาลิ่วจะดูแลทั้งสองคนอย่างเต็มที่”

ทางด้านอาซานเองก็รีบกลับเข้าไปในห้องของจางอี้หมิงเพื่อนำหยกผ่านทางมาเก็บไว้ หลังจากนั้นองครักษ์ทั้งสองคนจึงทะยานหายไปจากจวน

“ท่านพี่เจ้าคะ”

“มีอันใดน้องหญิง”

“ท่านพี่ว่าฮ่องเต้จะมียาชุบชีวิตกี่เม็ดเจ้าคะ”

สิ้นคำถามของหลี่อ้าย จางอี้เทาและทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างเงียบเสียงลงพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ความกังวลยิ่งก่อในจิตใจอย่างเพิ่มทวีคูณ

นั่นสิ ...ฮ่องเต้แคว้นฉินจะมียาชุบชีวิตหรือไม่ ถ้าหากมี แล้วพระองค์จะมีกี่เม็ดกันล่ะ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ